Saturday, May 4, 2024
More
    Homeหลังเกษียณฯหลังเกษียณฯมือปราบเหยี่ยวดำ

    หลังเกษียณฯมือปราบเหยี่ยวดำ

    มือปราบเหยี่ยวดำ-พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์  1ในนักสืบระดับตำนานกรมตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    เขาเป็น 1ในนักสืบที่เสี่ยงตายปลอมตัวเข้าหาข่าวแก๊งตี๋ใหญ่ จอมโจรระดับตำนาน ก่อนถูกวิสามัญฯเมื่อปี 24

    ย้อนเส้นทางชีวิต หนุ่มลำปางจบจากโรงเรียนพลตำรวจนครบาล เมื่อปี 2511 ไปอยู่สังกัดกองสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1  

    เสร็จจากสืบสวนคดีตี๋ใหญ่  ไปอบรมนักเรียนนายตำรวจ รุ่น 24 รุ่นเดียวกับ เรวัช กลิ่นเกษร เมธี กุศลสร้าง ออกมาเป็น รอง สว.ป.สน.ห้วยขวาง  รอง สว.กองสืบสวนนครบาลเหนือ  

    ตามปรมาจารย์นักสืบ-อาจารย์คง-คงเดช ชูศรี ไปเป็น รอง สว.สส.สน.ดินแดง ทำหน้าที่หัวหน้าสายสืบ ตามพล.ต.ต.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ไปเป็น สว.สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่

    ชีวิตพลิกผันเมื่อไปจับบ่อนผู้มีอิทธิพล โดนย้ายไปเป็น สว.ป.เมืองอุทัยธานี

    ก่อนพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์  เอากลับนครบาลเป็น สว.สืบสวน สน.ดุสิต กระทั่ง พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ขึ้นเป็นผู้บังคับการนครบาลธน ดึงกลับมาเป็น สารวัตรสืบสวนธน  
               
    ต่อมานายพลตงฉิน-เสรี เตมียเวส ไปรับผิดชอบภาคตะวันออก ไปจับกำนันผู้มีอิทธิพลชื่อดัง ก็เอาตัวบรรดล ไปเป็น รอง ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรภาค 2

    จอมคนนครบาล-โสภณ วาราชนนท์ ดึงกลับนครบาล  ไปเป็น รอง ผกก.สืบสวนนครบาลธน  ก่อนตามท่านวรรณรัตน์ ไปภาค 8 เป็น ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช  
            
    เมื่อ วรรณรัตน์ กลับมาเป็น ผบช.น. เขาถูกดึงกลับนครบาลไปเป็น ผกก.สน.หลักสอง  ผกก.สืบสวน นครบาล 9 ก่อนถูกมรสุมชีวิต ไปเป็น ผกก.อก.บก.น.9 ผกก.สน.สุวินทวงศ์

    แต่ ปานศิริ ประภาวัต เอากลับมาเป็น ผกก.กองสืบสวน ศูนย์สืบสวน บช.น. ก่อนโดนย้ายมาเป็น ผกก.สภ.หนองโดน จ.สระบุรี  ขึ้นเป็น รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี จนกระทั่งเกษียณในตำแหน่งนี้

    เขาเกษียณไปพร้อมกับความภูมิใจของเจ้าตัว ที่ไม่เคยสร้างความด่างพร้อยให้กับวงการสีกากี

    ตั้งแต่รับราชการ ไม่เคยมีใครมาร้องเรียนว่า ทุจริตต่อหน้าที่ รีดไถประชาชน ไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องประพฤติผิดวินัยร้ายแรง  

    หลังเกษียณฯตั้งแต่ปี51 เขาเขียนหนังสือเหยี่ยวดำ บันทึกประสบการณ์การจับโจรในชีวิตราชการที่ผ่ามา ไปบรรยายให้กับตำรวจรุ่นใหม่ถึงวิธีสืบสวนจับกุมคนร้าย

    จนปัจจุบัน ด้วยพิษโควิด เขามาใช้ชีวิตบั้นปลายกับภรรยา ที่ไร่ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯและ “หูตั้ง”สุนัขคู่ใจ

    วันเวลาทำให้ผมได้มาเจอพ.ต.อ.บรรดลอีกครั้งในไร่แห่งนี้ ในเดือนต.ค. 64 เดือนแห่งการเริ่มวันเกษียณอายุของตำรวจรุ่นน้องในวัย60 ขณะที่เจ้าตัวสุขภาพแข็งแรงแม้วัยเข้าเลข 7  

    เตือนน้องเกษียณ ต้องทำใจ
    ขอเตือนสติว่าน้องต้องทำใจ อันดับแรกที่จะมาหาคือความเหงา พอเกษียณปุ๊บ มันหยุดเลย ต้องทำใจรับสภาพ ใจเราต้องเข้มแข็ง ต้องยอมรับ  

    น้องจะพบอะไรอีกหลายอย่าง  คนที่น้องคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาก พ่อค้าที่ซี้ปึ้กกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกัน เที่ยวเตร่ด้วยกัน

    บางคนเขาจะไม่มาหาน้องแล้ว เขาจะห่างเหินโดยที่เราก็ไม่เข้าใจ เดี๋ยวนี้โทรศัพท์หามัน มันยังไม่มา ไม่พาเราไปกินข้าว เหมือนเมื่อก่อน  

    มือปราบเหยี่ยวดำในวัย71 เริ่มเตือนน้อง
    สิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัว
    เราหมดอำนาจแล้ว  ให้คุณให้โทษใครไม่ได้แล้ว  ชีวิตมันเป็นเช่นนี้  คิดเสียว่า เราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

    สิ่งสำคัญที่สุด คนที่จะอยู่กับเราชั่วชีวิตก็คือครอบครัว จากตอนที่ทำงาน เช่น ตัวผมไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ให้เมีย

    ก่อนนี้มื้อเย็นนับครั้งได้
    ตลอดทั้งชีวิตรับราชการ อาหารมื้อเย็น ที่กลับมากินข้าวที่บ้านนี่ ผมว่า ผมนี่นับครั้งได้เลย มีเวลา แต่ไม่มีโอกาส มื้อเย็นนี่ ไม่ค่อยมี น้อยมาก

    ทีนี้หลังเกษียณ เรากลับมาอยู่กับลูกกับเมียเรา  อยู่กับครอบครัวเราแล้ว ผมก็มีลูก 3 คน ภรรยาผมก็เป็นอดีตพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ ผมก็อยู่กับลูก ทุกวันนี้มีความสุข อยู่กับครอบครัว  

    คนเคยสนิท เมื่อถึงเวลาจะรู้ว่าไม่ใช่        
    มันเป็นความสุขจริงๆที่ไม่มีการเสแสร้ง  คนที่เราคิดว่าที่เขาสนิทกับเรามากๆพอถึงเวลาที่เกษียณแล้วจะรู้ว่า เขาไม่ใช่เพื่อนแท้ของเราหรอก เขามาอาศัยบารมี หรืออำนาจของเรา

    อย่าไปเสียใจ ห้ามเสียใจเด็ดขาด เพราะมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงใหญ่โต อะไร มันเป็นเช่นนั้นแหละ ต้องทำใจ อยู่กับครอบครัวนั่นแหละดีที่สุด  
               
    สุขภาพคือสิ่งสำคัญ
    เป็นเวลาที่เราได้พักผ่อนจริงๆ ดูแลสุขภาพตัวเอง  ผมนี่มีความสุข ร่างกายผมดี ไม่เป็นเบาหวานความดัน เพราะโชคดี หมั่นไปตรวจสุขภาพ หาหมอทุก 3 เดือน ที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วออกกำลังกาย สิ่งที่สำคัญหลังเกษียณ ก็คือสุขภาพ  

    แข่งกันใครอายุยืนกว่ากัน          
    เคยเจออดีตผู้บังคับบัญชาท่านหนึ่ง ท่านก็ให้ข้อคิดดีนะ บอกเฮ้ย สมัยเรารับราชการนี่นะ มันแข่งกันนะ รุ่นเรานี่ ใครจะไปไกลกว่าเพื่อน สูงกว่าเพื่อน พอหลังจากเกษียณแล้ว ใครจะอายุยืนกว่ากัน  พล.ต.ต.ดิสสทัต ภูริปโชติ อดีตรอง ผบช.น.ท่านบอก

    การดูแลรักษาตัว ออกกำลังกาย วิ่งช้าๆ เดิน สำคัญอีกอย่างคืออย่าเครียด ถ้าเครียด จะทำให้เราแย่

    ต้องปล่อยวาง อย่าไปเอาเรื่องอะไรจุกจิก มาคิด มากังวล ต้องตัดออกไป ปล่อยวาง

    เห็นกับตาอดีตยิ่งใหญ่ปัจจุบันไร้ใคร
    แล้วความดี ความชั่วของอดีตที่ผ่านมา ถามว่าจะเห็นกันไหม  ผมเจอกับตัวเอง  เห็นผู้บังคับบัญชาหลายคนที่โรงพยาบาล เวลาไปหาหมอ ผู้บังคับบัญชาดีๆที่มีน้ำใจงดงาม ไม่มักมากในลาภผล รักลูกน้อง ผมเจอผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลายท่าน ที่โรงพยาบาล 

    บางคนนี่ อดีตเคยยิ่งใหญ่ๆมาก ไปเจอที่โรงพยาบาล ท่านเดินคนเดียว ถือถุงยา ก้าวเท้าสั้นๆ ไม่มีใครมาห้อมล้อม ไม่มีใครทัก  

    ภูมิใจพิชิตคดี “ตี๋ใหญ่”
    ย้อนไปตอนรับราชการ พอเกษียณแล้ว  ถ้าถามว่าภูมิใจในเรื่องอะไรบ้าง  ผมทำคดีมาเยอะ พิชิตคดีสำคัญๆ มาหลายคดี สมัยเป็น ผกก.สถานีตำรวจ 4 โรงพัก ผกก.กองสืบสวนนครบาล 3 ปี  ตามจับกุมคดีที่ว่าสะเทือนขวัญ ประชาชนสนใจมาก หลายคดีมาก

    แต่ถ้าถามว่า คดีไหนที่ภูมิใจ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ก็คงไม่มีคดีไหนเกินคดีล่าตี๋ใหญ่  
            
    ชาวบ้านเหมาบัสร้องตำรวจ
    สมัยนั้น ผมยศแค่ ส.ต.ท.สังกัดกองสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 อายุ 25-26 รับคำสั่งให้ไปแฝงตัวไปกับสาย ไปหาข้อมูลเรื่องตี๋ใหญ่ กับลูกน้อง  กบดานอยู่ที่ไหน

    ผมเห็นภาพชาวดำเนินสะดวก เหมารถบัสเต็มเลย มาร้องเรียนกับ ผบช.ภ.1 สมัยนั้น พล.ต.ท.จรัส เพ็งเจริญ พล.ต.ต.ณรงค์ ทวีโภชน์

    พิษตี๋ใหญ่ ทำดำเนินไม่สะดวก
    เขาร้องว่าเดี๋ยวนี้ คลองดำเนินสะดวก มันเดินไม่สะดวกแล้ว  แก๊งตี๋ใหญ่ มันออกอาละวาด เรียกค่าไถ่ ปล้นฆ่า ตอนนั้น ปี 2519 หรือ 2520  รุนแรงมาก

    ผู้บังคับบัญชาตั้งชุดเฉพาะกิจ ล่าตี๋ใหญ่ กับลูกน้อง  มี พ.ต.ท.ประโยชน์ ไกรยูรเสน พ.ต.ต.ศิริ ทองมี พ.ต.ต.โอภาส เทียรหิรัญ เป็นหัวหน้าชุด

    คืนเดียวตัดสินใจรับงานหิน
    ท่านเรียกผมไปพบ กูจะให้มึงไปหาข่าวเรื่องตี๋ใหญ่ กับลูกน้อง ไปกับสาย แล้วถามผมว่า ตัดสินใจดีๆ นะ ไม่มีใครบังคับลื้อนะ ดล   คิดดูดีๆ  มันอันตราย มันเสี่ยง

    ผมเอาข้อมูลไปศึกษาคืนเดียว วันรุ่งขึ้น มาบอกผู้บังคับบัญชาว่า เอาครับ

    ไปโดยความที่เป็นตำรวจที่ชอบสืบสวนมาตั้งแต่เด็กๆ  ชอบจับโจรผู้ร้าย ชอบบู๊ ล้างผลาญ ใจถึง  แล้วหน้าตาผมเหมือนคนจีน เพราะแก๊งตี๋ใหญ่ นี่เป็นลูกครึ่งทั้งนั้นเลย ใช้แซ่ กันส่วนมาก  
               
    ลงปจว.ล่วงหน้า ตายในหน้าที่
    ใช้เวลาหลายเดือนมาก ไปโดยที่ผู้บังคับบัญชาให้ลงประจำวัน  ไม่ต้องเข้ามาทำงานแล้ว ออกไปสืบราชการลับ ถ้ามีอันเป็นไปในระหว่างที่ผมไปสืบ คดีแก๊งตี๋ใหญ่กับลูกน้อง ให้ถือว่าเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานตามหน้าที่ ท่านก็คลุมเอาไว้หมด

    ประกอบกับตอนนั้นก็ยังเป็นโสด ยังไม่มีครอบครัว ก็ไปคลุกคลีตีโมงอยู่กับสายของเรา ใช้เวลานานพอสมควร

    11ก.ย.20 ดวลเดือดวิฯสมุน4ศพ
    กระทั่งไปเจอที่หลบซ่อนแก๊งตี๋ใหญ่ มีการปิดล้อมตรวจค้น เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2520 เป็นวันที่เรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์วันหนึ่งของ บช.น.โดยเฉพาะตำรวจฝ่ายสืบสวน

    มีการยิงปะทะกับลูกน้องตี๋ใหญ่ ที่ชุมชนซอยสุโขทัย ท้องที่ สน.ดุสิต คนร้าย ลูกน้องตี๋ใหญ่เสียชีวิต 2 คน ตำรวจสาหัสคนหนื่ง พ.ต.ต.ฉลอง เจียมสุชน สว.ส.สน.สำราญราษฎร์

    ตกบ่ายวันเดียวกัน  วิสามัญลูกน้องตี๋ใหญ่ อีก 2 ศพ ที่หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ถนนศรีอยุธยา ใกล้ๆ สน.พญาไท  

    เรียกได้ว่า เป็นการพิชิตคนร้ายแก๊งใหญ่สำคัญแก๊งหนึ่ง ในยุคนั้น ก่อนที่ ตี๋ใหญ่จะถูกวิสามัญในปี 2524

    คดีประวัติศาสตร์ตำรวจไทย
    ถามว่าตี๋ใหญ่ ร้ายกาจไหม  บอกได้เลย ถึงทุกวันนี้ ปี 2564

    ไม่มีคนร้ายแก๊งไหนในนครบาล หรือปริมณฑล จะยิ่งใหญ่เท่าแก๊งตี๋ใหญ่  เขามีลูกน้องสิบกว่าคน มือพระกาฬทั้งนั้น สู้ตำรวจทุกคน  

    เรื่องจับเป็นนี่อย่าพูดถึง  เป็นประวัติศาสตร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกรมตำรวจในอดีต ที่มีการพิชิตตี๋ใหญ่ กับพวก  
               
    ปราบตี๋ใหญ่ความภูมิใจในชีวิต
    เขามีค่าหัวหรือสินบนนำจับ  เป็นเงินกระทรวงการคลัง 50,000 บาท สมัยนั้น  สมัยนี้ก็เป็นล้าน

    ก็เป็นความภูมิใจของชีวิตมาก ที่ผมคิดว่าได้ทำงานเพื่อตอบแทนบุญคุณประชาชน  ตอบแทนบุญคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกรมตำรวจในอดีตอย่างดีที่สุดแล้ว  

    ภูมิใจที่ว่า ผมเกิดมาเป็นตำรวจ ผมรักอาชีพของผมมาก เลือดทุกหยดผมเป็นตำรวจ

    ผมเกิดมาเป็นตำรวจ ผมไม่เสียชาติเกิดแน่ ความภูมิใจของชีวิต นี่คือเรื่องตี๋ใหญ่  
               

    ตาม”สมเกียรติ”ไปเชียงใหม่
    ปี 2532 ย้ายจากสืบสวนเหนือ ตามท่านสมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ไปเป็นสารวัตรสืบเมืองเชียงใหม่ ปราบแก๊งอันธพาล เขาเรียกกันว่า แก๊งซามูไร

    สมัยนั้น ปี 2532 ประเทศไทยเรา เศรษฐกิจถือว่าดีมากๆ การเงินนี่สะพัดมาก โจรผู้ร้ายก็เยอะ ก็ได้ตั้งหน่วยสืบสวน ที่ผมรับผิดชอบอยู่ 21-22 คน  
             
    ฉายา“เหยี่ยวดำ”อีก1ความภูมิใจ
    อยู่ที่นั่น ประมาณ 2 ปี  มีนักข่าว น.ส.พ.ไทยรัฐ  ชัยพิณ ขัตติยะ ตั้งฉายาผมว่า สารวัตรเหยี่ยวดำ มือปราบเหยี่ยวดำ โดยที่ผมไม่รู้และไม่ได้อินังขังขอบกับฉายา  เขาเรียกก็เรียกไป ไม่ได้เสียหายอะไร  

    แต่ถ้าถามถึงในเวลานี้ ว่าภูมิใจไหม เวลาเขาเรียกว่าเหยี่ยวดำ ภูมิใจมาก

    ส่วนคนที่ตั้งชื่อหน่วยเหยี่ยวดำ คือ พ.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ อดีต สวญ.เมืองเชียงใหม่ เป็นคนที่ผมเคารพนับถือมากจนถึงทุกวันนี้ นี่คือความภูมิใจ

    ลงใต้ไปทุ่งสง ผลจับกุมที่1ของปท.
    ได้เป็น ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช  อ.ทุ่งสง  พื้นที่ใหญ่มากๆ สถิติคดีอาญาสูงมากๆ โจรเต็มเมือง ขุดคดีอุกฉกรรจ์ค้างเก่าขึ้นมา เยอะมาก ไม่เคยจับกันเลย ผมไล่ให้ลูกน้องสายสืบตามจับ

    ผลจับกุมที่ผมอยู่ สภ.ทุ่งสง ปี 2540-2542 อันดับ 1 ของประเทศไทย ของกรมตำรวจระดับสถานีคดีต่างๆ มันลดฮวบฮาบเลย เป็นความภูมิใจในชีวิต

    ชาวบ้านรักไม่อยากให้ย้าย
    คนทุ่งสง ผมรักเขามาก ทั้งๆ ที่ผมไม่ใช่คนภาคใต้ ผมฟังเขาพูด ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย

    วันที่นายวรรณรัตน์ ย้ายจากผบช.ภ. 8 มาเป็น ผบช.น. ลือกันแซดว่า ผมต้องย้ายกลับ บช.น.ถ้าถามว่าอยากย้ายไหม อยากย้าย เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัว  แต่คนทุ่งสงไม่อยากให้ผมย้าย  

    ลูกน้องสายสืบร่ำไห้ตั้งแถวกอด

    ผมน้ำตาซึมเลย เพราะว่าตำรวจส่วนมาก เจอแต่ชาวบ้าน เดินขบวนขับไล่ ผมนี่ประชาชนขอร้องไม่ให้ย้าย  

    วันที่ผมเดินทาง คนทุ่งสง มาส่งผมที่หน้าโรงพัก เป็นพันคน ต่อหน้าภรรยาผม ลูกผม ก่อนหน้านี้ 2 วัน จัดเลี้ยงส่งให้ผม ได้โล่เกียรติยศ จากคนทุ่งสง จากหัวหน้าศาลจังหวัดทุ่งสงหลายโล่

    เป็นความภูมิใจมาก ตำรวจโดยเฉพาะตำรวจสายสืบ ผมลาเขา เขายืนเข้าแถว กอดผมร้องไห้  

    ย้อนคิดถ้าอยู่ภ.8 เกษียณนายพล
    พูดเรื่องย้อนเวลา  หลังจากที่ผมเกษียณ ผมกลับมาคิดถึงตอนที่ผมถูกกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชา  ไม่มีความเป็นธรรม ย้ายผม แกล้งผม

    ถ้าผมอยู่ภาค 8 ไม่ย้ายมาอยู่นครบาล ไม่ได้ขี้โม้ ขี้คุย ผมจะต้องเกษียณอายุราชการอย่างน้อยๆ รอง ผบช.ภ.8 ไม่ใช่มาเกษียณ เป็นรอง ผบก.

    ไม่มีมิตรแท้ในวงการสีกากี
    การรับราชการ ทุกคนต้องการความเจริญก้าวหน้าทั้งนั้น  ถามว่า เสียใจไหม เสียใจ เพราะในวงการตำรวจ คำว่าฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน มันใช้ได้เลย ทุกวันนี้ก็ยังใช้กันอยู่ ไม่มีมิตรแท้ในหมู่วงการสีกากี

    นายวรรณรัตน์ จะเอาผมจากทุ่งสง มาเป็น ผกก.สืบสวนนครบาลแห่งหนึ่ง  ผกก.คนนั้นไม่พอใจผมมาก หาว่าผมนี่จะมาแซะเก้าอี้เขา

    โดยที่ผมก็ไม่รู้เลย ว่านายวรรณรัตน์ จะเอาผมไปไว้ที่ไหน เพราะผมวิ่งเต้นไม่เป็น ไม่เคยเสียเงินซื้อตำแหน่งทั้งชีวิตรับราชการ  ไม่เคยไปเลียแข้ง เลียขา ไม่เคยไปกราบตีนนักการเมือง

    ผกก.คนนี้โกรธผม แค้นผมมาก ว่าผมนี่จะมาแซะเก้าอี้เขา ผมย้ายมาเป็น ผกก.สน.หลักสอง ได้ปีเศษๆ 

    ถ้าปี45 เป็นรองผบก.ผู้การได้แน่
    ผมมาเป็น ผกก.สืบสวนนครบาล 9 รวม 3 ปี จาก สน.หลักสอง มาอยู่บก.น. 9 ได้รับเลือกเป็นตำรวจดีเด่น ของ บช.น. ได้รับโล่เกียรติยศจากชมรมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรม สืบสวนปราบปรามดีเด่น ผมคิดว่าผมต้องได้เป็นรอง ผบก.แล้ว

    สมมติว่า ถ้าปีนั้นผมได้เป็น รอง ผบก.ปี 2545 ผมต้องเกษียณอายุราชการอย่างน้อยๆ ผบก.อย่างแน่นอน  
              
    ถูกใส่ร้ายอยู่ตรงข้ามรัฐบาล
    แต่มันดับความฝัน มีการใส่ร้ายผมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติสมัยนั้นว่าผมเป็นมือหาข่าวการเมืองให้พรรคการเมืองตรงข้ามรัฐบาล

    ประกอบกับผมมีความสัมพันธ์ส่วนตัว รักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง กับหัวหน้าข่าวอาชญากรรมนสพ.มติชน-ข่าวสด

    คือผมรู้จักตั้งแต่เขาเป็นนักข่าวตระเวน ผมอยู่สืบเหนือ เลยผูกพันกันมา

    เสียใจที่สุดเพราะทำให้ถูกย้าย
    แล้วเขาไปเขียนโจมตีการทำงานของผู้บริหารระดับสูงของกรมตำรวจสมัยนั้น  ก็เข้าทาง ผกก.คนนี้เลย

    พินอบพิเทา กับผู้บริหารระดับสูงคนนี้ว่า ไอ้ ผกก.บรรดลมันซี้กับคอลัมนิสต์ มติชน นะ ที่มันโจมตีท่าน  เราต้องเล่นงานมันให้ได้ ย้ายมันไปซะ เอามันไปอยู่ที่ไหน  ผมก็ถูกย้าย  เป็นการย้ายที่ผมเสียใจมาก เสียใจที่สุด

    โดนถีบไปอก.เพื่อให้อับอาย
    ไม่ได้เป็น รอง ผบก.ก็ไม่เป็นไร ย้ายไปอยู่กับงานที่ผมถนัดหน่อย เช่น ผกก.กองสืบ ต่างจังหวัดที่ไหนก็ได้ เป็น ผกก.สถานีตำรวจภูธรแห่งไหนก็ได้

    แต่ย้ายผมไปเป็น ผกก.อำนวยการ บก.น.9 ผมอยู่กองสืบ 9 ก็ให้ผมไปอยู่อำนวยการเพื่อให้ผมอับอาย

    ถ้าผมเป็นคนไม่ดี เป็นตำรวจที่รีดไถ ประพฤติเหลวแหลก มั่วอบายมุข  คบหานักเลง เดินกับเจ้าพ่อ  ผมจะได้รับการคัดเลือกเป็นตำรวจดีเด่นของ บช.น.หรือ  จะได้รับโล่จากชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมหรือ  
               
    ชีวิตสโลว์ดาวน์ตั้งแต่นั้น
    ไปเป็น ผกก.อก.บก.น. 9 รวม 2 ปี ชีวิตสโลว์ดาวน์เลย ตั้งแต่นั้น ยาวนาน 10 ปีเต็มๆ เป็น ผกก.10 ปี สมัยที่ผมเป็น ผกก.นั้น เขาครองตำแหน่ง ผกก.กัน 3 ปีเท่านั้น ขึ้นรอง ผบก.ได้เลย

    แต่ผมเป็น ผกก.10 ปี โดยที่ไม่ได้มีความผิด ย้ายผมอุตลุต จากอำนวยการ บก.น.9 ก็เอาผมไปอยู่สุวินทวงศ์  
               
    ไม่ท้อทำงานจนวันเกษียณฯ
    ท่านปานศิริ ประภาวัต เมตตาผม เอากลับมาเป็น ผกก.กองสืบสวน บช.น.สมัยอู๊ด-ปรีชา ธิมามนตรี  เป็นรองผู้การ  ก็เสียโอกาส เสียจังหวะชีวิต  

    มาได้ตำแหน่ง รอง ผบก.ในปีสุดท้ายของชีวิตรับราชการ สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ท่านเมตตา ให้ขึ้น รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ผมทำงานปราบโจรผู้ร้ายจนวันที่ 30 ก.ย.51 ทำอย่างเต็มที่

    เสียใจที่โดนกลั่นแกล้ง         
    เรื่องนี้คือเรื่องที่เสียใจ ที่โดนกลั่นแกล้ง โดย ผกก.กองสืบสวนคนนี้ ที่ว่า นายวรรณรัตน์ จะเอาผมมาแทนเขา ไปเพ็ดทูลให้ผู้บริหารระดับสูงย้ายผม มันแค้นฝังใจหาว่าผมมาแซะเก้าอี้  ไม่ได้เป็นเรื่องจริงเลย

    ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ ผมไม่ใช่เป็นตำรวจหาเงิน หิวเงิน  ต้องไปอยู่ท้องที่ใหญ่ๆ ไม่เคยขอท่านวรรณรัต เลย ผมเอ่ยปาก ท่านก็ต้องให้ผม

    แต่ท่านอยากให้ผมไปอยู่ ผกก.กองสืบ ในนครบาล โดยที่ผมก็ไม่รู้ตัว ว่าท่านจะเอาผมไปอยู่กองสืบนี้ กลายเป็นมีศัตรู โดยที่เราไม่รู้ตัว  

    เกษียณฯชีวิตส่วนใหญ่อยู่ไร่
    หลังเกษียณ 13 ปี วันๆไม่มีอะไร ชีวิตส่วนใหญ่  จะอยู่ที่ไร่  ก็มีความสุขอยู่ที่นี่  ชอบต้นไม้ ชอบการเกษตร

    หลังเกษียณ ได้รับเชิญจากโรงเรียนนายร้อย จากกองบัญชาการศึกษา ให้บรรยายพิเศษให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจ หลักสูตร ผกก.หลายรุ่น ก็เชิญผมไปบรรยาย  

    ผมก็ไม่ขัดข้อง เพราะอยากจะถ่ายทอดอะไรให้ตำรวจรุ่นใหม่ฟัง  

    ไปบรรยายบางคร้ังจี้ใจดำ
    แต่สิ่งที่ผมสะท้อนจากการไปบรรยายของผม พูดง่ายๆคือว่า ตำรวจบางคน ที่เติบโตมาจากการวิ่งเต้น การซื้อขายตำแหน่ง ก็ไม่ค่อยจะรื่นรมย์เท่าไหร่นัก เพราะผมพูดแรง ไปกระทบจิตใจเขาเหมือนกัน นะครับ

    อันนี้ก็ไม่ว่ากัน  ผมเป็นตำรวจอาชีพ ผมไม่ใช่ตำรวจพาณิชย์ เหมือนพวกบางท่าน
           
    ฝากข้อคิด-ตำรวจไม่มีเงินวิ่งเต้น
    ฝากนิดเดียว ให้กับผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ทุกวันนี้ เวลาผมไปเจออดีตผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกน้องเก่า บนโรงพัก ยังเจอเขาหลายคน ถามว่าเฮ้ย มึงยังอยู่เหรอ อยู่ตั้งหลายปีแล้วนะ มึงยังเป็นสารวัตรอยู่หรือนี่

    สิ่งที่ผมได้รับตอบจากน้องๆ พวกนี้ บอกว่า ผมไม่มีเงินไปซื้อตำแหน่งครับ ผมไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาวิ่งเต้น  
                 

    ถ้าความรู้สึกอันนี้อยู่กับตำรวจทั้งประเทศ  ผมว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แย่แล้ว เพราะทุกคนคิดว่า การจะได้เลื่อนตำแหน่งต้องใช้เงินซื้อ วิ่งเต้น หานักการเมือง ผมว่าจบ

    อึ้งอายุ38 เป็นผกก.ได้ยังไง
    กับคนที่มีเส้น มีสาย คนวิ่งเต้น คนเลียแข้ง เลียขา นักการเมือง ผมถามสักคำซิ คุณประกอบคุณงามความดีอะไร นักหนา  

    คุณอายุ 38 คุณเป็น ผกก.แล้ว คุณทำความดีอะไรให้กับแผ่นดิน คุณทำความดีอะไรให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำไมคุณเป็นเร็วเหลือเกิน

    ฝากดูคนอายุมาก ให้ได้ตำแหน่ง
    ตรงกันข้ามกับไอ้ตำรวจที่อายุ 58 มันยังเป็น รอง ผกก. ฝากผู้บริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย  จะแต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ท่านอย่าไปมองแต่ 30% ก็ได้ก็เหมือนกัน

    สุดหล้า ฟ้าเขียว ไกลๆ อำนวยการ ดูคนที่อายุมากๆ ที่เขารับราชการมาด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ประพฤติดี ประพฤติชอบ

    ให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งให้เขาบ้าง  เอาคนที่ใกล้เกษียณให้เขาได้รับตำแหน่งบ้าง

    ถ้าใช้เงินซื้อ ไม่มีใครทำงาน
    ถ้าความรู้สึกของตำรวจ ที่คิดว่า ต้องเสียเงินซื้อตำแหน่ง นี่ ผมว่าพัง เพราะไม่มีใครจะทำงานแล้ว ทุกคนต้องวิ่งเต้นอย่างเดียว  ฝากผู้บริหารระดับสูงด้วย การแต่งตั้งตำรวจนี่ สำคัญมาก   

    ไม่ใช่มาได้ยศ ตอนที่เขาเออร์ลี่   ฝากไว้แค่นี้ ขอให้ตำรวจที่ยังรับราชการอยู่ ท่านต้องเป็นคนดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    เราผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เห็นทั้งสมหวัง ทั้งผิดหวัง เจอมาหมด แต่ว่าเราอยู่ที่ไหน เราก็เป็นตำรวจ  เราทำความดี ทำความสงบสุขให้กับประชาชนในท้องที่

    ให้เขามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด จึงจะถือว่าเราได้เป็นตำรวจไม่เสียชาติเกิด นะครับ ขอบคุณครับ

    ครับ…ผมเจอกับตำรวจมาเยอะ แต่เพราะเส้นทางการทำข่าว เพิ่งมาสนิทสนมตอนพี่บรรดลเกษียณ

    เสียดายที่รู้จักกันช้า แต่จะเสียใจมากกว่า ถ้าไม่ได้รู้จัก จะเที่ยวทึกทักบอกใครว่าเป็นนักข่าวสายตำรวจไม่ได้เลย

    ใครอยากรู้จัก ใครที่คิดถึงพี่บรรดล ตำนานตำรวจน้ำดีเมืองไทย เปิดเพจเฟซบุ๊ก”หนังสือมือปราบเหยี่ยวดำ”บรรดล ตัณฑไพบูลย์ เจอพี่เขาแน่ครับ

    กิตติพงศ์ นโรปการณ์ บันทึก  11/10/64

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments