รู้จักกันดีหรือยัง? น่าจะเป็นประโยคคำถามที่เริ่มต้นบรรทัดแรกสำหรับบทสัมภาษณ์ผู้ประกาศหนุ่มคุณภาพล้นจออย่าง นายธราวุฒิ ฤทธิอักษร หรือ แซค ผู้ชายมาดมั่น เติบโตจากจังหวัดสงขลา ก้าวเข้ามาสู่แวดวงสื่อสารมวลชนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่มี “เสียงลือ เสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอย…..” ถูกล่าวขานกันแซ่บหนาหู กลายเป็น Talk of The Town ให้กระจอกข่าวพูดกันไปปากต่อปาก จะด้านดีน้อย – ดีมาก ที่แว่วผ่านเข้าหูใครต่อใครไปในหลายรูปแบบ …..แต่ เดี๋ยวค่ะ …อย่าพึ่งเชื่ออะไรหมดใจเลยนะคะ….
วันนี้คอลัมน์ CAN I SHOW จะพาท่านผู้อ่านมาเปิดทุกมุมมองชีวิต สยบทุกความคิดที่บางคนอาจพากัน “รู้สึก” …ด้วยเพราะอะไรก็ตามแต่ ลองใช้เวลาซัก 10 นาที อ่านบทสัมภาษณ์เรื่องนี้ให้จบ หลังจากนั้นก็สุดแล้วแต่ใจว่าใครจะมอง ที่ดูภายนอกแล้วสุดแสนจะน่าหมั่นไส้ มีความหยิ่งแบบจรริงจัง แท้จริงแล้วมันยังไงกันแน่
เกริ่นกันตรงนี้ก่อนเลยว่า … ชีวิตเค้ายิ่งกว่านิยายเล่นละ 3 บาท ……แต่ๆๆๆ คลับไฟร์เดย์เดอะซีรี่ย์ เคยเอาเรื่องราวของเค้าไปทำละคน ชื่อตอน “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน” เพิ่มมูลค่าจากนิยายเล่มละ 3 บาท กลายเป็นสร้างเรตติ้งถล่ม ทลายให้กับช่อง GMM GRAMMY กันเลยทีเดียว … นอกจากนี้ แซค ยังเปิดใจทิ้งท้ายถึงพี่ๆน้องๆ สายตำรวจอาชญากรรมไว้อย่างน่าติดตาม …..
P :: เล่าประวัติส่วนตัว ชื่อนามสกุล ความเป็นมาในวงการข่าวตั้งแต่เริ่มจนถึงวันนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ
S :: สวัสดีครับพี่ๆพื่อนๆน้องๆทุกคนที่เปิดอ่านคอลัมน์ Can I Show ขออนุญาตแนะนำตัวอย่างเป็นทางการครับ ผมชื่อนายธราวุฒิ ฤทธิอักษร ชื่อเล่นแซค เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 252……ปัจจุบันอายุ (ลองเดากันดูนะครับ อิอิอิ) ภูมิลำเนาเกิดที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนวัดโคกสมานคุณ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนหาดใหญ่อำนวยวิทย์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ทักษิณ ระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ล่าสุดกำลังตัดสินใจที่จะเรียนระดับปริญญาโทในสาขาวิชาวารศาสตร์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง
หากจะถามว่าเริ่มต้นอาชีพนักข่าวได้อย่างไร.. (เรื่องมันยาวมากๆ) ต้องเท้าความไปหลายปีก่อน แซคเองไม่ได้เริ่มต้นอาชีพนักข่าวตั้งแต่แรกหลังเรียนจบ ก่อนหน้านี้ชีวิตแซคเหมือนละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่งครับ หากใครอยากจะรู้เรื่องราวชีวิตของแซคแบบเต็มๆ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองหลวง เมืองที่ใครหลายๆคนให้สมญานามว่าเป็นเมืองสวรรค์ หรือสุดแล้วแต่ที่ใครจะเปรียบเปรย
ทุกท่านสามารถไปติดตามละครที่สร้างจากชีวิตจริงของแซคได้จากละครคลับไฟร์เดย์เดอะซีรี่ย์ ตอน “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน” ละครเรื่องนี้คงจะทำให้ทุกคนได้ทราบเรื่องราวชีวิตของแซคได้ดีขึ้น
เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับสำหรับก้าวแรกที่เข้ามาในวงการข่าว เริ่มต้นจากตอนเรียนจบได้มีโอกาสไปฝึกงานที่รายการประเด็ดเจ็ดสี ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ภายใต้การควบคุมและผลิตโดยบริษัทมีเดีย หากย้อนกลับไปทบทวนความทรงจำช่วงฝึกงานเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดก็ว่าได้ เพราะได้ใกล้ความฝันมากที่สุด เพราะที่ผ่านมากว่าแซคจะก้าวเข้ามาประกอบอาชีพผู้สื่อข่าว และผู้ประกาศข่าวนั้น ต้องบอกว่าอาชีพผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะทำงานที่บริษัทสยามนิรมิต ในฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ยาวนานกว่า 8 ปี 8 เดือน (ตอนนั้นทำงานไปด้วยส่งตัวเองเรียนไปด้วย) จนวันที่ฝึกงานจบ ทำให้หันเหชีวิตมาเอาดีทางงานข่าวแบบเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น จนตัดสินใจลาออกจากบริษัทเอกชนแห่งนั้น และเดินตามหาฝันกับอาชีพการเป็นผู้สื่อข่าว (เชื่อมั้ยครับ ตอนนั้นเดินไปขอโอกาสแทบทุกช่อง สุดท้ายโดนปฎิเสธทั้งหมด เพียงเพราะเราไม่มีประสบการณ์งานข่าวมาก่อน)
แต่ไม่ท้อเลยที่จะเดินตามฝันต่อ และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างให้ได้ทำงานที่รักและใฝ่ฝัน ขออนุญาตเอ่ยนามบุคคลที่ถือว่าเป็นชักนำแซคก้าวเข้ามาในวงการข่าวคนแรกคือ พี่จุ๊บแจง (ทัศนีย์ ดำมุนี) นักข่าวสายอาชญากรรม แห่งสำนักข่าวไทยหรือช่อง 9 พี่จุ๊บแจงเปรียบเสมือนพี่สาวคนหนึ่งที่แซครักมากๆ เรามีอะไรเรามักจะคุยกันแบบตรงไปตรงมา แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกลียดกันแทบจะไม่อยากมองหน้า (อันนี้พี่จุ๊บแจงคิดเองนะครับ ซึ่งแซคไม่ได้คิดแบบนั้น อิอิอิ)
เพียงเพราะด้วยบุคลิกของแซคที่ใครหลายคนรวมถึงพี่จุ๊บแจงอาจจะมองว่าแซคเป็นคนหน้านิ่งๆ หยิ่ง ไม่สนใจใคร แต่แท้ที่จริงแล้วแซคคนนี้น่ารักนะครับ (แอบชมตัวเอง) จึงอยากทุกคนลองเปิดใจเข้ามาหาแซค ศึกษาแซค แล้วทุกคนจะรู้ว่าแซคคนนี้ เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นน้อง ที่น่ารักคนหนึ่ง ไม่เชื่อลองเข้ามาทักทายแซคได้..
เข้าเรื่องต่อ….พี่จุ๊บแจงจึงแนะนำแซคให้ลองไปสมัครในตำแหน่งผู้สื่อข่าวที่สำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งต้อนนั้นทางสำนักข่าวทีนิวส์กำลังเปิดรับสมัครเจ้าหน้าโปรดิวเซอร์จำนวน 1 ตำแหน่งเท่านั้น ก็เลยตัดสินใจตามคำแนะนำของพี่จุ๊บแจง จนมาไปสู่กับสัมภาษณ์จากผู้ใหญ่ถึงสองท่านที่มาสัมภาษณ์แซค ซึ่งในวันนั้นที่สัมภาษณ์นั้นทางผู้ใหญ่บอกว่าให้ลองทดสอบเป็นผู้ประกาศข่าวเลยดีกว่า เพราะเห็นหน่วยก้านพอใช้น่าจะปั้นได้ (วินาทีตอนนั้นหัวใจพองโตมากๆ ดีใจสุดๆ ตื้นตันใจ) จนตกลงเซ็นต์สัญญาเป็นผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าวที่สำนักข่าวทีนิวส์อย่างเต็มตัวตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้รวมระยะเวลากว่า 4 ปี แล้ว (เร็วมว๊ากๆ)
P :: ทำไมถึงเลือกมาทำงานเป็นนักข่าวที่นี่ เจาะจงมั้ยค่ะว่าต้องมาทำสายตำรวจ หรืออยากทำสายไหนเป็นพิเศษมั้ย
S :: ตอนมาเริ่มงานที่สำนักข่าวทีนิวส์เริ่มจากการเป็นผู้ประกาศข่าว ซึ่งได้อ่านข่าวเช้า ข่าวเที่ยง และรายการเจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก (เสาร์–อาทิตย์) จนในวันที่เรานั่งอ่านข่าวในหน้าที่ผู้ประกาศข่าวทำให้เรารู้เลยว่าเราไม่ใช่ผู้ประกาศข่าวที่ดี เพราะเรายังขาดองค์ความรู้ในการนำเสนอข่าว อ่านยังไงก็ไม่น่าสนใจ (อ่านแบบนกแก้วนกขุนทองก็ว่าได้)
จากนั้นจึงตัดสินใจเดินเข้าไปขอโอกาสทางบรรณาธิการกองข่าวว่าอยากจะลงรายงานสดภาคสนามด้วยได้หรือไม่ ทางบรรณาธิการกองข่าวก็ไม่รีรอตอบตกลงแซคแบบไม่ต้องคิดอะไรมากนัก ทำให้แซคได้ทำอีกหนึ่งหน้าที่ที่รักควบคู่ไปกับการเป็นผู้ประกาศข่าวคือการเป็นผู้สื่อข่าว (ตอนนั้นดีใจมากๆ ดีใจที่จะได้ลงไปยังสนามข่าว จะได้ฝึกฝนเก็บเกี่ยวหน้าที่การเป็นผู้สื่อข่าวไปในตัวด้วย)
จำได้ว่าตอนเป็นผู้สื่อข่าวรายงานสดภาคสนามครั้งแรกเป็นการรายงานสดการรายงานตัวของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่อาคารรัฐสภา (มาในแนวสายการเมืองไม่ใช่สายตำรวจด้วยซ้ำ) แต่แอบฝันว่าสักวันเราคงได้ลงภาคสนามรายงานสดหมายข่าวสายตำรวจบ้าง จนในที่สุดก็มีโอกาสมารายงานสดภาคสนามในสายตำรวจด้วยเช่นกัน
P :: ทัศนคติที่มีต่อวงการสื่อสารมวลชนไทยในยุคปัจจุบัน
S :: สำหรับคำถามที่ว่ามีทัศนคติอย่างไรต่อวงการสื่อสารมวลชนของไทยในยุคปัจจุบันอย่างไร ยังคงมีทัศนคติที่ดีต่อวงการนี้ครับ เพราะวงการนี้เป็นวงการที่แซครักมากๆ วงการสื่อสารของไทยในปัจจุบัน แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่เชื่อว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงและเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ในยุคที่การสื่อสารของไทยก้าวไปข้างหน้าเราในฐานะสื่อมวลชนต้องก้าวให้ทัน และที่สำคัญเราต้องสื่อมวลชนที่ดีที่ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างเต็มเปี่ยม คงไว้ด้วยจรรยาบรรณในวิชาชีพเหนือสิ่งอื่นใด
P :: ขอบเขตของหน้าที่สื่อมวลชนในคำจำกัดความของคุณ
S :: สำหรับขอบเขตหน้าที่สื่อมวลชนในคำจำกัดความของแซคคือ “สายลมแห่งความหวังดี” โดยหากเราเปิดดูในพจนานุกรมการสื่อสารมวลชน ให้ความหมายของการสื่อสารมวลชนไว้ โดยสรุปว่า การสื่อสารมวลชน เป็นแบบหนึ่งของการสื่อสาร สามารถกระจายเรื่องราวความรู้ เปิดเผยไปสู่คนส่วนใหญ่ ซึ่งมีลักษณะไม่เหมือนกัน และไปถึงผู้รับพร้อมกัน มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวโน้มทางวัฒนธรรมของมวลชน
คำว่า ” การสื่อสารมวลชน” และคำว่า ” สื่อมวลชน” มีความหมายที่แตกต่างกัน คือการสื่อสารมวลชนเป็นกระบวนการหรือวิธีของการสื่อสาร ที่รวมองค์ประกอบของการสื่อสารทั้งหมด ส่วนสื่อมวลชนนั้น หมายถึง สื่อหรือช่องทางที่ใช้ในการสื่อสารมวลชน อันได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร ฯลฯ ซึ่งเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของการสื่อสารทั้งสิ้นแต่สิ่งที่เราในฐานะสื่อมวลชนห้ามลืมคือการสื่อสารไปยังบุคคลอื่นด้วยความปรารถนาดีต่อกันครับ
P :: มีคนข่าวในดวงใจมั้ยค่ะ // ใครค่ะ
S :: คำถามนี้แอบมีความโลภครับอยากจะพรรณนาชื่อพี่ๆคนข่าวในดวงใจออกมาซึ่งคิดว่ามีเยอะมากๆครับ แต่ถ้าจะให้เลือกสักคนหนึ่งที่เป็นคนข่าวในดวงใจคงจะหนีไม่พ้น “พี่กิตติ สิงหาปัด” ผู้ดำเนินรายการข่าวสามมิติ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 คงไม่ต้องพูดอะไรมากนักสำหรับผู้ชายคนนี้ (แค่เอ่ยชื่อทำไมต้องหน้าแดง) โดยส่วนตัวชื่นชอบพี่กิตติมาตั้งแต่สมัยที่พี่กิตติอ่านข่าวอยู่ที่ช่องไอทีวี
ในยุคนั้นต้องบอกว่าเป็นยุคทองของไอทีวี ไม่มีใครไม่รู้จักไอทีวี และไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายที่ชื่อกิตติ สิงหาปัด ส่วนกิตติศัพท์ฝีไม้ลายไม้ของพี่กิตติ คงไม่ต้องบรรยายใดๆทั้งสิ้น เพราะทุกคนคงประจักษ์แก่สายตาแล้วว่าของจริงเป็นอย่างไร ที่สำคัญพี่กิตติ เป็นผู้ประกาศข่าวชายคนเดียวในประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าไหว้สวยที่สุด ท้ายที่สุดอยากจะบอกรักพี่กิตติ ผ่านช่องทางนี้ได้มั้ยครับ อิอิอิ
P :: มีความสุขกับการทำงานสายนี้มั้ย คิดจะเปลี่ยนไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือเปลี่ยนสายงานมั้ย
S :: หากจะบอกว่ามีความสุขทุกวันกับการทำงานคงเป็นกล่าวเท็จคำโต ทุกวันนี้มีความสุขมากกว่าความทุกข์ครับ ทุกครั้งที่ลงภาคสนามติดตามทำข่าวยังพื้นที่ต่างๆรู้สึกดีใจครับ ที่ได้นำวิชาความรู้ที่เรามีแปรเปลี่ยนเป็นพลัง รวมทั้งได้หยิบยื่นความสุข หยิบยื่นรอยยิ้ม หยิบยื่นความยุติธรรม ให้กับคนเหล่านั้นที่ตกทุกข์ได้ยาก และตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานในวงการนี้ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเราเองนั้นทำข่าวมาแล้วตั้งแต่ข่าวเจ้ายันข่าวโจร
อย่างไรก็ตามยังคงจะประกอบอาชีพสื่อมวลชนไปจนกว่าจะไม่มีแรงทำ(ถ้าเป็นไปได้) ส่วนอาชีพที่แอบคิดหรือวางแผนไว้มีบ้างมั้ย คงตอบว่ามีครับอยากเป็น “โฆษกรัฐบาล” ครับ
P :: มองสังคมเด็กนักข่าวยุคใหม่เป็นอย่างไร
S :: ในวันที่โลกของใครหลายๆคนเปลี่ยนไป การขับเคลื่อนชีวิตประจำวันด้วยการสัมผัสเพียงปลายนิ้วที่หน้าจอโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ฉบับพกพาที่มีหลากหลายชื่อเรียกเพียงคลิกเปิดอ่าน คลิกแชร์ คลิกไลค์ คลิกฟอลโลว์ พิมพ์แสดงความเห็นและถ่ายทอดอารมณ์ผ่านตัวอักษร ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลิต และกระจายข่าวได้ไม่แพ้นักข่าวมืออาชีพ ต่างกันที่พวกเขาไม่ได้มีงานประจำเป็นนักข่าวหรือกล่าวอีกอย่างคือไม่ได้รับค่าจ้างจากใครมาเพื่อให้ผลิตและกระจายข่าว ที่สิ่งสำคัญนอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาคือความรับผิดชอบ ดังเช่นคำที่เรามักจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาว่า “เสรีภาพ บนความรับผิดชอบ”
P :: ตำรวจที่เราเคารพรักและมองว่าเค้าทำงานดี มีคุณภาพ
S :: พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือที่ใครรู้จักท่านในนามว่า “พี่หมู” ต้องบอกว่าส่วนตัวไม่ได้รู้จักพี่หมูเป็นการส่วนตัวแต่ชื่นชมและชื่นชอบพี่หมูมากๆครับ เพราะพี่หมูเป็นนายตำรวจท่านหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตามแนวนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม กลุ่มผู้มีอิทธิพล และยาเสพติด รวมทั้งเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับตำรวจในสังกัด นอกเหนือจากนั้นพี่หมู ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ เป็นนายตำรวจที่สมาร์ทและสง่างามากๆครับ (ฝากไปบอกพี่หมูด้วยนะครับว่าน้องแซคทีนิวส์ ปลื้ม อิอิอิ)
P :: ฝากอะไรถึงพี่น้องตำรวจ แล้วก็เพื่อนๆนักข่าวหน่อยค่ะ
S :: สำหรับพี่ๆตำรวจคงไม่ต้องฝากอะไรครับ แต่จะขออนุญาตฝากถึงพี่ๆเพื่อนๆน้องๆนักข่าวสายตำรวจว่า “แซคไม่ได้หยิ่งนะครับ ทุกวันนี้ยังคงต้องเรียนรู้และฝึกฝนงานข่าวอย่างต่อเนื่อง หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ในอดีตหรือปัจจุบัน ที่แซคอาจจะทำลงไปด้วยรู้ตัวก็ดี หรือไม่รู้ตัวก็ดี แล้วสิ่งต่างๆเหล่านั้นไปกระทบความรู้สึกของทุกคนโอกาสนี้ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ขอโทษและขออภัยพี่ๆเพื่อนๆน้องๆผู้ร่วมอาชีพทุกคนด้วยนะครับ
“หากวันหนึ่งวันใดที่เราโคจรมาเจอกันไม่ว่าที่ใดก็ตาม ขอให้เรามีรอยยิ้มต่อกัน มีความปรารถนาดีต่อกัน เพราะท้ายที่สุดเราก็คือพี่ คือเพื่อน คือน้อง ผู้ร่วมวิชาชีพเดียวกัน เรามาช่วยกันจับมือกันนำพาวงการข่าวที่เรารักก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกันนะครับ เจอกันที่ไหนทักทายกันได้นะครับ แซคไม่ได้หยิ่งจริงๆน่ะ”
P :: คำถามสุดท้าย “มีแฟนรียังค่ะ”
S :: ตอบแบบไม่อ้อมค้อมว่า “โสดสนิท” อิอิอิ สวัสดีครับ