Thursday, August 21, 2025
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.54

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.54

    พักหลังใช้บริการรถเมล์ครีมแดงจะพบเห็นโชเฟอร์หญิงมากขึ้นจนเจนตาที่เห็นไม่ต่างจากโชเฟอร์ชายเลย หรือแทบแยกไม่ออกว่าใครทำหน้าที่สารถีรถเมล์หากไม่สังเกตจริงจัง

    อย่างคราวนี้เจอโชเฟอร์สตรี ฝีไม้ลายมือไม่ต่างจากชายเลยทีเดียว

    หล่อนเหยียบคันเร่งตะบึงปราดเปรียวเลี้ยวเลาะเปลี่ยนเลนหรือเบรกกึกกระชากคันเกียร์ออกตัวปรู๊ดปร๊าด จนต้องยึดราวจับให้มั่นคงที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจถูกเหวี่ยงล้มคว่ำคะมำหงายให้อายผู้คน แถมรอยฟกช้ำดำเขียว

    ยิ่งในช่วงถนนว่างยามสาย เหมือนเป็นช่วงโอกาสโชว์ทักษะความช่ำชองบนท้องถนนของหล่อนเลยล่ะ ผู้โดยสารก็รับผลกระทบหัวโยกหัวคลอนเซแซ่ดกันจ้าละหวั่น

    แต่ก็หามีใครร้องเอะอะท้วงติงไม่ ทำได้เพียงตีสีหน้าง้ำงอพอได้ระบายความรู้สึกออกไปบ้างเล็กน้อย

    ต่างคนก็คงชื่นชอบการเดินทางที่ทำเวลาได้น่าพอใจมากกว่าอยู่แล้ว นอกจากผู้โดยสารที่ต้องวิ่งมาขึ้นรถที่มักจะจอดเลยป้ายไปหลายสิบเมตรเท่านั้นเอง

    ระหว่างทางมีผู้โดยสารลักษณะท่าทางสารพัดแบบต่างกันไป กระเป๋ารถเมล์หญิงตะโกนบอกผู้โดยสารคนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่เพิ่งขึ้นรถแล้วก้าวเดินพรวดพราดไปด้านท้ายสุด

    “นั่งดีๆนะ อย่านอนล่ะ”

    คงเป็นผู้โดยสารขาประจำของเธอกระมัง เธอส่งเสียงบอกกล่าวขณะเดินไปเก็บค่าโดยสารจากคนอื่นๆ

    ข้าพเจ้าไม่เหลียวไปดูข้างหลังก็คงพอคาดเดาได้ว่าชายคนนั้นลีกษณะอย่างไรแบบไหน

    กล่าวถึงมนุษย์ทั้งคุ้นเคยหรือแปลกหน้า ไม่อาจบอกได้ว่าแตกต่างกัน ไม่ว่าเชื้อชาติ สีผิว ภาษา วัฒนธรรมค่านิยมประเพณี สูงต่ำร่ำรวยหรือยากไร้

    ภายใต้ผิวหนังล้วนมีเลือดเนื้อสีเดียวกันทุกผู้ทุกนาม สิ่งที่ครอบคลุมเลือดเนื้ออวัยวะทุกส่วนทุกชิ้นคงเป็นเพียงเปลือก อาวรณ์เครื่องปรุงแต่ง อันเป็นสิ่งสมมติแบ่งแยกมนุษย์ให้เป็นกลุ่มก้อนพวกนั้นพวกนี้

    จะบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งปลอมๆได้ไหมหนอ

    ทุกวันนี้ล้วนเผชิญความจริงที่แสนแปลกปลอม ทุกเมื่อเชื่อวันเมื่อลืมตาตื่นจากความฝันบนฟูกนุ่มหมอนนิ่ม เราเสพสิ่งที่คิดว่ามีแก่นสารอย่างไร้สาระแทบทุกวินาที

    น่าอนาถใจนัก เมื่อนวัตกรรมของโลกที่ล้ำยุคเหนือจินตนาการถูกสร้างเพื่อมวลมนุษย์ แต่กลับถูกนำมารับใช้อย่างไม่สำนึกคุณค่าด้วยการสร้างสิ่งปลอมๆ แทบทุกอย่าง ตั้งแต่ข่าวสาร ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง ตลอดจนสื่อทุกสิ่งทุกอย่างในลักษณะปลอมแปลงเกินจริงไปเสียสิ้น

    จนกระทั่งเราสามารถยอมรับสิ่งปลอมๆได้อย่างง่ายดายไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ เรายอมรับความปลอมได้รวดเร็วกว่ายอมรับความจริง

    เราเลือกจะเชื่อในสิ่งหลอกลวงหรือสิ่งที่วาดหวังไว้ได้ง่ายกว่าสิ่งที่เป็นความจริงแท้ เปรียบดังเดินหลงอยู่ในเขาวงกต

    ดูอย่างสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับสองรัฐพรมแดนติดกัน กระแสข่าวเบื้องต้นบอกว่าเกิดจากกรณีพิพาทเส้นเขตแดนมีการปะทะกำลังกันเท่านั้น

    แท้จริงมันคือสงครามต่างหาก มีการใช้อาวุธหนักยิงถล่มกันวินาศสันตะโร

    ภาพความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สินอาคารบ้านเรือน ผู้คนบาดเจ็บล้มตายอย่างอเนจอนาถ แต่มนุษย์ก็ยังซ้ำเติมด้วยยุทธวิธีการสร้างข่าวปลอมเฟคนิวส์ถล่มกันไปมา

    แม้ว่าสงครามข่าวปลอมไม่ทำให้เกิดการล้มตายหรือบาดเจ็บก็ตาม แต่มันเป็นการกระตุ้นเติมเชื้อไฟขยายความขัดแย้งระหว่างคนสองสัญชาติให้ร้าวฉานเกินกว่าสงครามในยุคเก่าก่อนได้หลายเท่าสุดประมาณ

    จนคำว่า”สันติภาพ”ที่โลกใฝ่หา ยิ่งยากจะพบเจอ หาไม่ง่ายเหมือนค้นหาของกินของใช้ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

    เมื่อไรเราจะเห็นคุณค่าของสันติภาพ หรือว่าเมื่อสิ้นมนุษย์ไปทั้งหมดแล้ว เราหวังจะเหลือเป็นผู้รอคอยดูคนสุดท้ายคงจะดีกว่า

    ขอเพียงไม่ลืมว่าเราทุกลมหายใจทุกชีวิต ล้วนมาอาศัยโลกใบนี้อยู่เพียงช่วงหนึ่งไม่มากไม่น้อยกว่าร้อยปีแค่นั้นเอง ไม่มีผู้ใดยืนตระหง่านง้ำค้ำโลกหรอก

    หากจะยึดถือเอาผืนฟ้าแผ่นดินมหาสมุทรสุดหล้าเป็นของตน ให้ลองตรึกตรองให้ดี

    ถ้าไดโนเสาร์หรือกระทั่งสัตว์เซลล์เดียวมันมีสมองมีสติปัญญาเหมือนมนุษย์ มันคงเอ่ยอ้างสิทธิ์ว่ามันเป็นเจ้าของธุลีดินทุกเม็ด น้ำทุกหยด ต่างหาก หาใช่ของพวกมนุษย์ผู้โฉดเขลาเหล่านั้นไม่

    มนุษย์ที่ไม่ยอมรับรู้ว่าเมื่อกาลหนึ่งมาถึง มันจักต้องสูญหายไปจากโลกนี้ชั่วกัปกัลป์

    ได้คิดได้ตรึกตรองบนรถเมล์ที่ตะบึงโครมครามไปตามถนนตะปุ่มตะป่ำกระเด็นกระดอน กับอายุขัยของรถคันนี้ที่คิดว่าไม่ต่ำกว่าสามสิบปีอย่างแน่นอน เพราะเคยเห็นมานานขนาดนั้น หรือมันคือยานยนต์อมตะ

    ไม่ว่าจะมียานยนต์รุ่นใหม่อัจฉริยะอุดมด้วยปัญญาประดิษฐ์ ใช้พลังงานไฟฟ้า พลังไฮโดรเจน หรือพลังงานพระอาทิตย์ ชนิดใดก็ตาม

    รถเมล์ครีมแดงมันก็ยังดิ้นรนฮึดสู้อย่างไม่ยอมศิโรราบจนมาถึงเจนเนอเรขั่นอัลฟ่าได้ มันย่อมมีอะไรที่เหนือกว่าจินตนาการอย่างมีนัยสำคัญ

    พอมาถึงตรงนี้เป็นต้องรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นทันที กับวลี

    “อย่างมีนัยสำคัญ”

    ได้ยินได้เห็นอยู่บ่อยๆ จากข่าวสาร สื่อต่างๆ วงเสวนาวิคราะห์แทบทุกแวดวง ได้ยินคราวใดก็เปิดพจนานุกรมหรือค้นจากกูเกิลว่ามีความหมายแท้จริงอย่างไร

    เมื่อจับความจากสื่อเนื้อหาสาระนั้นๆ มักไม่เข้าใจทุกทีว่าเจ้าวลีนี้มีความหมายว่าอะไรทุกที จนคิดว่าควรลบวลีนี้ออกไปจากหัวเสียเลย พยายามจะไม่นึกถึงหรือทำความเข้าใจกับมันอีกต่อไป ไม่ว่าจะพบเจอที่ไหนก็ตาม

    แล้วลุกขึ้นจากที่นั่งโดยอัตโนมัติทันทีเมื่อรถเมล์ถึงป้าย ข้าพเจ้าก้าวลงจากรถ

    ลืมทุกสิ่งที่คิดวนอยู่ในหัวระหว่างเดินทางลืมเครื่องมนุษย์ ลืมเรื่องพิพาทเขตพรมแดน ลืมเรื่องใครเป็นเจ้าของโลกใบนี้ไปหมดสิ้นอย่างไร้นัยสำคัญ.

    17/8/2568

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments