‘นายกฯ’ชื่นชมตำรวจสอบสวนกลาง ทำงานมืออาชีพไม่ยอมใครแทรกแซงแบบไม่ถูกกฎหมาย ฮึ่ม!ไม่ยอมเด็ดขาดเอาชื่อ ‘เศรษฐา- การเมือง’ มาอ้าง ขอช่วยปราบเว็บปลอมเถื่อน หลังปชช.แห่เปิดลงทะเบียน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’
เมื่อเวลา 10.48 น.วันที่ 2 ส.ค.67 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ตรวจแถวกองเกียรติยศ โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้การต้อนรับ
จากนั้น นายเศรษฐา ตรวจเยี่ยมศูนย์ REAL TIME CRIME CENTER (RTCC) ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมอาชญากรรมแบบเรียลไทม์ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ก่อนกล่าวมอบนโยบาย ว่า
ขอชื่นชมขอบเขตการทำงานและความซื่อสัตย์สุจริต ที่ทำงานเป็นมืออาชีพ และไม่สะทกสะท้าน ต่อการที่จะมีใครมาขอร้องอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หลายหน่วยงานอาจจะมาเบียดเบียน หรือขอร้อง แต่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตนมั่นใจและติดตามมาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯว่า เป็นหน่วยงานที่ยึดมั่นในหลักการ รวมถึงเรื่องของ National CCTV เป็นเรื่องที่เราดูอยู่ เพราะเป็นเรื่องใหญ่มากพอสมควร ครอบคลุมในหลายมิติ
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องนโยบายหากทาง CIB คิดว่าสามารถเริ่มได้ก็เริ่มของตัวเองไปก่อน หรือจะไปร่วมกับหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม หรือกทม. ซึ่งยังไม่เกิด เราจะใช้แค่กรุงเทพมหานครก่อน รัฐบาลพร้อมยินดีสนับสนุนเรื่องงบประมาณ จะเป็นการควบรวมกับทุกหน่วยงานเข้ามา ทำให้ข้อมูลเรารวดเร็วฉับพลันและสามารถติดตามผู้ก่ออาชญากรรมได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานนี้มีความคล่องตัว และเป็นหน่วยงานที่เป็นมืออาชีพเป็นกลาง เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอดเรื่องนี้สำคัญ
นายกฯ กล่าวอีกว่า หลักๆ เป็นเรื่องที่ตนได้ติดตามและรับทราบมาก่อนแล้ว ขอชื่นชมและยินดีที่ได้มาในวันนี้ ถือเป็นหน่วยงานที่สามารถดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง มืออาชีพ ซื่อสัตย์สุจริต ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
ส่วนปัญหาประเทศชาติเกี่ยวกับอาชญากรรมทั้งหลาย เชื่อว่าพวกท่านรู้อยู่แล้วมีการพัฒนาโดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการในหลายวาระที่เจอกัน ทราบดีว่า มีการส่งคนไปเทรนและศึกษาเรื่องยุทโธปกรณ์ระบบงานต่างๆ จึงอยากขอให้ดำรงไว้ซึ่งการพัฒนาต่อไป ในแง่ของบุคลากร 8,000 คนนั้นมีคุณภาพอยู่แล้ว
“แน่นอนเรื่องที่เราไม่ค่อยอยากจะพูดกัน แต่ผมต้องพูด คือแรงกดดันทางด้านการเมือง หรือการที่จะมาก้าวก่าย ผมในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีเรื่องนี้ผมไม่ยอม ต้องยืนยันต่อหน้าพี่น้องสื่อมวลชน ดคีต่างๆหรือโปรไฟล์ที่มีการนำเสนอมา ผมเชื่อว่ามีการก้าวก่ายเยอะ แต่ผมขอเป็นกำลังใจและยืนยันตรงนี้ต่อหน้าพี่น้องสื่อมวลชน ถ้ามีการเอาชื่อของผมไปอ้าง หรือชื่อการเมืองมาอ้าง ผมไม่ยอม ทุกอย่างว่ากันไปตามหลักกฎหมาย ดำเนินการให้ถึงที่สุด ขอให้เป็นองค์กรที่เป็นตัวอย่างที่ดี” นายเศรษฐา กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าไปเยอะ อย่าตั้งบนความประมาท เพราะหน่วยงานดูแลด้านการปราบปรามปัจจุบันต้องดูแลตัวเอง อยากให้ผู้บังคับการหน่วยทั้งหลาย กำชับลูกน้องเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆต้องพร้อม โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล เราเข้มงวดขึ้นเยอะ ฉะนั้นเรื่องความรุนแรงก็จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ
ตนได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการต่างๆในหลายวง เรื่องยุทโธปกรณ์เน้นให้อย่าประมาท เพราะมีการสูญเสีย ไปบ้างแล้วในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อาจจะบอกว่าเกิดจากความประมาทก็ว่าได้ ฉะนั้นเราอยากชะล่าใจ เขาก็จัดเต็มมาเต็มเหมือนกัน
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนโยบายหลักรัฐบาลต้องขอบคุณหน่วยงานที่สนับสนุนมาโดยตลอด เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ได้มีการเปิดให้มีการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต คนเข้ามาตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันเดียวเกือบ 20 ล้านคนแล้ว แน่นอนจะต้องมีเว็บปลอมเว็บเถื่อนอะไรมา ฝากให้ดูแลช่วยกันกระจายข่าว ซึ่งท่านมีการสื่อสารอย่างเป็นเลิศ เป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมีการสื่อสารดี โดยเฉพาะ Social Media
ถือเป็นเรื่องที่ดี การที่เราทำงานและมีผลงานเยอะ พูดไปก็ไม่ถือว่าเป็นการโอ้อวด แต่เป็นการเผยแพร่ให้พี่น้องประชาชนทราบ จะได้มีการข่าวที่ดี เป็นที่พึ่งพิงให้พวกท่านสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องออนไลน์สแกมเมอร์ เป็นอีกเรื่องอย่างการที่ไปตัดสายเคเบิ้ลต่างๆ ซึ่งการจะเอาผิดหรือตัดออกไปเป็นเรื่องยากขึ้นทุกวัน ฉะนั้นการพัฒนาความรู้บุคลากรเทคโนโลยีอย่างที่ตนบอกเปิดเรื่องที่สำคัญ รัฐบาลยินดีให้การสนับสนุน ทุกๆเรื่อง ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่เน้นย้ำอีกครั้งให้แน่วแน่ในความเป็นมืออาชีพเป็นกลาง อย่าให้ใครเข้ามาแทรกแซงตรงนี้ได้ รัฐบาลนี้ไม่ยอมเด็ดขาด และยินดีที่จะเป็นที่พึ่งของพวกท่าน หากท่านถูกเบียดเบียน รวมทั้งขอบคุณที่ช่วยดูแลประชาชนอย่างมืออาชีพและเป็นกลาง
ต่อมานายกฯ ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเยี่ยมชมร้านค้าสวัสดิการ ก่อนติดตราสัญลักษณ์ทำเนียบรัฐบาล ลงบนบอร์ด ซึ่งเป็นชื่อของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก.
ต่อมา พล.ต.ท.จิรภพ ให้สัมภาษณ์หลังนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับไปว่า ในอดีตโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลมีหลายโครงการ เเต่ละโครงการมีผู้ไม่หวังดีหาช่องทางในการทุจริต เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเที่ยวด้วยกัน
ทางนายกฯจึงเล็งเห็นว่าควรที่จะป้องกันตั้งแต่ต้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการแต่งตั้งตนในฐานะหนึ่งในคณะทำงาน โดยจะต้องมีนายตำรวจระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากำกับดูแล ซึ่งไม่ทราบว่าเป็น พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร.หรือไม่ แต่ไม่ใช่เป็นการเจาะจงเลือกใช้เพียง บช.ก. แต่ทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ รวมถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศจะต้องบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องใหม่ ซึ่ง บช.ก. จะต้องศึกษาในรายละเอียดอีกทีว่ามีช่องโหว่หรือช่องว่างตรงไหนที่จะทำให้รัฐสูญเสียผลประโยชน์หรือไม่
“ตอนนี้เปิดให้ลงทะเบียนผ่านมาสองวัน ยังไม่มีอะไรผิดสังเกต ส่วนที่นายกฯ ชี้ชัดว่ามีการปลอมแปลงแอพพลิเคชั่นเถื่อนและลิงก์ปลอมนั้นตอนนี้ บช.ก. ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดในทุกแพลตฟอร์ม โดยใช้สายตรวจออนไลน์ทำงานควบคู่กับทุกหน่วยงานเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพและนำไปสู่การขยายผลและจับกุม
ส่วนที่นายกฯ กล่าวชื่นชมตำรวจสอบสวนกลางว่า มีความเป็นกลางในฐานะมืออาชีพ ทำให้ตัวเบาเลยหรือไม่ ตนต้องขอขอบคุณนายกฯ เพราะที่ผ่านมา บช.ก. ทำงานอย่างหนัก ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของหน่วยงาน ด้วยการทำงานอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เลือกปฏิบัติและเกรงกลัวต่ออำนาจหรือแรงกดดันทางการเมือง โดยเราไม่สนใจเรื่องผู้มีอิทธิพลระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ
ส่วนที่มีคนนำชื่อนายกฯ หรือรัฐมนตรีไปกล่าวอ้างในการช่วยเหลือเรื่องคดี ยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง แต่จะระดมกวาดล้างอย่างเข้มงวด ส่วนที่หลายคนมองว่าการที่นายกฯ ให้ บช.ก.ดูแลเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตำรวจหรือไม่นั้น ยืนยันว่าตำรวจสามารถทำงานได้หลายหน้าที่และเป็นหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่แล้ว เมื่อสั่งการมาก็ต้องช่วยกันทำให้ดีที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศ
