โรงแรมเวียงจันทน์แม่โขงทำหนังสือชี้แจงไปยังหัวหน้าแผนกตำรวจท่องเที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์ กรณีได้จัดกิจกรรมคล้องบ่วงพนักงานสาว
ตามที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่กรณีเมื่่อวันที่ 14 ก.พ.ปีนี้ ช่วง18.00 น.ว่ามีพนักงานและแขกที่มาใช้บริการกับทางร้านจำนวนหนึ่งเข้าร่วมกิจกรรม เป็นกิจกรรมภายในเท่านั้น จัดอยู่หน้าโรงแรมชั้นหนึ่งของบริษัทเวียงจันทน์แม่โขง ตั้งอยู่ที่บ้านโพนทัน เมืองไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์
ทางบริษัทมีจุดประสงค์จะรายงานมายังหัวหน้าแผนกตำรวจท่องเที่ยว นครหลวงเวียงจันทน์ให้รับทราบว่าในวันเวลาดังกล่าวที่มีการจัดกิจกรรม จนสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ค่อยจะเหมาะสม
บริษัทจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสนุกสนานต้อนรับลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางร้านของเราเท่านั้น
ห่วงที่ใช้โยนนั้นที่ทำจากเบาะ ก่อนจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้น พนักงานเองได้ทดลองก่อนแล้ว การกระทำดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น หากมีสิ่งใดที่ทำผิดพลาด ก็พร้อมรับฟังและรับคำแนะนำจากผู้ใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไปจะไม่ให้มีเรื่องลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ข้างต้นนี้เป็นหนังสือชี้แจงของโรงแรมเวียงจันทน์แม่โขง ที่จัดกิจกรรมจนเป็นเรื่องฉาวโฉ่ในสังคมออนไลน์ ในทางลบมากกว่า
เมื่อคนลาวจำนวนไม่น้อยแสดงความเห็นว่า กิจกรรมคล้องบ่วงพนักงานสาวหลายคนที่ยืนถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยแขกนักท่องเที่ยวของโรงแรมมาร่วมเฮฮาโยนบ่วงคล้องตัวพนักงานสาวโรงแรมเป็นที่สนุกสนาน เปรียบเหมือนโยนบ่วงคล้องเป็ดตามงานวัด
เรียกว่าเป็นการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ไปเลยทีเดียว
บางคนเดือดดาลว่า กระทำเหมือนคนเป็นสัตว์เดรัจฉานไปโน่น หรือเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของหญิงลาว เล่นสนุกสนานราวกับเด็กเล็ก มีเงินทำอะไรก็ได้ ฯลฯ
นี่คือ ผลลัพธ์ของการทำอะไรโดย “คิดน้อย”ไปหน่อย
ความเสียหายตามมา “มหาศาล” ถึงแม้ทางบริษัทเจ้าของโรงแรมจะชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น และแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
โลกทุกวันนี้ “สื่อสังคมออนไลน์” คือ ซอฟท์พาวเวอร์ที่แท้จริง ไม่เสียเลือดเสียเนื้อเหมือน “ฮาร์ดพาวเวอร์” แบบขีปนาวุธนำวิถีแต่เสียหายอย่างเยือกเย็นและยาวนาน
การคิดทำการอะไร ไม่ใช่เพียง “ทบทวน”พอสังเขปแล้วลงมือทำเลย
มันยังต้องคิดทบทวนหลายชั้น ประเมินความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้หนักเข้าไว้ก่อน
ไม่อย่างนั้น จะต้องตามไล่เบี้ยลิ้นห้อย แก้ตัวจนหมดล่อนจ้อนก็แก้ไขอะไรไม่ได้
ดอนรัญจวน 20/2/2567