Wednesday, December 4, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน”ทนายวิฑูรย์“เข้าเรือนจำถก5บอสเอาผิด“เจ๊พัช-ฟิล์ม”พยายามฉ้อโกง

    ”ทนายวิฑูรย์“เข้าเรือนจำถก5บอสเอาผิด“เจ๊พัช-ฟิล์ม”พยายามฉ้อโกง

     

    เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 พ.ย.67 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล นานกว่า 5 ชั่วโมง ว่า

    ”ทนายวิฑูรย์“เข้าเรือนจำถกคดี5บอส

    วันนี้ได้พูดคุยกับบอสพอลถึงคดีดิไอคอน ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ทั้งยังได้ปรึกษากันถึงสาเหตุต่าง ๆ กับทางบรรดาบอส เป็นประชุมพร้อมกันในห้องเยี่ยมทนายความทั้งในส่วนของบอสปีเตอร์ บอสโอม โค้ชแล็ป บอสวิน รวม 5 คน

    ส่วนคุณกันต์ กันตถาวร  ได้คุยกับทนายความของคุณกันต์ในอีกห้องแทน  เป็นการคุยเรื่องคลิปเสียงที่สอง ที่มีความยาว 1 นาที 35 วินาที

    แฉปฐมบทรีดทรัพย์“ดิไอคอน”

    บอสพอลได้แจ้งมาว่าต้นเหตุเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ มิ.ย. – ก.ค. คือเหตุการณ์ที่บริษัท ดิไอคอน โดนเรียกเงินครั้งแรก  เป็นทางคุณพัช หรือ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ได้โทรศัพท์มา อ้างว่ามีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ยอดเสียหาย 15 ล้านบาท จะให้เขารับหรือไม่รับทำเคสดังกล่าว ถ้าเขารับ จะมฃพาผู้เสียหายไปออกสื่อ พาไปร้องที่ ปคบ. หรือที่ สคบ. รวมถึงจะร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐด้วย แต่สื่อก็จะออก

    ”บอสพอล“ห่วงชื่อ บ.เสียหายยอมเจรจา

    แต่ทางนั้นเน้นย้ำว่าจะพาไปร้องหลัก ๆ ที่ สคบ. ทำให้ทางบอสพอลเป็นกังวลว่าบริษัทฯ จะเสื่อมเสียยอมเจรจาด้วย  ได้เจรจากับกลุ่มคนที่อ้างเป็นผู้เสียหาย 83 ราย บางคนไม่มีสินค้า บางคนเบิกสินค้าไปหมดแล้วและก็ขายหมดแล้ว ขณะที่บางคนก็ไม่ได้มีสินค้าค้างกับบริษัทแต่อย่างใด หรือบางคนเอาสินค้าไปบริโภคหมดแล้ว  

    จ่ายครั้งแรก8.3ล.”เจ๊พัช“ได้ค่าทวง4.5แสน

    กลุ่มคนนี้ได้ถูกคุณพัชพามาร้องเรียนกับบอสพอล และเจรจากับบริษัทฯ เจรจากันไปเมื่อเดือน ก.ค. มีการจ่ายเงินไปแล้ว 8.3 ล้านบาท แบ่งเป็น จ่ายให้ผู้เสียหาย 7 ล้านกว่าบาท และจ่ายเป็นค่าดำเนินการให้คุณพัช 4.5 แสนบาท ตามที่เขากล่าวอ้างเป็นการโอนเงินเข้าบริษัทฯ ส่วน 3 แสนบาทเป็นการให้เงินสด ทั้งนี้ จ่ายคือจบ

    มีข้อแม้ให้ปิดข่าวเพราะกลัวโดนซ้ำ

    ส่วนเนื้อหาของการจ่ายเงินครั้งนี้ คือจ่ายแล้วให้เก็บรักษาความลับนี้ไว้ เพราะบริษัทกลัวว่าจะไปแจ้งคนอื่น ๆ เพื่อที่จะมาเรียกร้องกับบริษัท อีกทั้งคนกลุ่มนี้เราก็ไม่รู้ว่าได้สินค้าไปแล้วขายได้หรือไม่ได้ขาย เพราะเราเป็นบริษัทที่ขายของให้กับตัวแทนอยู่

    ไม่สำเร็จเกิดพฤติกรรมเอาอย่าง

    เมื่อมีการจ่ายเงิน 8.3 ล้านบาทเสร็จสิ้นแล้ว คนกลุ่มนี้ที่ได้รับเงินก็เอาข้อมูลต่าง ๆ ไปปล่อยในเพจผี เพจเฟสบุ๊ค และเริ่มมีการโจมตีบริษัทเกิดขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. – เดือน ก.ย. จนเป็นที่รู้กันว่ามันเคยมีการเคลียร์เกิดขึ้นในเดือน ก.ค. ไปแล้ว จึงเริ่มมีพฤติกรรมเอาอย่าง

    เช่น คนที่ซื้อของไปแล้วขายไม่ได้หรือไม่ได้ขาย ก็เริ่มเข้าหาคุณพัชมากขึ้น และไปหาทนายตามสื่อโซเชียลมีเดีย หรือกลุ่มทนายอเวนเจอร์ส เหตุการณ์จึงเริ่มบานปลาย อีกทั้งเราได้ยอมจ่ายไปแล้วและเราจะไม่จ่ายอีกแล้ว

    กลายเป็นที่มา 2คลิปเสียงฉาว

    ในช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. จึงเกิดการรวมตัวของผู้ที่อ้างว่าเสียหาย และเริ่มมาเป็นเรื่องในรายการโหนกระแสต้นเดือน ต.ค. เริ่มมีเค้าลาง และเริ่มมีเพจผีแสดงข่าวของดิไอคอนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนั้นพอเราไม่จ่ายเงิน ปัญหาเลยเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นที่มาของคลิปเสียง 2 คลิป คือ คลิปเสียงที่มีเนื้อหาว่าจ้างคุณกรรชัย 20 ล้านบาทเพื่อเขียนสคริปต์

    นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีการปล่อยข่าวปลอมว่าสินค้าของดิไอคอนไม่มี อย. ทั้ง ๆ ที่สินค้ามี อย. ทุกตัว หรือข่าวปลอมว่าสินค้าไม่มีในโกดังในวันที่สื่อไปทำข่าว แต่ที่จริงที่มีสินค้าในโกดังน้อยเพราะมีคนเบิกไปก่อนแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นสินค้าก็มีอยู่

    ไล่ไทม์ไลน์คนในคลิป3คน

    นายวิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับคลิปเสียงที่มีการพูดคุยกันของคนสามคน ทางบอสพอลยืนยันไม่ได้ไปคุยด้วย แต่คนที่ไปคุยกับคุณพัช ตรงกับวันที่ 9 ต.ค. ช่วงเวลา 23.00 น. และมีการโทรหาคุณฟิล์มตอนเที่ยงคืน

    ส่วนคนที่ไปกับคุณพัช คือ คุณใหญ่และคุณเนม ขณะเดียวกันคุณพัชก็ได้บอกกับบอสปันในช่วงคาบเกี่ยววันที่ 10 ต.ค. ว่า วันที่ 10 ต.ค. เขาจะพาผู้เสียหายไปร้องที่ สคบ. เพื่อเบี่ยงทิศทางคดี นี่คือการที่เขาอ้างไว้กับบอสปัน ซึ่งเหมือนจะหวังดี

    อ้างกับ“บอสปัน”จะคุยตรง“กรรชัย”ต้องใช้20ล.

    คราวนี้คลิปเสียงเลยมีการพูดกันว่าถ้าอย่างนั้น ค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องนี้ เหมือนมีเงิน 100 จ่าย 20 คือ มี 100 ล้าน จ่าย 20 ล้าน ทั้งนี้ บอสปันก็อยากคุยกับคุณกรรชัย โดยตรง เพราะถ้ามันเป็นรายการของคุณกรรชัย และต้องจ่ายเงิน 20 ล้าน ขอให้ได้คุยกับคุณกรรชัย เจ้าของรายการ

    ”เจ๊พัช“ บอกปัดให้คุย“ฟิล์ม”แทน

    แต่ทางคุณพัชบอกว่าคุยกับคุณกรรชัยไม่ได้ แต่คุยกับทางคุณฟิล์มแทนได้ จึงมีการโทรหาคุณฟิล์มเกิดขึ้นในวันนั้น ซึ่งตอนนั้นเกือบช่วงเที่ยงคืน

    บอสปันก็ได้สอบถามคุณฟิล์มว่า “จะขอคุยกับคุณกรรชัย ได้หรือไม่” ปรากฏว่าทางนั้นยืนยันว่าไม่ได้ อ้างว่าคุณกรรชัย ระวังตัว เหมือนเขาเป็นตัวกลางระหว่างคุณกรรชัยและทางฝั่งบอสปัน จึงต่อด้วยเรื่องเงิน 20 ล้านบาทตามที่ปรากฏในคลิปเสียง

    บอสทุกคนรับรู้คลิปเสียงนี้

    จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้นำไปสอบถามบอสปีเตอร์ว่าบอสทุกคนทราบหรือไม่ ทุกคนก็บอกว่าทราบดีว่ามันมีคลิปเสียงนี้ และทุกคนรู้สตอรี่หมดว่า เรากำลังมีปัญหา และโหนกระแสกำลังจะถ่ายทอดสดตอนแรก คือ วันศุกร์ที่ 11 พ.ย. ที่มีบรรดาตัวแทนเก่าๆ มาออกรายการ

    ส่วนวันจันทร์ที่ 14 ต.ค. คือ ถ่ายทอดสดตอนที่สองที่บอสพอลไปออกรายการ ส่วนคลิปเสียงที่สองที่มีการกล่าวอ้างว่าไม่ต้องไปออกรายการ THE STANDARD แต่ให้ไปรายการโหนกระแสนั้น เขาอ้างว่าไม่อยากให้คุณกันต์ไปออกรายการกับคุณกรรชัย เพราะเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่

    แต่ตนไม่รู้ว่าเขาหมายถึงกันต์คนไหน ระหว่างกันต์ จอมพลัง หรือ กันต์ กันตถาวร แต่ตนได้ถามคุณกันตถาวรแล้วว่า คุณฟิล์มได้ติดต่อมาจริงไหม ทางคุณกันต์พูดผ่านทนายความมายังตนว่า “ไม่จริง” คือ คุณฟิล์มไม่เคยติดต่อมาที่คุณกันต์เลย มีแต่คุณฟิล์มโทรศัพท์ไปให้กำลังใจทางคุณพลอย (ภรรยาของกันต์) และคุณฟิล์มไม่เคยติดต่อให้คุณกันต์ไปออกรายการโหนกระแส เพราะคุณกันต์ไม่มีความคิดที่จะไปอยู่แล้ว

    ปัญหาเกิดจากคนกลุ่มหนึ่งขายของไม่ได้

    ปัญหาที่เกิดขึ้นกับดิไอคอน มันเกิดจากกลุ่มคนที่ขายของไม่ได้แล้วไปหาทนายกลุ่มนี้ เพราะอยากได้เงิน เพราะเราเคยเคลียร์ได้ และทุกคนมีความคิดว่าเขาก็ควรที่จะได้เงินเหมือนกับรายที่เราเคยจ่ายไปเมื่อเดือน ก.ค. แล้วพอเราไม่จ่าย จึงมีการแจ้งความ ก่อนถูกจับในวันที่ 16 ต.ค.

    พอเราไม่จ่ายกลายเป็นว่ากระแสสังคมในช่วงเวลานั้นก็ชี้นำกระบวนการยุติธรรมพอสมควร

    สินค้าได้ไปแล้ว-ขายได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง

    อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงเลยว่าเราฉ้อโกงพวกเขาอย่างไร โกงตัวแทนยังไง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการหลงเชื่อแล้วเอาสินค้ามาขาย แต่ทุกครั้งที่คุณสั่งซื้อสินค้าคุณก็ได้สินค้ามาขาย

    ส่วนเรื่องขายได้หรือไม่ได้ขายมันเป็นอีกเรื่อง ซึ่งถ้าเต็มที่จะฟ้องก็ควรเป็นเรื่องทางแพ่งไม่ใช่อาญาหรือไม่ แต่สุดท้ายตำรวจออกหมายจับแล้ว

    ดิไอคอน ไม่ใช่บ.แรกที่โดนเดช“เจ๊พัช”

    อีกทั้งบอสพอลยังฝากบอกว่าพฤติกรรมของคุณพัชและคุณฟิล์มที่ทำเหมือนจะหวังดีมีผู้เสียหายจะเคลียร์แล้วเรื่องจะหายไป รวมถึงบอสพอลบอกด้วยว่าคุณพัช เคยมีพฤติกรรมแบบนี้กับบริษัทอื่น และบริษัทดิไอคอนไม่ใช่ที่แรกที่ถูกพฤติกรรมแบบนี้ เพราะฉะนั้นบริษัทใดก็ตามที่เคยโดนเหมือนกับบริษัทดิไอคอน ก็ขอให้มาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ

    ขอสังคมให้โอกาสประกันตัวไปชี้แจง

    บอสพอลยังฝากมาอีกว่าก่อนที่จะโดนจับ เขามีโอกาสได้พูดชี้แจงจริง แต่ด้วยกระแสสังคมที่กดดันจึงพูดไม่ได้เต็มที่ และบอสคนอื่นไม่มีโอกาสได้พูดหรือชี้แจงในฝั่งของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปเลย จึงอยากขอให้สังคมให้โอกาสเปิดใจ เหล่าบอสก็พร้อมจะขอยื่นประกันตัว เพื่อไปออกทุกรายการและชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจอีกมุม

    เพราะตอนนี้ในเกมของสื่อมวลชน ทางเราแพ้ แต่ในเกมของกระบวนการยุติธรรม ยังไม่สิ้นสุดเลยว่าเราแพ้หรือชนะ

    ยันลูกความไม่มีพฤติกรรมหลบหนี

    ส่วนคำสั่งศาลที่ไม่ให้ประกันตัวบอสดารา เพราะมีพฤติกรรมไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเกรงว่าหลบหนี ซึ่งบอสดาราได้เข้าไปชี้แจง และนำพาสปอร์ตไปยืนยันว่า จะไม่หลบหนีแต่สุดท้ายก็ถูกออกหมายจับ

    รวมถึงบอสคนอื่นก็ไม่ได้หลบหนี บางคนอยู่บ้าน หรือบางคนไปชี้แจงกับหน่วยงานอื่น และบางคนก็ขอเข้ามอบตัวอีกด้วย แต่ก็ถูกตำรวจจับ แต่กลับถูกไม่ให้ประกันโดยบอกว่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี

    ซัดสายไหมปั้นพยานเท็จ

    ส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นคดีขึ้นมา เพราะเป็นการปั้นพยานเท็จของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือเอกภพ สายไหมต้องรอด ที่มีการปั้นพยานเท็จให้ข้อมูลกับตำรวจว่าบอสพอลมีเงินคริปโตฯ กว่า 8,000 USDT และจ่ายสินบนให้เทวดาตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมพยายามโยงไปให้เกี่ยวข้องกับนักการเมือง

    แต่สุดท้ายข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นพยานเท็จ ไม่มีการจ่ายสินบนให้กับหน่วยงานใด และช่วงนั้นข่าวเล่นแรงมาก  อยากถามว่าจะรับผิดชอบชีวิตของบรรดาบอส และหน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างอย่างไรในประเด็นที่ถูกปั้นพยานเท็จ

    โบ้ยสังคมเข้าใจผิดเรื่อง“เทวดา”

    ทั้งนี้ ส่วนที่บอสพอลพูดถึงเรื่องเทวดาในรายการโหนกระแส อาจจะเป็นการตีความเป็นเทวดาจริง ๆ ไม่ได้หมายถึงบุคคลแต่สังคมอาจจะเข้าใจผิดไปเอง

    นายวิฑูรย์ กล่าวว่า คดีของดิไอคอน เกิดจากกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์แล้วมาเล่นงานบริษัท ส่วนที่มีผู้เข้าแจ้งความจำนวนมาก เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นผู้เสียหายอุปทานหมู่ พอเห็นข่าวแล้วเห็นว่าตนเองก็เคยซื้อของกับดิไอคอนกรุ๊ป ก็อาจเกิดข้อสงสัย และเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย

    ยอดแจ้งความไม่ถึง2%ของสมาชิก

    โดยสมาชิกทั้งหมดของดิไอคอนกรุ๊ป มีมากกว่า 300,000 คน แต่พบว่ายอดการแจ้งความมีประมาณกว่า 10,000 คน ซึ่งยังไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดด้วยซ้ำ

    ส่วนที่คนสงสัยว่าหากหลักฐานแน่จริงตำรวจก็คงไม่ออกหมายจับนั้น ตนมองว่า บางคดีถูกหมายจับไปแล้วท้ายที่สุดศาลก็ยกฟ้อง

    จ่อเอาผิด“เจ๊พัช-ฟิล์ม”พยายามฉ้อโกง

    ส่วนเรื่องการจ้างทำพีอาร์ ได้สอบถามบอสพอลแล้ว เจ้าตัวยืนยันว่า ทางบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป มีการจ้างทำการตลาดรวมถึงทำโฆษณากับบริษัทอื่น  ไม่เคยจ้างงานคุณพัช และคุณฟิล์ม อย่างแน่นอน โดยคลิปเสียงที่หลุดออกมา หลังจากนี้ ก็พร้อมจะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมโดยจะดำเนินคดีกับทั้ง 2 คนในข้อหาพยายามฉ้อโกง

    ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีในข้อเท็จจริงของพยานหลักฐาน มั่นใจว่าจะชนะคดี แต่การที่ฝั่งของตนถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำฯ  ทำให้การทำงานยากลำบากกว่าจะไปพูดคุยกับผู้ต้องหา และไปรวบรวมพยานหลักฐาน ตามข้อมูลที่ได้รับนั้นเป็นเรื่องยาก

    ส่วนคลิปเสียงเรื่องการจ่ายเงินให้เทวดากับอดีตนักการเมือง ส. นั้น ในส่วนนี้ไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะจากการสอบถามข้อเท็จจริง คลิปเต็มเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นช่วงที่จะมีการทำพรรคการเมือง และพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนกัน ไม่ใช่การรีดไถเงิน

    ส่วนกรณีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นการตบทรัพย์ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวเข้าแจ้งความแล้ว เป็นหน้าที่ของทนายความที่เจรจาค่าเสียหาย

    ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า แค่นี้ก็ปวดหัว หัวหมุนไปหมดแล้ว

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments