หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 สนธิกำลังร่วม ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ทลายกลุ่มมดงานขบวนการขนรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ โดยไม่ผ่านพิธีศุลกากรในพื้นที่ อ.กระบุรี และ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
ขยายผลได้ของกลางรถจักรยานยนต์ใหม่ป้ายแดง เพิ่งดาวน์ออกห้าง 24 คัน และผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.ระนอง 9 ราย ผู้การตำรวจระนอง เตรียมใช้กฎหมาย ปปง.เข้าตรวจสอบทั้งขบวนการ พร้อมทิ้งท้าย ถึงกลุ่มนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ห้ามหากอยากกระทำก็ทำไป แต่ถ้าเจอให้วิ่งหลบให้ทัน
วันที่ 25 ตุลาคม 2565 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ กองร้อย ร.2521 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี
พ.อ. ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 และพล.ต.ต. เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ขบวนการขนรถมอเตอร์ไซต์ข้ามประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากรในพื้นที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง และขยายผลจับกุม มายังพื้นที่ อ.เมืองระนอง ได้ผู้ต้องหารวม 9 ราย และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ป้ายแดงทั้งสิ้น 24 คัน
ตรวจสอบพบเป็นรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งดาวน์จากห้างร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ตามจังหวัดต่างๆในภาคใต้ โดยที่ยังไม่มีผู้เสียหายที่เช่าซื้อแจ้งความรถจักรยานยนต์สูญหายหรือถูกลักขโมย
พ.อ. สูรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผบ.กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ กองร้อย ร.2521 ได้กล่าวว่า
สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระบุรี จับกุมผู้ต้องหาชาว อ.กระบุรี 1 ราย พร้อมยาบ้า 34 เม็ด เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีขนรถมอเตอร์ไซด์ข้ามประเทศไปยังประเทศเมียนมา ที่ถูกจับกุมเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา และอยู่ในระหว่างดำเนินคดีขั้นศาล
ก่อนซัดทอดว่ายังมีขบวนการขนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ ได้ว่าจ้างให้ตนนำรถจักรยานยนต์ 2 คัน ไปส่งที่ท่าน้ำธรรมชาติ หมู่ 3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง เพื่อส่งข้ามไปยังประเมศเมียนมา
เจ้าหน้าที่วางแผนเข้าจับกุมนายลีเถือก ชาวเมียนมา 1 ราย พร้อมเรือหางยาว 1 ลำ ที่เตรียมส่งข้ามแม่น้ำกระบุรี จากนั้นขยายผลต่อไปจับกุมทั้งในพื้นที่ อ.กระบุรี และ อ.เมืองระนอง แหล่งพักและซุกซ่อนรถจักรยานยนต์ ที่เตรียมถูกนำส่งข้ามประเทศ ได้ผู้ต้องหารวม 9 ราย และ รถจักรยานยนต์ 24 คัน
ด้านพล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวว่า
กลุ่มขบวนการที่จับกุมในพื้นที่ จ.ระนอง ส่วนใหญ่เคยกระทำความผิดมาก่อน มีคดีอยู่ในชั้นศาล เป็นเพียงกลุ่มมดงานในพื้นที่ แต่ยังมีกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ที่จะต้องใช้กฎหมาย ปปง.เข้ามาตรวจสอบ
ความผิดขณะนี้มีเรื่องการกระทำความผิดนำรถข้ามแดนซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ พรบ.ศุลกากรเป็นหนึ่งในความผิดขั้นพื้นฐานของการฟอกเงิน และผู้ต้องหาที่เกี่ยวเนื่องจะถูกตรวจสอบด้วยกฎหมายฟอกเงิน ทั้งผู้กระทำผิด แหล่งที่พักรถ รวมทั้งบริษัทขนส่งที่ไม่มีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง
โดยจะให้บริษัทไฟแนนซ์ที่รับประกันภัยรถ เข้าแจ้งความ เพื่อจะตรวจสอบไปถึงบริษัทที่จำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ต้องการเพียงยอดจำหน่าย ไม่มีมาตรการการควบคุม เมื่อกฎหมายธรรมดาไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะนำกฎหมายฟอกเงินมาขัดการ
รวมทั้งผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ข้อมูลและหลักฐานมีพร้อม รอการเปิดปฎิบัติการเข้าจับกุม ก่อนทิ้งท้ายว่า ไม่ห้ามหากอยากกระทำก็ทำไป แต่ถ้าเจอให้วิ่งหลบให้ทัน
