ตำรวจสอบสวนกลางยึดรถของกลางเครือข่าย “เจ๊พลอยชลบุรี” เพิ่มอีก 70 คัน ก่อนส่งคืนเหยื่อ
สาย วันที่ 27 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ปรก.กก.2 บก.ป. พร้อมชุด ศปจร.บก.ป.
ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนขยายผลขบวนการหลอกจำนำรถของกลุ่ม “เจ๊พลอยชลบุรี” หลังสามารถตรวจยึดรถยนต์ได้จากเครือข่ายดังกล่าวได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 70 คัน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2565 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้จับกุมน.ส.แพรวศิญา ธนคุปต์ไพศาล หรือ “เจ๊พลอยชลบุรี” ผู้ต้องหาขบวนการหลอกจำนำรถ ที่มีพฤติกรรมโพสต์ประกาศรับจำนำรถผ่านสื่อออนไลน์ จนมีหลงเชื่อ นำรถยนต์ที่ได้เช่าซื้อ หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์มาวางประกันเงินกู้ยืม
แต่เมื่อผู้เสียหายนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาไถ่ถอนรถยนต์คืนกลับไม่ได้รับกลับคืนเนื่องจากกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้นำไปขายต่อให้กับนายทุนรถเถื่อนจนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก หลังการจับกุมผู้ต้องหาได้ขยายผลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ทั่วประเทศ ตรวจยึดรถได้ 64 คัน ตรวจสอบพบว่าเป็นรถของกลางในคดีตามพื้นที่ต่างๆ ถึง 56 คัน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า หลังการจับกุมครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยังคงขยายผลต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากขบวนการดังกล่าวมีมากถึง 509 ราย และ มีรถยนต์ที่ถูกประทุษร้ายไปกว่า 511 คัน
กระทั่งได้รับแจ้งจากผู้ดูแลลานจอดรถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ว่า ยังมีรถอีกจำนวนหนึ่งที่กลุ่มผู้ต้องหาได้นำมาฝากจอดไว้ ไม่ทราบว่าเป็นรถที่ถูกประทุษร้ายไปหรือไม่ นำกำลังเข้าตรวจสอบจนติดตามรถได้กลับคืนอีก 70 คัน
จากการตรวจสอบพบเป็นรถของกลางในคดีนี้ 39 คัน ส่วนรถที่เหลืออีก 31 คัน ได้ประสานไปยังเจ้าของรถให้เดินทางมาร้องทุกข์กับ กก.2 บก.ป. เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ได้มีพิธีส่งมอบรถกลับคืนให้กับผู้เสียหาย มี พล.ต.ท.จิรภพ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เป็นตัวแทนส่งมอบรถ ท่ามกลางความดีใจของกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากที่มายืนรอรับรถและติดตามความคืบหน้าของคดีตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายเหลือง (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้าได้นำรถเก๋ง ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส ไปจำนำกับกลุ่มผู้ต้องหา 1 หมื่นบาท เพราะต้องการหาเงินมารักษาอาการป่วยโรคไต เบาหวาน แต่เมื่อหาเงินมาใช้คืนจนครบพร้อมดอกเบี้ยอีก 2 พันบาท กลับไม่ได้รถของตัวเองกลับคืน กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าติดปัญหาเรื่องโควิด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะได้รถคืนกลับมา เพร่าะหายสาบสูญไปเป็นปีแล้ว
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายเป็นหญิงรายหนึ่งนำรถมาจำนำกับกลุ่มขบวนการดังกล่าวเพราะต้องการหาเงินมารักษาอาการป่วยจากโรคมะเร็ง เมื่อนำเงินมาใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยจนครบ กลับไม่สามารถไถ่ถอนรถกลับคืนได้เช่นเดียวกัน