Sunday, November 24, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันหน่วยปฎิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษภ.6

    หน่วยปฎิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษภ.6

     

    หน่วยปฎิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตำรวจภูธรภาค6 

    จัดเป็นหน่วยงานทางเทคโนโลยี่ที่ บิ๊กหนุ่ม-พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ตั้งขึ้นมาเป็นมือไม้ทำงานหลังเข้ารับตำแหน่ง

    ที่ตั้งหน่วยหรือ WarRoom แห่งนี้ อยู่ในกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6จ.พิษณุโลก ใกล้บ้านพักพล.ต.ท.อภิชาติ

    เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการสั่งการอย่างทันท่วงที หากเกิดเหตุใหญ่ขึ้นมาในเขตจังหวัดพื้นที่ คือ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร สุโขทัย

    เป็นการย่นระยะทางและเวลาเนื่องจากเส้นทางแต่ละจังหวัดมีระยะทางค่อนข้างไกล

    ส่วนผู้รับผิดชอบหน่วยปฎิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตำรวจภูธรภาค6  คือ พ.ต.อ.พล พิชัยยุทธ ผกก.สส.1บก.สส.บช.ภ.6   มือไม้คู่กายอีกคนหนึ่งของบิ๊กหนุ่ม-พล.ต.ท.อภิชาติ  

    พ.ต.อ.พลเล่าให้ฟังถึงหน้าที่ของหน่วยงานที่ว่า

    “นอกจากภารกิจที่ ตร.ส่งมา หน่วยนี้จะไปสืบสวนต่อจะลงไปในรายละเอียด เวลามีเหตุหรือคดีอาญาใหญ่ๆ จะจัดทีมลงไปสืบสวนทางเทคโนโลยี

    เช่น ไล่หาตัวคนร้าย ตรวจหาประวัติคนตาย ไล่หาเว็บไซต์ของคนร้ายที่ใช้อยู่ เอาข้อมูลจากเว็บไซต์คนร้าย ข้อมูลทางเทคโนโลยีทั้งหมดที่เราได้จะนำมาประมวลให้กับพนักงานสอบสวน…”

     “หลักจริงๆของหน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ  คือเป็นไม้เป็นมือให้ผบช.ภ.6  งานส่วนใหญ่ จะเป็นงาน ว.0 ที่สั่งมา งานนโยบาย ตร.”

    พ.ต.อ.นายร้อยตำรวจรุ่น42 บอกถึงหน้าที่หลัก

    สำหรับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ เป็นบุคคลากรที่เก่งด้านเทคโนโลยี  เวลามีสถานการณ์จะเข้าแอพพลิเคชั่นซูมรูม  คอนเฟอเรนซ์ที ได้เป็น 100 คน  

    ทุกคนสามารถใช้มือถือ คอนเน็กกันได้นั่งคุยกัน นายจะนั่งนี่ แล้วพวกที่ไปที่เกิดเหตุ สามารถบรรยาย ไปสอบถามพยาน ไปหาหลักฐาน ก็จะมีภาพจากที่นั่นเข้ามา

     สมมติว่า ใครที่อยู่หน้างาน สามารถที่จะส่งมาได้ ใช้กล้องจากมือถือส่งเข้ามา ทางนี้จะเห็นทุกอย่าง แล้วเราใช้การเชื่อมต่อวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ  ตร.ด้วย  

    ใช้ได้หลายอย่าง ส่วนใหญ่ผบช.ภ.6 จะมานั่งอยู่นี่  จะมาคอนเฟอเรนซ์ ตรงนี้นายบอกว่าสะดวกกว่า 

    สมัยนี้มันต้องเอาเทคโนโลยีนำการสืบสวน สืบสวนแบบสมัยเดิมช้าแล้ว บุคคลากรก็คัดเฉพาะตำรวจที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาอยู่รวมกัน 

    มาประชุมแลกเปลี่ยนความคิดกัน ลงไปในรายละเอียด มีทีมประมวล ว่าคนร้ายตอนนี้น่าจะอยู่ตรงนี้ๆ

    หลายคดีที่จับได้จากWarRoom  อาทิ คดีฆ่าชาวจีนยัดกระเป๋าทิ้งแม่น้ำที่กำแพงเพชร  คดียาไอซ์ที่ยึดได้ที่แม่สอด ขยายผลได้ผู้ต้องหา 6-7 คน

    คดีงัดตู้เอทีเอ็มที่ตาก  จับได้เพราะใช้หน่วยทางเทคโนโลยี บวกกับทีมสืบสวนยุคเก่า ผสมผสานกัน

    ส่วนคนรุ่นเก่าเขาสืบสวน เขาจะค่อนข้างนึกภาพออก ถ้าเขาได้ข้อมูลมา พวกนี้จะคิดจะมองภาพออกเลยว่าต้องการอะไรเพิ่ม ก็บอกไป

    แล้วทีมนี้ไปหามา ก็คุมทีมตรงนี้ไป จะประกอบไปด้วย 1.มันสมอง 2.กำลังของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จะประจำอยู่ที่นี่ 2 ชุด 24 คน เรียกเมื่อไหร่ต้องมา

    หน่วยนี้ขึ้นตรงกับผบช.ภ.6เวลามีคดีใหญ่ จะสั่งเลย 1ชุดไปที่เกิดเหตุแล้วเก็บข้อมูลมาให้หมด จะเร็วกว่า มีประสิทธิภาพกว่า

    ดังนั้น ถ้าเรามีทีมแบบนี้ สนับสนุนการปฏิบัติของท้องที่ ท้องที่เขาก็สบายใจเวลามีคดีใหญ่ๆ เพราะทีมของภาคจะลงไปเลย

    ส่วนรวมตรงนี้จะเป็นศูนย์กลาง หากมีเผชิญเหตุ สมมติคล้ายๆ เหตุที่โคราช  ต้องใช้กำลังหน่วย นปพ.หรือชุดปฏิบัติการพิเศษ  สมมติว่าเหตุเกิดแล้วท้องที่รับสถานการณ์ไม่ไหว ก็จะต้องประสานมาทางนี้

    เราเหมือนเป็นศูนย์กลางรับแจ้งงาน  ประเมินสถานการณ์ว่าจะต้องช่วยส่งกำลังลงไปหรือไม่ ถ้าท้องที่เอาไม่อยู่ จังหวัดเอาไม่อยู่ ก็จะส่งชุด นปพ.ของภาค มีอาวุธครบทุกอย่าง ผ่านการฝึกมาเข้าเผชิญเหตุ

    ถ้าเป็นคดีรุนแรง ชุดปฏิบัติการพิเศษของเรา จะลงไปเลย มีอยู่ 2 หมู่ ใช้ไม่เยอะเหมือนชุดหนุมาน กองปราบฯ อย่างนี้ แต่ของเราออกแผนไว้แล้ว

    ชื่อชุด นเรศ 58  แยกต่างหากจาก นปพ. เหมือนคอมมานโด ผ่านการฝึกนเรศวร 261 ฝึกสวาทแอดวานซ์ ฝึกสไนเปอร์ ผ่านการฝึกมาหมดแล้ว

    กรณีคนร้ายมีอาวุธรุนแรง ก็จะพิจารณาว่าจะส่งหรือไม่ หรือทางโน้น ร้องขอขึ้นมา ก็จะส่งให้ทันที ทั้งนี้หน่วยนเรศ 58  จะมี ผกก.ปฏิบัติการพิเศษ บช.ภ.6 เป็นคนควบคุม เวลากำลังที่จะต้องใช้  ก็ยก 24 คนมาอยู่ที่นี่ แยกต่างหากจาก นปพ. 

    สำหรับ พ.ต.อ.พล จัดว่าเป็นอีก 1 นายตำรวจที่ใช้เรียกเป็นลูกหม้อกองปราบฯลู กหม้อ บช.ก.ก็ว่าได้

    เจ้าตัวเล่าถึงเส้นทางชีวิตสีกากีที่ผ่านมาว่า

    จากที่อยู่กองปราบ  มันเป็นประสบการณ์  เราได้เก๋า  อ่านเกมขาด  มองงานเหมือนเราทำงานจากข้างบนมองลงมาข้างล่าง แล้วพอมาอยู่พื้นที่ ก็ง่าย

    อยู่กองปราบฯครั้งแรก เป็น รอง สว.ผ.3 กก. 4ป.  ประมาณปี 2539 สมัยนายนึง(คำนึง ธรรมเกษม)

    สมัยก่อน  กก.4 ป.จะคุมภาค 2-4ยุคนั้นมีพี่วรนิต ทองมี เป็น ผกก. ตอนนั้นอยู่ยาวเลย เป็น รอง สว.2 ปี แล้วขึ้นเป็น สว.ผ. 4 กก. 3ป.  มาอยู่กับพี่น้อย-สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ฝึกวิชากับแก

    จากนั้นมาเป็นพี่ไก่-ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง  พี่ศักดิ์-สมศักดิ์ จันทะพิงค์ หลังจากนั้นออกภูธร ไปอยู่ สภ.เมือง หนองบัวลำภู 1 ปีแล้วกลับเข้ามาเป็น สว.ป่าไม้  คุมภาค 4 รวม 11-12 จังหวัด ทางอีสานตอนบน

    เป็น สว.ป่าไม้ อยู่ปีกว่าๆ หลังจากนั้นก็มาเป็นนายเวร นายชัจจ์ กุลดิลก ตอนนั้นพี่หนุ่ม-พล.ต.ท.อภิชาติ  เป็นหัวหน้าสำนักงาน   ผมก็มาเป็นนายเวร คนสุดท้าย

    ลงจากนายชัจจ์ ก็กลับมาอยู่กองปราบ ยาวเลย  มาเป็น สว.ผ.5 กก. 4 ป. พื้นที่เดิม   ยุคท่านเสรี ก็มีการปรับ การโยก  ปรับไปปรับมา   ไปอยู่กอง 4 คุมพื้นที่กอง 4 มาตลอดเลย

    กอง 4 กองปราบฯ ปัจจุบันก็คือภาค 5-6  ก็คุ้นเคยอยู่ในพื้นที่นี้มาตลอด  ตั้งแต่อยู่กองปราบ พอลงมาตรงนี้ก็ง่าย

    ขึ้นจาก สว.กอง 4 เป็นรอง ผกก. ช่วงแรกปี 2549 มีพี่เซ้ง-ประเสริฐ พัฒนาดี เป็นผกก. จากนั้นเป็นรอง ผกก. อยู่กองปราบ หลายปี แล้วไปอยู่ ฝอ.จาก ฝอ.กลับไปอยู่ป่าไม้    ปคม. รถไฟ สุดท้ายก็มาขึ้นผกก.ที่นี่ 

    ครับ…นี่คือเส้นทางชีวิตราชการ พ.ต.อ.พล พิชัยยุทธ อีก 1 ในนักสืบมือไม้คู่กายบิ๊กหนุ่มพล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ครับ

    กากีกลาย27/9/63

     

            

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments