สารวัตรเดือน-ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง ดวงเดือน ขุนทอง อายุ 33 ปี
สว.กก.ตชด.43 (งานจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริและกิจการพลเรือน )
สารวัตรเดือนเป็นลูกคนกลางของครอบครัวชาวสวน จ.พัทลุง
เริ่มแรกชีวิตตั้งใจเป็นพยาบาล มุ่งมั่นเข้าเรียนปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ คณะพยาบาลศาสตร์
ขณะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 หรือปี 2550 พี่ชายเป็นตำรวจเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ตอนแรก เธอคิดว่าจะเก็บสิทธิบรรจุและแต่งตั้งทายาทเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่น้องสาว
เมื่อเธอเรียนจนจบแล้วทำงานเป็นพยาบาลไปอีก 4 ปี ปรากฏว่าน้องสาวเลือกสายอาชีพอื่น
ได้ปรึกษาคุณแม่แล้ว สอบโอนย้ายมาเป็นตำรวจ รุ่น กอส.36 ในตำแหน่ง ผบ.มว.กก.8 บก.กฝ.บช.ตชด (หมวดแพทย์)
ก่อนสอบโอนย้ายมาตำรวจ เธอเป็นพยาบาลวิชาชีพ อยู่ตึกอุบัติเหตุและแผลไฟไหมน้ำร้อนลวก โรงพยาบาลสงชลานครินทร์
ได้ศึกษาต่อปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลด้านสุขภาพ และการรักษาการเจ็บป่วยของข้าราชการตำรวจในหน่วยแล้ว
ยังออกหน่วยให้บริการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ และทำหน้าที่อื่นๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
เช่น ครูผู้สอนวิชาการปฐมพยาบาลเบื้องตันให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ของหน่วย
“รู้สึกประทับใจและภูมิใจมากที่ได้มาทำหน้าที่พยาบาลของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน”
นอกจากนี้ยังมีอีกหน้าที่ ที่มีความภาคภูมิใจมาก คือการได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
เข้ารับการฝึกอบรมโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ หลักสูตรหลักประจำ รุ่นที่ 1/61
“เป็นเบ้า เป็นแม่พิมพ์”
รหัสประจำตัว B-214 ณ กองพันฝึกส่วนหลัง กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
หลังจบออกมาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นวิทยากรจิตอาสา 904
ในการถ่ายทอดให้ความรู้ โครงการเผยแพร่ขยายผลความรู้ตามโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ
ให้กับกำลังพลในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ
โดยจะบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย
เพื่อให้ทุกคนเกิดความรู้สำนึกรักสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพมหากษัตริย์ไทยที่ทำให้แผ่นดินไทยของเราดำรงอยู่ได้ตราบจนถึงทุกวันนี้
สารวัตรเดือนยังร่วมทำหน้าที่เป็นแกนนำให้ประชาชนจิตอาสาในการปฏิบัติหน้าที่จิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ”
การบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่น สังคมและประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนองพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ซึ่งพระองค์ท่านทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะ สืบสาน รักษา และต่อยอด ไว้ซึ่งพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
เพื่อสร้างความสุขให้เกิดขึ้นแก่ปวงชนชาวไทย และนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนสืบไป
“เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสได้สนองงานพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่สุด ขอตั้งปณิธานกับตัวเองว่า จะมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำหน้าที่นี้ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ
ก่อนนี้ช่วงปี 2019-2020 มีภาพในโซเชียล
เป็นภาพสารวัตรเดือน กำลังปฐมพยาบาลและปั๊มหัวใจให้กับชายผู้ที่ประสบอุบัติเหตุริมถนนจนฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ
นับเป็นเหตุการณ์ที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง
เมื่อถามถึงสเปคและสัดส่วนของสารวัตรมีท่าทีเคอะเขิน บอกสั้นๆไว้ว่า สูง 170 น้ำหนัก 56 รอบอก 34 เอว 29 สะโพก 38
“ชอบคนตัวสูง สุภาพและจิตใจดี”
ว.2ว.8นะทุกท่าน
เกรียงไกร พรมยะดวง บันทึก21/3/64