Friday, March 21, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กกบภาค1”แถลงผลระดมจับบุหรี่ไฟฟ้าและคดีอุกฉกรรจ์

    “บิ๊กกบภาค1”แถลงผลระดมจับบุหรี่ไฟฟ้าและคดีอุกฉกรรจ์

    ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สั่งทุกพื้นที่ในสังกัด ภ.1 ระดมเร่งรัดกวดขันจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้า รายใหญ่ และ รายสำคัญในพื้นที่

    วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1

    พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1   พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผลช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

    แถลงข่าวจับกุมคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 145 คดี  จับกุมรายใหญ่และรายสำคัญได้ (รวมมูลค่าของกลางตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นการกระทำในรูปแบบออนไลน์ หรือกระทำเป็นเครือข่าย) 11 คดี ผู้ต้องหารวม 20 คน ได้ของกลาง (บุหรี่ไฟฟ้าชนิดต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด) รวม 69,066 ชิ้น มูลค่าของกลางจำนวน 11,612,650 บาท

    และยังจับกุมรายย่อยได้อีกิ 134 คดี จับกุมผู้ต้องหา 137 คน พร้อมของกลาง  8,487 ชิ้น รวมมูลค่าของกลาง 3,035,350 บาท

    จับกุมยาเสพติด(ไอซ์)และคดีเกี่ยวกับทรัพย์ที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน 5 คดี ซึ่งเป็นคดีที่สามารถทำการจับกุมได้ ในห้วงวันที่ 7 – 9 มีนาคม2568 ที่ผ่านมา

    พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่าตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ขีดเส้น 30 วัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าปราบปราม กวาดจับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด โดยบังคับใช้กฎหมายกับผู้ผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย อย่างเข้มข้น เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด และสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ในเด็กและเยาวชน

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ. กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการ เพิ่มความเข้มในการสืบสวนจับกุม แหล่งเก็บ ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า และร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะบริเวณรอบสถานศึกษา

    พร้อมให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโทษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าและข้อกฎหมายให้กับประชาชนได้เข้าใจ อย่างถูกต้อง หากมีข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

    คดีที่ 1 สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 มี.ค.68  ชุดสืบสวน สภ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี  รับแจ้งจากสายลับว่า ภายในโกดังไม่มีเลขที่ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี น่าสงสัยว่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก

    พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี  สั่งการให้ พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สภ.ลำลูกกา จัดบูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี, บก.สส.ภ.1 และ พฐ.จว.ปทุมธานี เข้าตรวจสอบและตรวจค้น

    พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 520 กิโลกรัม ,ตู้แช่เย็น ยี่ห้อ THE FrezzeR ขนาด 154 กก.  2 ตู้ และตู้แช่เย็น ยี่ห้อ SANDEN ขนาด 135 กก.  2 ตู้,กล่อง GPS สีดำ พร้อมซิมการ์ดโทรศัพท์   2 ชุด อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดี

    คดีที่ 2 สืบเนื่องจาก เมื่อสายวันที่ 3 มี.ค.68  มีผู้เสียหายมาแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี  ถูกคนร้ายลักทรัพย์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไป ขณะวางไว้บนโต๊ะภายในร้านกาแฟสตาร์บัค ห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน แล้วลุกเดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ภายในร้าน  ในคอมพิวเตอร์มีข้อมูลที่สำคัญอยู่เป็นจำนวนมาก

    เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสืบสวนและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ต่อมาในวันที่ 8 มี.ค.68 สามารถจับกุมนายขรรค์ชัย อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จว.ประจวบคีรีขันธ์  จับกุมได้ที่ร้านเกมส์ ตั้งอยู่ที่แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. และติดตามคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (ของกลาง) คืนได้ที่ร้านค้าภายในตลาดนัดจตุจักร 2 เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งผู้ต้องหานำมาขายในราคา 5,000 บาท

    คดีที่ 3 จับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ ทุบกระจกรถยนต์ลักเงินสด 1.5 ล้านบาทสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 มี.ค.68 เวลา12.30 น. ได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี ว่าขณะจอดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ไว้ที่ลานจอดรถห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน  ในรถ มีเงินสด 1,500,000 บาท และถูกคนร้ายทุบกระจกรถยนต์แล้วลักเงินสดดังกล่าวไป

    เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสืบสวนติดตามหาคนร้ายและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ต่อมาในวันที่ 8 มี.ค.68 สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติสัญชาติฮังการ จับกุมได้ที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี  

    ของกลาง รถจักรยานยนต์ Honda Wave 125i สีขาว จำนวน 1 คัน,เงินสด จำนวน 187,850 บาท,โทรศัพท์ ยี่ห้อ ไอโฟน 7,เครื่องตัดสัญญาณกันขโมย flipper zero

    จากการตรวจประวัติการเดินทางผู้ต้องหา พบว่าเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อวันที่ 3 ก.ย.62 ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และออกจากราชอาณาจักรไทยในวันที่ 1 ธ.ค.62 ทาง จว.มุกดาหาร หลังจากนั้นไม่พบประวัติการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย  จากการตรวจสอบหมายแดงจากอินเตอร์โพลไม่พบว่ามีหมายจับอื่น

    คดีที่ 4 จับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 เวลา  12.30 น. มีผู้เสียหายแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี ว่า ขณะเดินอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ใกล้กับคอนโดพลัมอไลฟ์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ จอดรถ เดินเข้ามาบีบคอ ทำร้ายผู้เสียหาย โดยมีมีดยาวประมาณ 1 ช่วงแขนเป็นอาวุธ

    จากนั้นคนร้ายได้กระชากโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่น เอ 25 จำนวน 1 เครื่อง (ราคาประมาณ 13,000 บาท) ที่ผู้เสียหายถืออยู่ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี  ออกสืบสวนติดตามหาคนร้าย และจับกุมได้ภายในวันเดียวกัน (6 มี.ค.68) ชื่อนายคาเน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จว.นนทบุรี

    จับกุมได้ที่ริมถนนเลียบคลองหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง รุ่น เอ 25 1 เครื่อง (ของผู้เสียหาย),รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า 1 คัน, สิ่งเทียมอาวุธปืน 1 กระบอก,แม็กกาซีนสิ่งเทียมอาวุธปืน 1 อัน

    คดีที่ 5 จับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ แล้วขี่ไปทำร้ายผู้อื่นด้วยอาวุธมีดบาดเจ็บสาหัส สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 มี.ค.68 เวลา  18.30 น. สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานีรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายเหตุที่ 1 ว่า ขณะจอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น Nmax สีเทา ไว้ที่ถนนเลียบคลองสอง ปากซอยบงกช 16 หมู่ 4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี และยืนรอเพื่อนอยู่

    มีคนร้ายเป็นชายเดินเข้ามาหาและได้ใช้มีดพยายามจะทำร้าย ผู้เสียหายได้วิ่งหลบหนีคนร้ายได้ชิงทรัพย์ เอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายขับขี่หลบหนีไป

    ต่อมาวันเดียวกัน (7 มี.ค.68) เวลา19.30 น.สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี  รับแจ้งอีก 1 เหตุ เป็นเหตุคนร้ายใช้มีดแทงผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส  บริเวณริมถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า หน้าหมู่บ้านเกศรี 5 หมู่ 2 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี จึงได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าว  ได้หลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในรถยนต์ของพลเมืองดี ทำให้ทราบว่า คนร้ายที่ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายเหตุที่ 2 บาดเจ็บสาหัส เป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปก่อเหตุแทงผู้เสียหาย

    จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้ง 2 เหตุนี้ คือ นายอิทธิพร  อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จว.ปทุมธานี ก่อนจับกุมได้ที่บริเวณหมู่ 4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น Nmax สีเทา 1 คัน (มีคราบเลือดติดอยู่) ,เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ (มีคราบเลือดติดอยู่) 3) อาวุธมีดสั้นปลายแหลม 1 เล่ม (มีคราบเลือดติดอยู่)

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments