ชายวัยราวสี่สิบเศษ ร่างสูงโปร่ง สวมชุดกันเปื้อนสีดำทับเสื้อโปโลสีดำ นุ่งกางเกงสามส่วนสีกรมท่า สวมรองเท้าแตะฟองน้ำ เดินมายืนเก้ๆกังๆบริเวณด้านหลังป้ายรถเมล์
ในมือของเขาถือกำยอดตำลึงพอต้มแกงจืดได้ประมาณหม้อหนึ่ง มองผิวเผินคงเป็นพ่อครัวร้านอาหารละแวกใกล้กันนั้น หรืออาจเป็นพ่อบ้านออกมาหาเด็ดยอดตำลึงริมรั้วริมทางที่มีคูน้ำทอดขนานไปกับถนนหลักเส้นหนึ่งในช่วงจราจรยังแน่นหนาของสายวันนั้น
รถเมล์ครีมแดงสายที่รอแล่นเข้ามาจอดเทียบตรงหน้า ไม่ชักช้าข้าพเจ้ารีบก้าวขึ้นรถก่อนใคร กระเป๋ารถเมล์หญิงวัยยี่สิบปลายบอกด้านหลังยังมีที่นั่งว่าง ข้าพเจ้าเลือกนั่งที่นั่งเดี่ยวติดหน้าต่าง
จังหวะนั้นเหลือบเห็นชายผู้กำยอดตำลึงเดินผ่านแวบไปนั่งเบาะยาวตอนท้ายสุดชิดขอบหน้าต่างด้านซ้าย
พฤติกรรมแรกของตัวเอง ภายหลังที่กระเป๋าสาวเดินมาเก็บค่าโดยสาร ข้าพเจ้าควักโทรศัพท์มือถือออกมาก้มดูไม่ต่างจากคนอื่นนับสิบในรถเมล์ ไถดูเฟซไลน์ไปเรื่อย
เป็นความบันเทิงปนเปสาระบ้างไร้สาระก็มาก เป็นการฆ่าเวลาอย่างอำมหิตต่อเนื่องระหว่างการเดินทางในช่วงรถแน่นหนาเหนียวหนับขยับทีละวา
จะว่าไปไอ้เจ้าโทรศัพท์มือถือมันก็ช่วยผ่อนคลายความเบื่อหน่ายบนท้องถนนได้ไม่น้อยหรือได้ดีทีเดียวเลยล่ะ จนเป็นภาพชินตาที่เห็นใครๆก็ง่วนจ่อจอมือถือกันทั้งนั้น ไม่ว่าอยู่ในอากัปกริยาใด นั่ง นอน ยืน เดิน วิ่ง ก็ตาม
ข้าพเจ้านั่งดูมือถือเพลิน พอแหงะหน้าขึ้นมอง อ้าวใกล้ถึงที่หมายป้ายหน้าแล้วนี่ เลิกดูโทรศัพท์ทันที ยัดใส่กระเป๋ากางเกง เตรียมพร้อมลงรถเมล์
ในจังหวะนั้นชายผู้กำยอดตำลึงในเมืองหลวงที่ผู้คนล้วนกำมือถือ ลุกพรวดจากเบาะยาวด้านท้ายตอนไหนไม่รู้ ก้าวสวบผ่านหน้าข้าพเจ้าไปยืนข้างๆกระเป๋ารถเมล์หญิงที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างตอนกลางรถ
ข้าพเจ้านึกขึ้นได้ว่าตอนที่กระเป๋ารถเมล์สาวรับค่าโดยสารแล้วฉีกตั๋วให้ข้าเจ้า ไม่เห็นหล่อนหันไปเก็บค่าโดยสารจากชายผู้กำยอดตำลึงซึ่งนั่งถัดไปด้านท้ายรถแต่อย่างใด หรือว่าหล่อนอาจจะมีใจเมตตาไม่เก็บเองก็เป็นได้
ข้าพเจ้าไม่ได้คิดสงสัยมากนักเพราะมุ่งสนใจเปิดจอมือถือมากกว่า
แต่ตอนนี้ข้าพเจ้าสนใจภาพตรงหน้ามากกว่าอะไรอีก
เมื่อชายคนนั้นยื่นกำยอดตำลึงให้กระเป๋ารถเมล์สาว พร้อมพยักเพยิดให้สาวรับไปด้วยอาการท่าทางงวยงง
แวบเดียวข้าพเจ้าจำลองว่าเป็นฉากโรแมนติกของหนังที่ชายหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้หญิงสาวที่เขาลุ่มหลงไปโน่น ตัดฉับเป็นความรู้สึกต่อภาพจริงว่าชายชุดกันเปื้อนอาจเพียงแค่จ่ายค่ารถเมล์ด้วยยอดตำลึงกำนั้น
ใช่แล้วเขาช่างแตกต่างจากคนนับล้านในโลกเลย
พอลงจากรถข้าพเจ้ามองจากสะพานลอยคนข้ามเห็นเขาเดินตัวปลิวไปตามทางรถไฟเลียบถนนสายนั้นจนเลือนหายไปจากสายตา
มันเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ไม่เห็นบนจอมือถือ อีกทั้งไม่สามารถกรอภาพย้อนกลับดูซ้ำๆได้อีกเลย
5/7/2568