กรณีตำรวจสืบสวนภาค2 จับกุมน.ส.เสาวลักษณ์ หรือเจ๊ปุ้ม ศรีราชา อายุ 38 ปี ที่ถูกจับไปก่อนหน้าในคดีทำร้ายร่างกายลูกน้อง 2ผัวเมีย โดยใช้ปืนตบและให้ลูกน้องไม้เบสบอลรุมตีจนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ตามยอด โดยถูกจับกุมดำเนินคดีไปเมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปนั้น
สืบภาค2 กัดไม่ปล่อยบุกทลายเครือข่าย เจ๊ปุ้ม อีกรอบเปิดเผยขึ้นเมื่อเช้ามืดวันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.ต. ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2นำกำลังเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งเงินกู้นอกระบบของน.ส.เสาวลักษณ์ เจ๊ปุ้ม ศรีราชา โดยนำหมายค้นจากศาลจังหวัดชลบุรี เข้าค้น 6 เป้าหมายเกี่ยวพันเชื่อมโยงเป็นหัวโต๊ะเงินกู้และลูกน้องในเครือข่าย
จับกุมนายสพล หรือพล อายุ 26 ปี หนึ่งในหัวหน้าโต๊ะ พร้อมพวกรวม8 ราย ยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง พระเครื่อง 25 องค์ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง สมุดบัญชีลูกหนี้ 4 เล่ม รถยนต์กระบะ 1 คัน ทองคำแท่งและทองรูปพรรณรวมน้ำหนักประมาณ 175 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประ มาณ 7,000,000 บาท
ทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งหมดได้มาจากการประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินนอกระบบ แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดในฐานความผิด “ร่วมกันประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” ซึ่งฐานความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มีรายงานว่าขณะตรวจค้นจับกุมพบปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 15 นัด และแม็กกาซีนปืน 1 อัน อยู่ภายในรถยนต์ของนายสพลหรือพล แจ้งข้อหาเพิ่มเติมในฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” ไว้อีกคดีหนึ่งด้วย จากนั้นนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ หลังจากจับกุมน.ส.เสาวลักษณ์ได้ บก.สส.ภ.2 ได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายทั้งหมดพบว่า เครือข่ายเจ๊ปุ้ม ประกอบธุรกิจเงินกู้นอกระบบมานาน 3- 4 ปี แบ่งหน้าที่ทำอย่างเป็นระบบมีหัวหน้าเครือข่าย หัวหน้าโต๊ะย่อย ฝ่ายหาลูกค้าและเด็กเก็บเงิน กระจายเป็นกลุ่มย่อยๆปล่อยเงินกู้ให้กับประชาชนโดยทั่วไป ด้วยการประกาศโฆษณาผ่านใบปลิวและทางโซเซียลมีเดียต่างๆ
มีทั้งปล่อยเงินกู้แบบรายวันในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน และแบบรายเดือนในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 60 ต่อเดือน หรือร้อยละ 720 ต่อปี มีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายหลายล้านบาทต่อเดือน จากการสืบสวนยังทราบอีกว่า เครือข่ายแก๊งเงินกู้ของเจ๊ปุ้ม มีพฤติกรรมทวงหนี้ที่ทำให้ลูกหนี้เกิดความกลัวด้วยการข่มขู่คุกคามในรูปแบบต่างๆ และเคยก่อเหตุทำร้ายลูกหนี้ที่จ่ายหนี้ไม่ตรงตามกำหนดจึงเป็นที่มาของการตรวจจับกุมเครือข่ายและสมุนเจ๊ปุ้มในครั้งนี่้
