วันที่ 6 ก.ย.64 ที่ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.)
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4.ปคบ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
แถลงผลตรวจยึดอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาผิดกฎหมาย ภายในบ้านพัก 3 หลัง ในจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ
ยึดของกลาง ชุด PPE 4,650 ชิ้น , เครื่องตรวจวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้ว 670 ชิ้น , เจลแอลกอฮอล์ พร้อมอุปกรณ์บรรจุและฉลากสติกเกอร์จำนวนมาก
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ผลการทดสอบเครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วเบื้องต้นพบว่า มีการแสดงผลการตรวจวัดออกซิเจนที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง
เตรียมเรียกเจ้าของของกลางทั้ง 4 คน มาแจ้งข้อกล่าวหาในความผิด ขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ผลิตเจลแอลกอฮอล์ มีความผิดฐาน ผลิตเครื่องสำอางโดยไม่ได้จดแจ้ง” มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ตำรวจยัง ตรวจยึดผลิตภัณฑ์สมุนไพร (เหลียนฮัว ชิงเวินแคปซูล) ที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ไม่มีทะเบียนตำรับ จำนวนกว่า 70,000 แคปซูล
เบื้องต้นพบความผิดตามพระราชบัญญัติสมุนไพร พ.ศ. 2562 ฐาน “ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท
วันเดียวกัน นางสาวสุภาภรณ์ แซ่จาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้นำเข้ายาสมุนไพรต้านโควิด Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล)
เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
พร้อมด้วย นายกันตเมธส์ จโนภาสทนายความนำหลักฐานคลิปการไลฟ์สด
เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับนายอนุวัติ หรือ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดังและปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ดารานักแสดงชื่อดัง
รวมถึงเพจเฟซบุ๊ก เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หน้ากากอนามัย Mash.กระชายฟ้าทลายโจร Propoliz.
และเพจเฟซบุ๊ก.LK.thailand.สินค้านำเข้าราคาโรงงาน เนื่องจากมีพฤติกรรมไลฟ์สดขายยาสมุนไพรเหลียนฮัวฯ ผิดกฎหมายและไม่ได้รับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ทนายกันตเมธส์ กล่าวว่า
เหตุที่มาแจ้งความ จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากกล่องที่มีการล่อซื้อมากล่องมีความคล้ายกับของแท้ของบริษัทฯ
เพียงแต่เป็นการขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากว่าไม่มีการอนุญาตให้จำหน่ายในสถานทีที่ไม่ได้รับอนุญาต
ทางบริษัทฯ มีความกังวลว่าหากไปขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ประชาชนจะได้รับคำแนะนำไม่ถูกต้องและหวั่นเป็นอันตราย
กรณีของปุ๊กลุก ได้อัดคลิปวิดีโอโฆษณาผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวเสนอขายยาสมุนไพร เหลียนฮัวฯ ที่นำไปใช้ในการป้องกันรักษาผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
เนื่องจากว่า มีผู้เสียหายแจ้งมาทางบริษัทฯ จากนั้นบริษัทได้ตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นดาราคนดังกล่าว จากนั้นสืบทราบให้ได้ข้อเท็จจริง และสั่งซื้อมา โดยบัญชีที่ได้โอนเงินไปเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับดาราคนดังกล่าว
แม้ภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่า ยาดังกล่าวได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตในเรื่องของการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์
การกระทำของปุ๊กลุก เป็นการขายยาและโฆษณาขายยาอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีของนารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดังนั้น เป็นการเดินไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กในสถานที่สาธารณะ
หน้าตาไม่เหมือนกับของแท้ของบริษัทสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นยาปลอมที่ลักลอบนำเข้าและผลิตปลอม เพราะบริษัทผู้ผลิตตัวจริงของจีนได้แจ้งมาทางบริษัทเอินเวย์ว่า ไม่ได้ส่งให้บุคคลอื่นนำเข้าประเทศไทย
ทั้งนี้ ยังมีการขายเกินราคาด้วย ทางบริษัทขายอยู่ที่ราคา 279 บาท ส่วนผู้ที่นำไปขายนั้นขายอยู่ที่ 350 บาท
ส่วนจะมีการไกล่เกลี่ยหรือไม่นั้น ทนายกันตเมธส์ ระบุว่า ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อรัฐ น่าจะไกล่เกลี่ยไม่ได้
หากปรากฏความผิดว่ามีความเกี่ยวข้องโดยมีการบักลอบนำเข้า ความผิดโทษจะสูงถึงจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท พระราชบัญญัติ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562
แต่ถ้าเป็นแค่ผู้ขายเท่านั้นมีโอกาสได้รับโทษสูงสุดคือตามมาตรา 102 จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 3 แสนบาท
จากนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเรียกมาสอบข้อเท็จจริง และจะปล่อยให้เป็นตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน ที่ ดาราสาวและเน็ตไอดอล ขายนั้น มีความคล้ายของแท้เป็นอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้เนื่องจากว่ายังไม่ได้ตรวจสอบต้องส่งให้ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบก่อน
ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของตำรวจ ส่วนของกลางจะส่งให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน ภญ. สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า
จากการตรวจสอบในครั้งนี้พบ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่มีทะเบียนตำรับ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
ขอเตือนผู้ประกอบการทั้งหลาย อย่าเห็นแก่รายได้ขายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้กับประชาชน เพราะท่านกำลังทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสในการรักษา หรือผู้ที่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด 19 มากยิ่งขึ้น
