ตำรวจภาค 4 จับยาเสพติดต่อเนื่อง ล่าสุดรวบขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 139 กก. ก่อนส่งออกต่างประเทศ เร่งขยายผลจับกุมผู้สั่งการ เพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ตัดวงจรทั้งขบวนการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 พ.ค.67 ที่ ตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4.) จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ภายใต้แผนปฏิบัติการไล่ล่า(เด็ดปีก)นักค้า อีสานเหนือ 252 “No Place for Drug : NPD.P4” ยึดเฮโรอีน 139 กก.ถ้าส่งออกไปต่างประเทศได้จะมีมูลค่าถึง 280 ล้านบาท
พล.ต.ท.สรายุทธเปิดเผยว่า การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ เป็นการสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติด ของตำรวจ บก.สส.ภ.4 และ ภ.จว.บึงกาฬ จนทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่ จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยและจะลำเลียงเข้าไปพื้นที่ชั้นในและภาคเหนือตอนกลาง จึงวางกำลังตามแนวชายแดน ในพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ต่อเนื่อง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งคาดว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดผ่านเส้นทางดังกล่าว
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงสายวันที่ 25 พ.ค.67 ชุดจับกุมได้ตรวจพบรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาวทะเบียน ขอ-90xx ชลบุรี ต้องสงสัย ตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวน ขับมาบนถนนสาย 212 อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เลี้ยวเข้าถนนสาย 2026 จึงเข้าสกัดจับกุมไว้ได้ บริเวณถนนสาย 2026 บ้านดงชมพู ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
ได้สกัดรถเพื่อตรวจสอบ ภายในรถมีนายณัฐพล เป็นผู้ขับ ตรวจค้นรถพบกระสอบห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ 3 กระสอบ ถูกวางอยู่ภายในห้องโดยสาร ตรวจสอบพบเป็นเฮโรอีน 380 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 139 กก. จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลต่อที่ สภ.บึงโขงหลง
นายณัฐพล รับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษจำคุกในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนจะมีนายทุนติดต่อมาจ้างให้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนดังกล่าวจริง เพื่อไปส่งมอบในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท ทั้งนี้หากเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวหลุดลอดออกไปยังประเทศที่สาม จะมีมูลค่าถึง 280 ล้านบาท หลังจากนี้จะขยายผลถึงเครือข่ายและนายทุนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวต่ออีกว่า ตำรวจภาค 4 ได้ปราบปรามยาเสพติดเชิงรุกตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเปิดปฏิบัติการไล่ล่านักค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และสืบสวนขยายผลการจับกุมเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการ รวมทั้งผู้ร่วมขบวนการทุกคดี
นอกจากนี้ยังได้จัดฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพของตำรวจที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด โดยได้จัดฝึกอบรม“นักสืบ 5 G P4+1 รุ่น เป็นการสืบสวนเฉพาะทางด้านยาเสพติด” ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างเขี้ยวเล็บให้นักสืบยาเสพติดของภาค 4 พร้อมรับมือกับสถานการณ์ยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
