ปคบ. เผย ทัวร์อ้วนผอม เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เร่งเช็คเส้นทางการเงินขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.66 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ พ.ต.อ.ชัฎฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก.1 บก.ปคบ.
ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอัจฉริยะ อายุ 39 ปี น.ส.ศศิประภา อายุ 38 ปี ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, หลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ จับนายอัจฉริยะ ได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขารัตนาธิเบศร์ 3 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี ส่วนน.ส.ศศิประภา จับได้ที่หน้าประตูเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า มีผู้เสียหายหลายร้อยราย ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อ packages ทัวร์ต่างประเทศผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ้วน ผอม จอมเที่ยว ของ นายอัจฉริยะ กับ น.ส.ศศิประภา สองสามีภรรยา แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ เนื่องจากทัวร์ล่ม หรือบางรายเดินทางไปแล้ว แต่กลับไม่มีโปรแกรมทัวร์ตามตารางที่แจ้งไว้
ขณะเดียวกันผู้เสียหายบางส่วนก็ถูกบังคับให้ออกค่าใช้จ่ายเอง และยังไม่สามารถขอเงินคืนได้ทั้งที่บริษัทเคยยืนยันว่า สามารถขอเงินคืนได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก ก่อนนำเรื่องมาเข้าร้องเรียนกับทางตำรวจ บก.ปคบ. นั้น
“หลังรับเรื่องจึงได้มีการตั้งคณะทีมงานสืบสวนสอบสวน ขึ้นมา ปัจจุบันมีการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 60 ราย จากทั้งหมด 400 ราย ยอดมูลค่าความเสียหายขณะนี้อยู่ที่กว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า พฤติกรรมของคดีคล้ายกับแชร์ลูกโซ่รูปแบบหนึ่ง คือ มีการนำเงินของลูกค้าที่จองซื้อทัวร์ล่วงหน้า มาใช้จัดทัวร์ให้กับลูกค้าปัจจุบัน เหมือนกับการหมุนเงิน”
ด้าน พ.ต.อ.ไกรวิศท์ กล่าวว่า หลังปรากฎหลักฐานการกระทำผิดค่อนข้างแน่ชัด เจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก่อนนำมาสู่การตามจับกุมตัวทั้งสองรายดังกล่าวในทันที
สอบสวนเบื้องต้นทั้งสองยังคงให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ก่อนนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญา ตอนนี้ทราบว่าในส่วนของ น.ส.ศศิประภา ขณะนี้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล ขณะที่ นายอัจฉริยะ ทราบว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
“แม้ผู้ต้องหาจะยังคงยืนกรานปฏิเสธ แต่ไม่ได้หนักใจเพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ทั้งนึ้เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้ ส่วนจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่ในขณะนี้”