Thursday, December 26, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลตะครุบ ”นุ้ย-ดาริกา“แม่ค้าในไอจี ตุ๋นลงทุนซื้อเสื้อผ้าเหยื่อหมด1.2ล.

    สืบนครบาลตะครุบ ”นุ้ย-ดาริกา“แม่ค้าในไอจี ตุ๋นลงทุนซื้อเสื้อผ้าเหยื่อหมด1.2ล.

    สืบนครบาล ร่วมสืบ115 รวบ ดาริกาแม่ค้าในไอจีชักชวนให้ซื้อเสื้อผ้าล็อตใหญ่เสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท

    ตามนโยบายของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีออนไลน์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนนั้น

    วันที่ 30 ส.ค.67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก สส.บช.น.พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท. พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส. บช.น.

    สั่งการชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สว.ฯ ร.ต.ต.วิทยา ศรีกระจ่าง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร่วมกับนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 ร.ต.อ.สุวัฒน์ สายปัญญา,ร.ต.อ.วิเชียรไกร ไทยเสถียร,ร.ต.อ.อาชวินทร์ อ่องวงศ์,ร.ต.อ.หญิง พรอุษา จันทร์คง,ร.ต.อ.ชยุต อินทรครรชิต,ร.ต.ท.ปราชญ์ สอาดยิ่ง

    จับกุมน.ส.ดาริกา   อายุ 39 ปี  ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ 1124/2567 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมบริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

    พฤติการณ์ที่เป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับ เมื่อเดือนมกราคม 65  ผู้กล่าวหาได้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางแบรนด์เนม จากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (ig) ซึ่ง น.ส.ดาริกา หรือนุ้ย ผู้ต้องหา ฝากขายและผู้กล่าวหาได้รู้จักผู้ต้องหาโดยเห็นจากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (ig) ของ beauticity.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าของผู้ต้องหา

    โดยผู้กล่าวหาได้แอดไลน์หาส่วนตัว เพราะเห็นว่าขายสินค้าราคาถูกกว่าหน้าร้านปกติทั่วไป ซึ่งผู้กล่าวหาซื้อจริง มีสินค้าจริงแต่ซื้อปริมาณสินค้าน้อยมีมูลค่าหลักร้อยบาท ถึงหลักพันบาท และเป็นการซื้อผ่านแอปพลิเคชัน

    ระหว่างนี้ผู้ต้องหาพยายามพูดชักชวนผู้กล่าวหาให้ลงทุนซื้อสินค้าดังกล่าวมาขายเอง โดยเสนอว่ามีสินค้าอีกจำนวนมากแต่เป็นของพี่สาวผู้ต้องหาจะเอามาขายให้ผู้กล่าวหาและจะหาลูกค้าซื้อสินค้าให้ ผู้กล่าวหาจึงตกลงซื้อสินค้ามาขาย และเริ่มซื้อสินค้าเงินหลักหมื่นบาท เนื่องจากผู้ต้องหาได้ส่งสินค้าให้ตามที่ตกลง

    ต่อมาผู้ต้องหาได้ชวนให้ซื้อสินค้ามาขายล็อตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆโดยใช้กลอุบายต่างๆ มาหลอกลวงทำให้ผู้กล่าวหาหลงเชื่อ สั่งสินค้ามาขายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,809,590 บาท และผู้ต้องหาได้นำสินค้ามาส่งให้ผู้กล่าวหาคิดเป็นเงิน 572,930 บาท และผู้ต้องหายังไม่ส่งสินค้าให้ผู้กล่าวหา คิดเป็นเงินรวมจำนวน 1,236,660 บาท

    เมื่อผู้ต้องหาขอตรวจสอบว่าผู้ต้องหาได้โอนเงินไปชำระค่าสินค้าที่บัญชีธนาคารใด ผู้ต้องหาก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวงมาแต่ต้น จึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โคมคราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

    ในชั้นจับกุมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สน.โคกคราม  ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนว่า การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้กลายมาเป็นตัวเลือกอันดับแรกของใครหลายๆ คน ทั้งสะดวก ประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม ย่อมทำให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้นด้วย

    ฉะนั้นมาป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ด้วยวิธีการเบื้องต้น ดังนี้ ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆร้าน เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ ทำลายข้อมูลส่วนตัวบนกล่องพัสดุ ตรวจสอบบัญชีผู้โอน

    สืบประวัติของผู้ขายเบื้องต้น โดยนำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ โอกาสที่เราจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจะเกิดขึ้นน้อยมากหากเราใช้ “สติ”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments