Friday, October 3, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตม.1ตะครุบหนุ่มโปรตุเกสสแกมเมอร์ระดับโลกหนีคดีโกง2หมื่นล.ซุกไทย

    ตม.1ตะครุบหนุ่มโปรตุเกสสแกมเมอร์ระดับโลกหนีคดีโกง2หมื่นล.ซุกไทย

    สตม.รวบหนุ่มแดนฝอยทอง สแกมเมอร์ระดับโลกหลังก่อคดีฉ้อโกงคริปโตฯ และบัตรเครดิตมูลค่าความเสียหายเกือบ 2 หมื่นล้าน หนีกบดานหลายทวีป ก่อนจนมุมคาห้างดัง กลางกรุงเทพฯ

    ปฏิบัติการจับกุมหนุ่มชาวโปรตุเกส นักต้มตุ๋นระดับพระกาฬ เป็นที่ต้องการตัวในหลายประเทศ ทั้งในยุโรป และเอเชียในครั้งนี้เปิดเผยขึ้น หลังจากชุดสืบสวนจากกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  รับทราบข้อมูลจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศซึ่งได้พบ และจดจำตำหนิรูปพรรณได้

    นับเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของนักต้มตุ๋นชื่อดังชาวโปรตุเกส ซึ่งผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสำนักพิมพ์ท้องถิ่นโปรตุเกส มีรายงานว่าได้เข้ามาในกบดานในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และน่าจะก่อคดีฉ้อโกงทรัพย์และเป็นบุคคลที่มีหมายจับในประเทศไทยด้วย

    หลังจาก สตม.ได้ข้อมูลดังกล่าว “บิ๊กปู” พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ควบคุมอำนวยการปฏิบัติการให้เป็นไปอย่างรัดกุม และให้ระดมสรรพกำลังทีมนักสืบในการติดตามจับกุม

    มอบหมายให้กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เมืองหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน รอง ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 เป็นหัวหอกในปฏิบัติการ

    ทีมสืบสวนเริ่มต่อจิ๊กซอว์ด้วยการนำภาพใบหน้าของเป้าหมาย ที่สื่อโปรตุเกสมีการตีข่าวอย่างใหญ่โต มาเปรียบเทียบในระบบไบโอเมตริกซ์ จนยืนยันตัวบุคคลต่างด้าวเป้าหมายได้ว่าคือนาย คาร์ลอส ลาโปโซ่ (Carlos Laposo) อายุ 39 ปี เกิดที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส

    จากการตรวจสอบข้อมูลด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ.2566 ในฐานะนักท่องเที่ยว ก่อนจะก่อคดีฉ้อโกงโดยหลอกลงทุนบิตคอยน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

    จากการตรวจสอบพบว่าคดีดังกล่าวได้มีการถอนหมายจับออกจากระบบ ก่อนที่ต่อมา นาย คาร์ลอส ลาโปโซ่ ได้หนีไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ภาคใต้และหายตัวไปจากสารบบ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่มีการขอต่อวีซ่า หรือแจ้งที่พักอาศัย เป็นเวลาเกือบ 2 ปี

    จนกระทั่งวันที่ 1 ต.ค.2568 ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับเบาะแสสำคัญเนื่องจากมีชาวโปรตุเกสซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอ้างว่าได้พบตัวนักต้มตุ๋นรายนี้ กลางกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่รีบลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายจุดในบริเวณที่มีการอ้างถึง

    พบจุดสุดท้ายพบบริเวณ ถนนพระราม 1 ใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง  นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนกว่า 10 นาย แฝงตัวลงพื้นที่ค้นหาในห้างสรรพสินค้า

    จนเวลา  15.00 น.หรือ กว่า 5 ชั่วโมงนับจากได้เบาะแส ความพยายามของชุดสืบสวนก็เป็นผล เมื่อหนึ่งในเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบพบชายชาวต่างชาติตำหนิรูปพรรณตรงกับเป้าหมายกำลังยืนโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จึงเข้าแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบการตรวจลงตราครั้งสุดท้ายคือเมื่อปี 2566

    เบื้องต้นเจ้าตัวรับว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจริง  แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    จากการตรวจสอบประสานฐานข้อมูลตำรวจสากลพบประวัติก่อคดีต้มตุ๋นมาแล้วทั้งในประเทศโปรตุเกสเอง ในยุโรป ก่อนจะหลบหนีมาที่ฟิลิปปินส์ และมาจนมุมที่ประเทศไทย มูลค่าความเสียหายรวมตามที่ผู้สื่อข่าวโปรตุเกสรายงานยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์กว่า 500 ล้านยูโร

    รูปแบบแผนประทุษกรรมมีทั้งฉ้อโกงโดยหลอกลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ และฉ้อโกงบัตรเครดิต ปลอมแปลงหนังสือเดินทาง เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม นาย คาร์ลอส ลาโปโซ่ (Carlos Laposo) จะถูกดำเนินคดีและบันทึกชื่อเป็นบุคคลต้องห้าม ก่อนจะถูกส่งกลับไปยังประเทศโปรตุเกส ตามกฎหมายคนเข้าเมืองต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments