สำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 พ.ค.พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. Mr.Tung, Yu-Kuang กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.
ร่วมกันแถลงผลการจับกุมและการขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ตรวจยึดเฮโรอีน น้ำหนัก 14.8 กิโลกรัม (40 แท่ง)ซุกซ่อนในเครื่องทำเครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็ง เตรียมจัดส่งปลายทางไต้หวัน ผ่านการขนส่งทางท่าอากาศยาน เหตุเกิดที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม.
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การตรวจยึดเฮโรอีน 14.8 กิโลกรัม ถูกซุกซ่อนในเครื่องทำเครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็ง (สเลอปี้) 2 เครื่อง ขนาด 58 x 48 x 71 ซม. ภายในทำเป็นกล่องเหล็กขนาดกลางเพื่อใช้ซุกซ่อนเฮโรอีน เครื่องละ 20 แท่ง (น้ำหนัก 7.4 กิโลกรัม) เตรียมจัดส่งไปปลายทางไต้หวัน ผ่านการขนส่งทางท่าอากาศยาน ค่าขนส่งสินค้าดังกล่าวราคา 22,000 บาท
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับชุดปฏิบัติการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) ได้ตรวจยึดคีตามีน 320 กก. ซุกซ่อนในฐานรองหุ่นยนต์เหล็ก (Transformers) เตรียมส่งไต้หวันผ่านการขนส่งทางเรือ พร้อมขยายผลจับกุมหญิงไทย 1 ราย
ป.ป.ส. ได้ประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลการสืบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรมไต้หวัน อย่างใกล้ชิด กระทั่งวันที่ 14 พ.ค. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับ บก.ปส.1 บช.ปส. สืบสวนทราบว่ามีบุคคลในเครือข่ายยาเสพสติดเตรียมจัดส่งยาเสพติดไปยังไต้หวัน จึงดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบพบพัสดุระหว่างประเทศต้องสงสัยที่คาดว่าจะซุกซ่อนยาเสพติด จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเครื่องทำเครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็ง จำนวน 2 เครื่องดังกล่าว
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมกับกระทรวงยุติธรรมไต้หวัน เพื่อสืบสวนขยายผลถึงผู้รับสินค้าและเครือข่ายการค้ายาเสพติดในไต้หวัน โดยบรรดาเฮโรอีน 14.8 กิโลกรัมนี้ หากลักลอบนำเข้าไปขายปลีกที่ไต้หวัน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ราคาอาจเพิ่มสูงขึ้น 8 – 10 เท่าจากราคาในประเทศไทยได้
ในส่วนของผู้ดำเนินการจัดส่งสินค้านั้น สำนักงาน ป.ป.ส. อยู่ระหว่างขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ส่วนสถิติในห้วงปีงบประมาณ 2567 ระหว่างเดือน ต.ค.66 – ปัจจุบัน ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน มีสถิติการจับกุมและตรวจยึด 80 คดี ผู้ต้องหา 74 ราย ของกลาง ยาบ้า 24,311 เม็ด ไอซ์ 43.20 กิโลกรัม เฮโรอีน 63.76 กิโลกรัม โคเคน 33.86 กิโลกรัม คีตามีน 3.2 กิโลกรัม เอ็กซ์ตาซี 14 เม็ด ประเทศปลายทางส่งออกส่วนใหญ่ คือ ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และเกาหลีใต้
ด้านนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายเตรียมจัดส่งเฮโรฮีนซุกซ่อนในเครื่องทำเกล็ดน้ำเเข็งนี้เป็นเครือข่ายเดียวกับที่เตรียมส่งไอซ์ซุกซ่อนใต้ฐานรองหุ่นยนต์เหล็ก (Transformers Bubble B) อีกทั้งขบวนการส่งยาเสพติดข้ามชาติมักจะใช้แผนประทุษกรรมคล้ายกัน คือ การซุกซ่อนในเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ในกรณีซุกซ่อนในจุดวางคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำเกล็ดน้ำเเข็ง
เราตรวจสอบพบว่ามีการดัดแปลงจุดวางคอมเพรสเซอร์ของตัวเครื่อง ใช้กล่องเหล็กมาตัดให้มีปริมาณและขนาดเพียงพอสำหรับวางหีบห่อเฮโรอีนเครื่องละ 20 แท่ง เพื่อให้มีน้ำหนักเท่ากับคอมเพรสเซอร์ หากต้องชั่งน้ำหนักก่อนเตรียมส่งบริษัทขนส่งเอกชน ก็จะมีปริมาณเท่ากันไม่เป็นที่น่าสงสัย แต่ถ้าผ่านเครื่องเอกซเรย์ก็จะพบความผิดปกติอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลหาตัวโรงงานที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการอ็อกเหล็กให้เป็นทรงกล่องหนา และขยายผลหาสถานที่สำหรับแพ็คเฮโรอีนเหล่านี้ด้วย
สำหรับเครือข่ายนี้ เราพบว่ามีการดำเนินการเกี่ยวกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำหน่ายต่างประเทศมาแล้ว 4 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 เจ้าหน้าที่ยึดเฮโรอีนที่ซุกซ่อนมาในเครื่องทำกาแฟได้ 15.63 กก. ปลายทางไต้หวัน
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเฮโรอีนซุกซ่อนมาในเครื่องทำกาแฟได้ 3.7 กก. ปลายทางประเทศออสเตรเลีย
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตรวจยึดคีตามีนซุกซ่อนมาในฐานรองหุ่นยนต์เหล็กได้ 320 กก. ปลายทางไต้หวัน และเมื่อวันที่ 14 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเฮโรอีนซุกซ่อนในเครื่องทำเกล็ดน้ำแข็งได้ 14.8 กก. ปลายทางไต้หวัน
กรณีที่เราเคยตรวจยึดคีตามีน หนัก 320 กก. ซึ่งซุกซ่อนในฐานรองหุ่นยนต์เหล็ก (Transformers) เตรียมส่งไต้หวัน เจ้าหน้าที่ได้จับกุมหญิงไทย 1 ราย รับจ้างจากหญิงชาว สปป.ลาว
จากนั้นได้มีการขยายผลจึงทราบว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก เพราะของกลางล็อตดังกล่าวถูกนำเข้ามาจาก สปป.ลาว และหากสังเกตจะพบว่ากล่องบรรจุของกลางในครั้งนี้ ไม่ใช่ภาษาไทย ดังนั้นจึงเป็นข่ายเดียวกัน มีการนำเข้าผ่านชายแดนมาดัดแปลงเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงอยู่ระหว่างติดตามหาแหล่งดำเนินการและตัวบุคคล และจะรวบรวมพยานหลักฐานของศาลออกหมายจับต่อไป
ส่วนการซุกซ่อนเฮโรอีนในเครื่องทำเกล็ดน้ำแข็ง เราจะต้องตรวจสอบโรงงานที่ทำดัดแปลงกล่องเหล็กด้วยว่าเคยทำลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ โดยเฉพาะเหล็กที่นำมาทำค่อนข้างมีความหนา อาจจะทำขึ้นเพื่อป้องกันการเอกซเรย์ไม่ให้ตรวจพบยาเสพติดภายใน คาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกันกับที่ทำฐานรองหุ่นยนต์เหล็ก ส่วนการพูดคุยกับเจ้าของโรงงาน พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ไปสอบถามพูดคุย แต่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนการทำได้ขนาดนี้ต้องเป็นโรงงานทำเหล็กขนาดใหญ่ เร็ว ๆ นี้จะมีการขยายผลไปถึงแน่นอน
