จับหนุ่มโพสต์ – แชร์เสียบประจาน คลิปร่วมเพศ สาว นร. ม.4 รร.ชื่อดังใน จว.เพชรบูรณ์ แฟนเก่าเพื่อน ปมแค้น เพื่อนถูกบอกเลิกตีตัวออกห่าง
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 ,พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รอง ผกก.ฯ , พร้อมชุดปฏิบัติการ 11 กก.1 บก.ป. ได้ทำการจับกุม นายธเนตร หรือเป้ เอี่ยมกลั่น อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดี “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันมีลักษณะลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” สามารถจับกุมผู้ต้องหาบริเวณซอยลาดพร้าว 20 แขวงจอมพล เขตจอมพล กรุงเทพ
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 31 ม.ค.60 เวลา 15.00 น. เกิดเหตุมีผู้นำภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเป็นคลิปวิดีโออันมีลักษณะลามกอนาจาร ในขณะมีเพศสัมพันธ์ของ น.ส.ชมพู่(นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รร.ชื่อดังใน จว.เพชรบูรณ์ ไปเผยแพร่ประจานผ่านช่องทางต่างๆ บนโปรแกรมเฟสบุ๊ค ทำให้ได้รับความอับอายและเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยผู้นำเข้าข้อมูลดังกล่าวสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใช้ชื่อบัญชี “Thanet Aiamklan(เปเป้)” และ “Soravit Rumordet Kong”
“ผู้ต้องหาได้นำภาพดังกล่าว เป็นภาพนิ่งและคลิปวิดีโออันมีลักษณะลามกดังกล่าวไปโพสต์ในกลุ่ม “คลิปดังเฟสบุ๊ค” “คลิปหลุดคลิปดัง” รวมทั้งกลุ่มปกปิดต่างๆในโปรแกรมเฟสบุ๊ค โดยระบุข้อความเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาดูภาพลามกอนาจารในขณะมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งมีการสร้างบัญชีโปรแกรมเฟสบุ๊คปลอมขึ้นมา อีกหลายบัญชี เพื่อเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอและส่งภาพคลิปวิดีโอดังกล่าวไปให้กลุ่มคนรู้จักและเพื่อนภายใน รร.ของผู้เสียหายดูด้วย “
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช กล่าวต่อว่า เหตุเกิดที่ต.ห้วยสะแก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากคดีดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชนในวัยศึกษา กระทบต่อสวัสดิภาพของเยาวชนและความรู้สึกของผู้ปกครอง พจึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ 1-1 สืบสวนจับกุมตัวคนร้าย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 มี.ค.60 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบสวนทราบว่า นายธเนตร หรือเป้ เอี่ยมกลั่น หลบหนีมากบดานอยู่ที่ ซ.ลาดพร้าว 20 แขวงจอมพล เขตจอมพล กรุงเทพฯ จึงได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
นายธเนตร หรือเป้ เอี่ยมกลั่น อายุ 20 ปี เปิดเผยว่า ตนเองร่วมกับนายสรวิช ลือเดช อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน และเคยคบหากับผู้เสียหาย นำภาพอันมีลักษณะลามกอนาจารในขณะที่นายสรวิชฯ อยู่กับผู้เสียหายและได้ถ่ายภาพดังกล่าวไว้ ต่อมาผู้เสียหายได้ขอเลิกรา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มผู้ต้องหาอีก ผู้ต้องหาจึงได้สร้างบัญชีโปรแกรมเฟสบุ๊คปลอมขึ้นมา เพื่อนำคลิปดังกล่าวไปโพสต์ประจานในที่ต่างๆ รวมทั้งส่งให้กลุ่มเพื่อนภายใน รร.ของผู้เสียหายดู เพื่อเป็นการแก้แค้นที่ผู้เสียหายตีตนออกห่างจากตน