ตำรวจ ปคม. รวบ “อาจารย์ตูน” โค้ชฟุตซอลโรงเรียนดังดีกรีแชมป์กรมพลศึกษา 3 ปีซ้อน บังคับเด็กนักกีฬาโรงเรียน ยืนช่วยตัวเอง – อมนกเขา – สวิงกิ้งเด็กสาว แล้วถ่ายคลิป เผยทำมานานกว่า 8 เดือน ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีเหยื่อถูกกระทำแล้ว 3 ราย
เมื่อวันที่ 11 ก.พ.68 พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ รอง ผกก.1 บก.ปคม.,พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยะวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม.
นำกำลังจับกุม นายธีรวัฒน์ หรือ โค๊ชตูน อายุ 35 ปี ข้อหา “กระทำอนาจารเด็ก และ พรากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, บังคับขู่เข็ญหรือชักจูงให้เด็กประพฤติมิชอบ” จับได้คาสนามบอลขณะนำทีมฟุตซอลของโรงเรียนไปแข่งรอบรองชนะเลิศที่ สนามกีฬาวิทยาลัยเทคโนโลยี ถ.รามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายธีรวัฒน์ หรือ โค๊ชตูน เป็นโค้ชนักกีฬาทีมฟุตซอลโรงเรียนมัธยมชื่อดัง โด่งดังในแวดวงกีฬานักเรียนเป็นอย่างมาก จากการพาทีมคว้าแชมป์ฟุตซอลกรมพลศึกษา 3 ปีซ้อน และแชมป์รายการต่างๆ หลายสิบรายการ
แต่กลับมีพฤติกรรมกระทำอนาจารนักเรียนชายที่เป็นนักกีฬาในทีมของตัวเอง ด้วยการบังคับให้ใช้มือและปากสำเร็จความไคร่ให้ตัวเองบ่อยครั้ง และยังมักบังคับให้นักเรียนชาย ร่วมเพศกับเด็กหญิงสาวชาวลาวอายุ 16 ปี พร้อมกับตนเองในลักษณะสวิงกิ้ง แล้วถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกเก็บไว้ ทำเช่นนี้มานานกว่า 8 เดือน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2567 ถึงเดือน ก.พ.2568 ตรวจสอบ
เบื้องต้นพบมีเด็กนักเรียนตกเป็นเหยื่อ 3 ราย เหยื่อส่วนใหญ่จำยอมไม่กล้าขัดขืน เพราะถูกผู้ต้องหาใช้ตำแหน่งและอำนาจในการควบคุมนักกีฬาสั่งบังคับ
ต่อมากลุ่มเด็กนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อเริ่มทนแบกรับกับพฤติกรรมของ นายธีรวัฒน์ ไม่ไหว นำเรื่องไปบอกให้ผู้ปกครองทราบ พากันเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจ ปคม. จนมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และ นำมาสู่การตามจับกุมตัวได้
จากนั้นจึงนำตัวขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพัก สามารถตรวจยึดของกลาง อันน่าเชื่อว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง และ เสื้อยืด Red Bull และกางเกงขาสั้น 1 ชุด
จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือและไอแพดผู้ต้องหา พบ ภาพนิ่งและคลิปวิดีโอลามกอาจารของเด็กนักเรียนชายหลายราย ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาฟุตซอลของทีมลักษณะกำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองตรวจยึดทั้งหมดเป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำ นายธีรวัฒน์ ให้การภาคเสธ อ้างไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนหรือนักกีฬาในทีมแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเคยให้ผู้เสียหายสำเร็จความใคร่ด้วยมือ แล้วบันทึกภาพวิดีโอเก็บไว้จริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ นำตัวส่งกก.1 บก.ปคม. ดำเนินการพร้อมขยายผลต่อไป