สืบนครบาล รวบ “ไอ้แขก พ่อบังเกิดเกล้า” แอบล่วงละเมิดลูกในไส้ หนำซ้ำยังเผยแพร่คลิปไปให้คนอื่นดู อ้างว่าเกิดความหึงหวงซ้ำยังโบ้ยไม่รับว่าเป็นลูกแท้ๆ
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า มีคนร้ายชื่อ นายสรณคมฯก่อเหตุบังคับล่วงละเมิดกับลูกตัวเอง และยังถ่ายคลิปเก็บไว้ หนำซ้ำยังส่งคลิปไปให้ผู้อื่นดู เพราะเกิดความหึงหวง สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รับทราบ จากนั้นจึงได้กำชับให้ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 5 สิงหาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.
สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก ,จ.ส.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต, ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา , ส.ต.อ.ภาสกร บัวอ่วม ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการเจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
จับกุมตัวนายสรณคม หรือแขก อายุ 36 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1042/2567 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน”จับกุมได้ที่ห้องเช่าย่านซอยสุวินทวงศ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
พฤติกรรมการก่อเหตุเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 เวลา13.00 น. ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เหลือเพียงเด็กผู้เสียหาย นายสรณคมฯเรียกเด็กผู้เสียหายเข้ามาในห้องซึ่งอยู่ชั้น 1 ก่อนล็อคห้องและใช้มือจับหน้าอกและล่วงเกินเด็กผู้เสียหาย เด็กผู้เสียหายพยายามขัดขืน จนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ของป้า เด็กจึงสะบัดตัวหนีและวิ่งออกจากห้องไปบอกกับป้า จากนั้นป้าจึงไปบอกกับนายสรณคมฯว่าไม่ให้มายุ่งกับเด็กอีก
ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.67 เวลา20.00 น. นายสรณคมขึ้นมามาที่ห้องของเด็กผู้เสียหาย อยู่ชั้น 2 หลังจากที่เด็กผู้เสียหายตื่นขึ้นมา พบว่าถูกถอดเสื้อผ้าและรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ ได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด
สอบสวน นายสรณคมฯ ให้การว่า มีอะไรกับเด็กผู้เสียหายจริง อ้างว่ามีความรักต่อเด็ก และมีความสัมพันธ์กันประมาณ 1- 2 ปี เริ่มต้นเดิมทีเด็กผู้เสียหายเป็นลูกติดจากภรรยาเก่า และไม่ใช่ลูกของตน เพราะเชื่อว่าภรรยา(แม่ผู้เสียหาย)ไปท้องกับคนอื่น ต่อมาได้เลิกรากัน และได้มีภรรยาใหม่มีลูกด้วยกัน 3 คน เมื่อลูกสาวคนเล็กกับภรรยาใหม่อายุได้ 2 ขวบ ได้รับเด็กผู้เสียหายมาอยู่กับครอบครัวใหม่เพื่อให้มาช่วยเลี้ยงลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ เมื่ออยู่ด้วยกันได้แอบคบหากันมาจนบัดนั้นเป็นต้นมาโดยที่ภรรยาใหม่ไม่รู้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือต้องหา พบคลิปวีดีโอขณะล่วงเกินจำนวนหลายคลิป และมีลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ปรากฎในวีดีโอคลิปด้วย ,ภาพและวิดีโอโป๊เปลือยจำนวนมาก เป็นต้น และยังพบการส่งวิดีโอคลิปให้กับบุคคลอื่นช่องทาง แชทเฟซบุ๊คอีกด้วย
จากการซักถามพบว่า จับได้ว่าเด็กผู้เสียหาย เริ่มคบหาเพื่อนชายในวัยเดียวกันได้แอบดูแชทเฟซบุ๊คระหว่างเด็กผู้เสียหายและเพื่อนชายจึงเกิดความโมโห ส่งภาพและคลิปวีดีโอให้เพื่อนชายคนดังกล่าวหลายครั้ง และพบวีดีโอคลิปขณะที่ผู้ต้องหาบังคับให้เด็กผู้เสียหายขอโทษและกราบเท้าตน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งจากมารดาของเด็กผู้เสียหายว่า ได้เลิกรากับผู้ต้องหามาหลายปี ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะทำกับลูกสาวตนได้ถึงเพียงนี้ เพราะลูกสาวไม่เคยบอกสักครั้งจนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมด
ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีต่อมา และยินดีที่จะตรวจ DNA ด้วย เพราะตนไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ตัวผู้ต้องหากล่าว และยังบอกว่าตัวผู้ต้องหามักจะเป็นคนดื่มสุราเป็นอาจินและชอบโกหกอยู่เสมอ จึงตัดสินใจเลิกลาแต่ครั้งนั้นมา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.หนองจอก ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่ถือเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกิดกับคนใกล้ตัวในสถาบันครอบครัว สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย สิ่งหนึ่งที่คนรอบตัวควรจะให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความปลอดภัยก็คือ ต้องคอยเช็กคอยสังเกตอาการว่าเกิดอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ เราสามารถสังเกตพฤติกรรมของเด็กได้ ดังนี้
เด็กมีบาดแผล หรือรอยฟกช้ำตามร่างกาย มีอาการหวาดกลัว ซึมเศร้า วิตกกังวล เก็บตัว ไม่ยอมออกไปพบปะเพื่อน หรือไม่สุงสิงกับใครมีความคิดอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง มีอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย อาจหนีออกจากบ้าน หรือกลัวการกลับบ้านการเรียนแย่ลง หรือไม่สนใจการเรียน ความปลอดภัยเป็นพื้นฐานความต้องการของมนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศเป็นการคุกคามทั้งทางร่างกาย และจิตใจ การดูแลเอาใจใส่บุตรหลานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เหตุการณ์อันเลวร้ายดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตนเอง