อาฟเตอร์ช็อค! สื่อใหญ่ด่า รร.นรต นายร้อยต้านโชว์ผ่านโซเชี่ยล

0
2887

สื่อคือกระจกสะท้อนสังคม!!!!!!

ถือเป็นปมเด่นประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ หลังคอลัมนิสต์ดังหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่เขียนบทความชื่อ “ปฎิรูปตำรวจสร้างค่านิยมใหม่”

อาฟเตอร์ช็อกจากเรื่องนี้ ทำให้ข้าราชการตำรวจโดยเฉพาะที่จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ออกมาแสดงความคิดเห็นรับไม่ได้ ทำนองไปเขียนมาจาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่รักที่เก่าแก่ยืนนานมาเป็น100ปี

มีการตอบโต้คอลัมนิสต์คนที่ว่า ออกมาจากบรรดานักเรียนนายร้อยตำรวจทั้งที่อยู่ในราชการและเกษียณฯไปแล้ว เช่ือว่าหลายคนคงได้อ่านได้ผ่านตาไปโดยเฉพาะโลกโซเชี่ยล.

ตำรวจบางคนอย่างผบช.นรต.ที่อยู่ในฐานะคู่กรณีโดยตรง โพสต์ในกลุ่มนรต.ชายหญิงให้งดอ่านนสพ.ฉบับนี้ หลายคนก็ออกมาเขียนระบายความรู้สึกที่ถูกเขียนจาบจ้วงสถาบันอันเป็นที่รัก แต่แยกแยะได้อย่างผู้มีความรู้ว่าเป็นเรื่องของความเห็นส่วนตัว ไม่ได้เหมารวมทั้งฉบับ และยังขออ่านนสพ.ฉบับนี้ต่อ

บางคนออกมาแสดงความเห็นสมเป็นตำรวจอาชีพ “พวกผมถูกสอนมาให้อดทนต่อความเจ็บใจ”. ตรงนี้ต้องขอชื่นชม หรือบางคนออกมาเขียนวิจารณ์กลับ อย่างอดีตผบ.ตร.ท่านหนึ่ง โพสต์ข้อความดุเดือดตอกกลับ สื่อมวลชนก็มีเหี้ยไม่น้อยเหมือนกัน อันนี้ก็ไม่เถียง ก็ถือเป็นสิทธิและความคิดเห็นของแต่ละคน ก็ว่ากันไป แต่ขอแยกแยะกันให้ออก อย่าเหมารวม เพราะตำรวจหลายคน ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากสื่อมวลชนเหี้ยๆที่ว่าเหมือนกัน

แล้วในฐานะเป็นสื่อด้วยกันเชื่อว่า บทความที่คอลัมนิสต์ดังรุ่นใหญ่คนนี้เขียนขึ้น ไม่น่าจะมีตื้นลึกหนาบางอะไร อาจจะเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงที่รู้เห็นผสมกับความคิดเห็นส่วนตัวพาดพิงไปถึงสถาบันผลิตนายตำรวจทั้งประเทศ

ไม่ได้เข้าข้าง แต่เรื่องดีๆมีประโยชน์กับประเทศชาติที่คอลัมนิสต์คนนี้เขียนก็มีมาก ทำไมไม่เห็นชม มันก็คงเหมือนกับที่ตำรวจบ่น เรื่องตำรวจดีๆทำดี ทำไมไม่เป็นข่าวใหญ่โตเท่ากับตำรวจนอกรีต

สรุปโต้กันพอหอมปากหอมคอแล้วก็พอครับ ตำรวจกับนักข่าวมันแยกกันไม่ออก กลับมาทำหน้าท่ีของแต่ละอาชีพกันต่อไป สำหรับผม ภาพรวมของตำรวจเป็นอาชีพทีน่ายกย่องและเสียสละสุดๆแล้ว

” ไม่รักไม่ว่า ด่าไม่เป็นไร เดือดร้อนมีภัยเรียกใช้ตำรวจ”ผมชอบคำนี้ที่สุด

แล้วอย่าลืม สื่อมวลชนคือกระจกที่สะท้อนความเป็นจริงในสังคมออกมาให้เห็น

คนขี้เหร่ส่องกระจกท่าไหน ก็ไม่หล่อไม่สวยครับ. !!!!!

กากีกลาย15/9/59