ตม.ชลบุรี ผนึกกำลัง ท่องเที่ยวพัทยา รวบหนุ่มอิรักแอบซ่อนตัวอยู่ในไทย พบวีซ่าขาดมาแล้ว 8 ปี ไม่มีงานทำ หวั่นเข้ามาก่ออาชญากรรม
วัน28 มี.ค. 66) พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.ปริญ ศรีภัทรกุลชัย สว.กก.2 บก.ทท.1 (พัทยา) พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุม MR.KHALID MAJEED ALI ALI อายุ 52 ปี สัญชาติอิรัก หลังพบเข้ามาอยู่ในไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดนานกว่า 8 ปี เกรงจะเข้ามาทำสิ่งผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.ปริญญา เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่ามีชายชาวอิรัก แฝงตัวอยู่ในชุมชนมาบยายเรีย มาเป็นระยะเวลานาน ไม่ปรากฎว่าประกอบอาชีพใด ส่วนมากจะเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครในชุมชน เกรงว่าอาจจะเข้ามาก่อเหตุหรือกระทำผิดกฎหมาย
ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิระวัตร์ วงศ์สิริเมธีกุล รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี, พ.ต.ต.วีระชัย ถิ่นกมุท สว.ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3, ตำรวจท่องเที่ยว และ สืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังไปตรวจสอบ พบ MR.KHALID ขณะนั่งอยู่หน้าบ้านพักในชุมชนฯ ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ MR.KHALID ถึงกับหน้าซีด และเป็นลม เจ้าหน้าที่รีบปฐมพยาบาล
จากการตรวจสอบหนังสือเดินพบว่า ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2557 ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ได้รับอนุญาตให้อยู่ 60 วัน ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2558 แต่เมื่อการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว ไม่ได้เดินทางกลับออกไป ถือเป็นการอยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) “เป็นเวลานานกว่า 8 ปี หรือ 2,993 วัน” จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ปริญญา ฯ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตหรืออยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือแฝงตัวเข้ามาขอวีซ่าประเภทต่างๆ แต่ไม่ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์จริง เพื่อป้องปรามมิให้เข้ากระทำผิดกฎหมาย ทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
การอยู่เกินกำหนดอนุญาตมีความผิดในข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะต้องถูกบันทึกเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลา 10 ปี