จู้กหู้กกู กราบสวัสดีและทำความเคารพนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
จากจุดเริ่มต้น….อยู่ในกลุ่ม กรุ๊ปออฟเดธ ที่ต้องเจอกับอดีตแชมป์โลกอย่าง เยอรมันและสเปน ทำให้หลายคนมองว่าพวกเขาน่าจะตกรอบแรกแทบจะ 100%
พวกเขากล้าๆพลิกล็อคช็อคโลก ด้วยการกลับมาชนะ เยอรมัน 2-1 ในเกมแรก จากการเปลี่ยนตัวแบบกามิกาเซ่ ที่ทำให้ ริทสุ โดอัน, มิโตมะ และ มินามิโนะ กลายมาเป็นที่พูดถึงในเกมแรก
เกมต่อมากับคอสตาริกา ที่ถ้าพวกเขาคว้าชัยได้ ก็แทบจะการันตีเข้ารอบแบบแบเบอร์……แต่การเก็บตัวรุกบางส่วนลงมาในครึ่งหลัง เป็นแผนแบบในนัดแรกไม่ได้ผล พวกเขาพ่าย 0-1 และทำให้โอกาสตกรอบสูงขึ้นอีกครั้ง เพราะต้องไปดวลกับสเปนในนัดสุดท้าย
สเปนออกนำพวกเขาไปก่อนตั้งแต่ต้นเกมโดย โมราต้า ทำให้ญี่ปุ่นแทบจะตกรอบแบบแน่นอน เพราะเยอรมันก็นำเช่นกันตั้งแต่ต้นเกม
ครึ่งหลัง ฮาจิเมะ โมริยาสุ ใช้แผนดับเครื่องชนตามถนัดอีกครั้ง เพราะนักเตะซามูไร ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว…..
ริทสุ โดอัน และ คาโอรุ มิโตมะ ถูกส่งลงมาเพื่อพลิกวิกฤต ใน 45 นาทีสุดท้าย
เพียง 3 นาทีเริ่มในครึ่งหลัง ริทสุ โดอัน แหวกหลบแนวรับสเปนทั้งแผงราวกับ การ์ตูนกัปตันซึบาสะ ก่อนจะยิง ตีเสมอให้ทีม 1-1
แน่นอนว่าประตูเดียวยังไม่พอจะส่งให้ ญี่ปุ่นสร้างประวัติศาสตร์ ทั้งการผ่านเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม และเป็นทีมเอเชียทีมแรกที่ล้มอดีตแชมป์โลก 2 ทีมในคราเดียว
บอลจากริมเส้นขวาในนาทีที่ 51 ของ ริทสุ โดอัน ถูกปาดเข้ากลาง ก่อนจะเลยหน้าปากประตูไปหมด และเป็น คาโอรุ มิโตมะ ที่ปาดบอลแบบเส้นยาแดงผ่าแปด (ก่อนลูกจะออกเส้นข้างสนามในระดับที่บอลแตะเส้นจากมุมกล้องด้านบนเพียงไม่กี่ มิลลิเมตร) ให้ อาโอ ทานากะ ชาร์จบอลขึ้นนำ 2-1 ราวกับปาฏิหาริย์
หลังจากนั้น พลพรรคซามูไรตรึงสกอร์นำสเปน 2-1 ได้จนจบเกม และถีบให้แชมป์โลก 4 สมัยอย่างเยอรมันต้องตกรอบแรก 2 ครั้งติดกันแบบเหลือเชื่อ
แล้ววันนี้ทีมชาติญีปุ่นก็ไปไม่ถึงดวงดาว !!!
หลังจากผลเสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที ทีมชาติญี่ปุ่นก็ได้หยุดเส้นทางจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยการแพ้จุดโทษ ให้แกทีมชาติโครเอเชีย !!!
จู้กหู้กกู้ ขอแสดงความเคารพ นักสู้ซามูไรผู้ชนะอดีตแชมป์โลกอย่าง เยอรมันและสเปน
ข้าน้อยขอชาบู