04.00 น.เช้าวันหนึ่ง“นาสมุล เฮก เฮลัล” เจ้าของ “ลินคอล์น ไฟน์ ไวน์ส์” ร้านขายไวน์เมืองเวนิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ได้รับสัญญาณเตือนภัยผ่านโทรศัพท์มือถือ แจ้งเกิดความ “ผิดปกติ” ภายในร้าน
“เฮลัล” รีบตรวจสอบภาพความเคลื่อนไหวภายในร้านผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหลายตัว แต่ไม่เห็นความผิดปกติ คิดว่าสัญญาณเตือนภัยอาจขัดข้อง
กระทั่งช่วงสาย เขาไปที่ร้าน ถึงกับทรุดเข่าอ่อน พบไวน์หรูในร้านที่มีมากกว่า 2,000 ขวด หายไปกว่า 600 ขวด รวมถึงไวน์ “Chateau Petrus 2016” ขวดละ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 21 ล้านบาท
ไวน์หรูที่หายทั้งหมดมากกว่า 600 ขวด ถูกเก็บอย่างดีในห้องกระจกขนาดใหญ่ควบคุมอุณหภูมิอยู่ทื่ 55 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 12.7 องศาเซลเซียส
ยิ่งไปกว่านั้น ด้านบนของห้องเก็บไวน์ เขาพบรูถูกเจาะขนาดกว้าง 5 คูณ 3 ฟุต ทะลุลงมาจากบนหลังคาอาคารร้าน เชื่อแน่ว่าคนร้ายเข้าร้านทางหลังคา โรยตัวและค่อยๆลำเลียงดึงไวน์หรูขึ้นไป ก่อนพากันหลบหนีลอยนวล
เมื่อตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณรอบร้านย้อนหลัง พบรถตู้สีขาวคันหนึ่ง ไม่มีป้ายทะเบียน มาจอดใกล้ร้านไวน์เมื่อช่วงเที่ยงคืนก่อน
จากนั้น ผู้ชายสองคน สวมหน้ากากปิดบังใบหน้ามิดชิด พากันขึ้นไปบนหลังคาอาคาร เจาะหลังคาและใช้ “ผ้าเทปกาว” ปิดบังหน้ากล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในร้าน ก่อนปฏิบัติการขโมยไวน์มูลค่ามหาศาล
แต่น่าแปลกสัญญาณเตือนภัยกลับไม่ทำงานในช่วงเวลานั้น
“เฮลัล” เจ้าของร้านไวน์ บอกตำรวจเสียงละห้อย เขาสร้างเนื้อสร้างตัวจากธุรกิจนี้มานานถึง 15 ปี กลับพังพินาศลงยับเยินภายในคืนเดียว
ทั้งบ่นบอกโจรกรรมครั้งนี้ช่างเหมือนฉากภาพยนตร์ฮอลลิวูดปล้นชิงเงินบ่อนคาสิโน “Ocean’s Eleven” อย่างไม่น่าเชื่อ….
ไฟเขียว9|7|66