Saturday, April 26, 2025
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.47

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.47

    เดินไปตามฟุตปาทแคบๆ

    มีฝาปิดท่อระบายน้ำทำด้วยเหล็กฉากสันคว่ำเพื่อสะดวกให้น้ำจากทางเดินไหลลงท่อเว้นระยะเป็นแนวตามฟุตปาทห่างกันสิบเมตรประมาณนั้น

    เป็นช่วงบ่ายแก่ๆของวัน อากาศร้อนอบอ้าวทั้งจากแสงตะวันและพื้นถนนคอนกรีต บังคับให้ต้องหาร่มเงานั่งพักก่อนไม่อาจฝืนเดินต่อไปยังจุดหมายใดๆ ไม่เช่นนั้นอาจหน้ามืดลมแดดจับได้ง่ายๆ

    เหลือบไปทางหน้าอาคารที่พักตรงมุมตึกเห็นม้านั่งยาวว่างตั้งวางอยู่อย่างสงบเสงี่ยมรอให้บริการแก่ผู้คนด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากมันมีชีวิตจิตใจคงคิดอย่างนั้น

    อย่าลังเลเลย ข้าพเจ้าหันหน้าเดินผ่านรั้วอาณาเขตของอาคารที่พักหรือแฟลตเข้าไปนั่งบนม้านั่งนั้น ได้อาศัยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ใบพุ่มหนาพักร้อนและเหนื่อยล้า รอให้มีเรี่ยวแรงค่อยเดินต่อไป

    บรรยากาศดูสงบเงียบงัน ไม่ค่อยมีคนเดิน คงเป็นช่วงยังไม่เลิกงานหรือภารกิจของคนที่พักอยู่ตามแฟลตที่มีหลายสิบอาคาร
    สมองได้ผ่อนคลาย นั่งเหยียดทอดขายาวสักชั่วครู่ สายตาสอดส่ายไปทางซ้ายทีขวาที่

    ใกล้กันนอกรั้วระแนงของแฟลตตรงหัวมุมเห็นหนุ่มรุ่นกระทง หิ้วโต๊ะพับเก้าอี้กลมมาตั้งวาง ทะยอยขนวัตถุอุปกรณ์อะไรสักอย่างออกมาวาง

    ความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะตั้งร้านขายของกินอะไร

    สักพักมีชายหนุ่มวัยใกล้สามสิบท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง เขาเข็นรถขายของมีตู้กระจก ข้างในบรรจุลูกชิ้นไส้กรอกสารพัดชนิดสีสันขาวส้มเหลืองอ่อนแดงชมพู อัดเต็มตู้กระจก เข็นรถมาหยุดตั้งวางร้านหันหน้าออกถนน แล้วกลับไปช่วยกันกับเด็กหนุ่มหิ้วกระทะเตาแก๊สออกมาตั้งข้างรถเข็น

    มีหญิงสาวร่างโปร่งบางหิ้วอุปกรณ์ตะหลิวกระชอนหม้อใส่น้ำมันออกมาสมทบ

    ต่างคนกุลีกุจอทำหน้าที่ของตัวเองตั้งร้านพร้อมทอดลูกชิ้นไส้กรอกขายให้ทันเวลาที่คนชาวแฟลตกลับจากทำงานหรือภารกิจสารพัน จะเลือกซื้อไปกินรองท้องก่อนอาหารมื้อเย็นค่ำ

    นอกจากร้านรถเข็นของหนุ่มสาวนี้ ยังมีร้านแผงขายอาหารอื่นๆ ทั้งข้าวกล่อง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่งและอีกหลากหลายเจ้าที่มาตั้งร้านในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน

    เป็นวิถีทางทำมาหากินของชาวบ้านชาวแฟลตละแวกนั้น ที่เฝ้ามองหรือเบนสายตาไปทางอื่นบ้าง หากกลุ่มหนุ่มสาวไม่เหลือบมาประสานสายตา เพราะดูจะเสียมารยาทที่จับตาสังเกตเกินไป แต่ในใจรู้สึกชอบที่เห็นคนหนุ่มคนสาวช่วยกันทำมาหากินมากๆ

    ขณะเดียวกันนั้นมีหญิงสูงอายุคะเนดูไม่ต่ำกว่าเจ็ดสิบ นางหิ้วกระเป๋าใส่ของกระจุกกระจิก ค่อยย่างเท้าเข้ามานั่งบนม้านั่งยาวใกล้ๆ

    นางตัดผมทรงดอกกระทุ่มผมขาวทั้งศีรษะ นางหันหน้ามายิ้มทักทายเห็นฟันเป็นแถบเต็มท่าทีมีมิตรจิตมิตรใจ คงมีที่พักอาศัยละแวกนี้

    วัยขนาดคุณย่าคุณยาย แต่นางสนทนากับข้าพเจ้าด้วยสรรพนามแทนตัวว่าหนู น่ารักไปอีกแบบ

    นางพูดคุยกับข้าพเจ้าราวกับสนิทสนมมายาวนาน ข้าพเจ้าเห็นเป็นผู้อาวุโสเลยทำหน้าที่ฝ่ายผู้ฟังเสียมากกว่าน่าจะได้รับรู้สิ่งที่ดีมีประโยชน์เรื่องราวเก่าก่อน เปิดให้นางได้แสดงออกถึงสิ่งที่นึกคิดจดจำได้อย่างเต็มที่ ไม่เอ่ยขัดจังหวะให้เสียความรู้สึกหรือลืมคำพูดที่พรั่งพรูอย่างราบรื่น

    หญิงชราผมสีเงินยวงเล่าคนแปลกหน้าว่าพักอยู่คนเดียวในแฟลตไม่ไกล คู่ชีวิตมาล้มหายตายจากไป ลูกสาวลูกชายเขาก็แยกไปตั้งครอบครัวกันที่อื่น นานครั้งจะกลับมาเยี่ยมเยียนบ้าง

    นางบอกไม่คิดอะไรมาก เพราะลูกๆก็มีภาระต้องดูแลครองครัวตัวเอง ไม่อาจมาเยี่ยมได้บ่อยๆ

    นอกจากช่วงที่นอนป่วยด้วยสารพัดโรคทั้งความดันเบาหวานน่้าตาลในเลือดสูง ลูกสาวจะมาคอยดูแลเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ คอยกำชับให้กินยาครบตามหมอสั่ง

    “หนูไม่เชื่อหมอนัก มันอยู่ที่การปรับวิถีการกินมากกว่า อันนี้แหละคือยาที่ดีรักษาหายได้ รู้จักกินอาหารที่มีประโยชน์ กินกับข้าวมื้อละอย่างก็พอ ไม่กินเนื้อสัตว์ของหวานของทอดปิ้งย่างก็พอแล้ว

    หนูต้องคอยเขี่ยยาทิ้งไม่ให้ลูกสาวเห็น นี่ไงล่ะถึงได้ลุกเหินได้เหมือนปกติ ทั้งที่นอนป่วยติดเตียงหลายเดือน”

    นางล้วงในกระเป๋าหิ้วหยิบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งออกมาพลิกเปิดให้ดู มีอักษรตัวโตจดถ้อยวาทะข้อความที่ประทับใจ ของปราชญ์นักคิด คำสอนของพระและอีกหลายหลาก มีดินสอสีขีดเส้นใต้หรือวงรอบข้อความที่ต้องการเน้นย้ำในสมอง

    นี้คือสื่งที่นางพึงพอใจในชีวิตบั้นปลายยามต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเงียบเหงา แถวอักษราจดจารไม่ต่างจากเพื่อนสนิทมิตรสหายกระมัง

    นางเล่าให้ฟังอีกว่าก่อนนี้นับสิบปีสมัยยังมีเรี่ยวแรงจะออกไปวัดไปนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมได้เป็นวันๆ ได้คิดถึงชีวิตว่าไม่มีอะไรสำคัญ อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด อดีตเป็นเรื่องผ่านไปไม่ถวิลโหยหา ผู้คนแวดล้อมเป็นอย่างไรก็ปล่อยวางไม่ถือโทษโกรธเกลียด ให้อภัยอโหสิกรรมไป อย่ามัวผูกพยาบาทอาฆาตกัน

    นางคิดเสมอว่าทุกชีวิตล้วนมีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น

    “พูดอย่างหยาบๆเลยนะ อะไรที่ไม่ดีหนูคิดว่ามันเป็นขี้ ปล่อยทิ้งลงส้วมราดน้ำไปเท่านั้นมันก็สะอาด ปัดไปให้ไกลตัวน่ะใช่มั้ยเท่านี้ก็พอ”

    คงเป็นจากการเจริญสติ นางดูแต่รอยยิ้มฉาบทาใบหน้า ไร้ความหม่นหมองแม้บรรยากาศร้อนรุ่ม

    การได้นั่งพักคลายเหนื่อยในบ่ายร้อนอบอ้าว มันผ่อนคลายช่วยบรรเทาสมองที่พบเจอสิ่งไร้สติสาระตามจอมือถือ ได้เห็นภาพซาบดื่มด่ำกับคนสองเจนเนอเรชั่น ช่างจรรโลงชุบชูจิตให้ชุ่มฉ่ำอย่างเหลือประมาณ

    แล้วข้าพเจ้าก็ลุกเดินต่อไปด้วยความรู้สึกประหนึ่งพบทูตสวรรค์ในวันอันร้อนระอุราวนรกภูมิ

    26/4/2568

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments