รอง ผบช.น. เผย อยู่ระหว่างติดตามตัว บอย เชื่อมีคนก่อเหตุมากกว่า 1 คน
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. ในฐานะรรท.ผบก.น.5 กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงภายในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 ซอย 66 จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า
คดีการพนันทราบว่าในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ 4 คน ตอนนี้ได้สอบปากคำไปแล้ว 3 คน ส่วนอีก 1 คน ทางแพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปสอบปากคำ
เบื้องต้นตอนนี้ทราบแล้วว่าเขาเข้าไปอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุจริง วันนี้พนักงานสอบสวนจะไปแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาร่วมกันเล่นการพนันและหลบหนี
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการทำลายพยานหลักฐานจากการสอบปากคำเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ 2 ปาก ให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์ในทางคดี
ตอนนี้เจ้าหน้าที่เริ่มจะทราบเบาะแสแล้วว่านำสิ่งของไปเก็บซ่อนไว้ที่ไหนบ้าง อาทิ โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าเสื่อ ในการเล่นการพนัน ฝ่าย
สืบสวนกำลังติดตามอยู่ว่าไปเก็บซ่อนไว้ที่ไหนบ้าง เชื่อว่าวันนี้น่าจะเจอบางส่วนแล้ว
ส่วนคดีฆาตกรรม ตอนนี้ได้ออกหมายจับนายพิพิธ หรือบอย ศรีสุวรรณ์ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.442/2563 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2563 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
การสืบสวนในขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอยู่ เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คนแน่นอน
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานพยายามสืบให้ได้ว่าใครเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง
ทั้งนี้ มีการใช้อาวุธปืนมากกว่า 2 กระบอก กระบอกแรกเป็นของผู้ก่อเหตุคนแรก อีกกระบอกอยู่ระหว่างติดตามอาวุธปืนของนายบอยให้ได้ สำหรับอาวุธปืนที่เหลือขึ้นอยู่กับการสอบสวนต่อไป
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนอาคารในจุดเกิดเหตุนั้น ได้กำชับตำรวจสน.ทุ่งมหาเมฆ ให้จัดสายตรวจเฝ้าระวังพื้นที่ไว้ดูแลอย่างดีให้เรียบร้อย
เรื่องคนเข้า-ออกต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่หรือเจ้าของอาคาร ส่วนการดัดแปลงพื้นที่ในส่วนนี้เกี่ยวกับทางเขต โดยจะมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินการในเรื่องของการดัดแปลงอาคารต่อไป
ส่วนที่ตนรับผิดชอบ บก.น.5 ได้กำชับเพิ่มเติมไปแล้วให้เพิ่มความเข้มในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอบายมุขทุกชนิด ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงไปกำกับดูแลด้วยตัวเอง และฝ่ายสืบสวนและสอบสวนก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่
“ขณะนี้นายพิพิธยังไม่มีการประสานเข้ามอบตัว ยังยืนยันว่าอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว
หากมีผู้กระทำผิดเพิ่มเติมถ้าการสอบสวนไปถึงไหนก็จะดำเนินการ แต่จะไม่เร่งรีบ ในคดีฆาตกรรมหรือคนร้ายในการก่อเหตุครั้งนี้ ถ้าเร่งรีบไปจนพยานหลักฐานไม่เพียงพอก็จะเกิดความเสียหายในภายภาคหน้าได้” รอง ผบช.น.ระบุ