เมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 20 ม.ค.68 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายจักกฤช อุเทนสุต รองอธิบดีกรมศุลกากร พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3
พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก และ น.อ.วิสูตร งิ้วแหลม รองผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง กองทัพอากาศ
ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานด้านปราบปรามยาเสพติด 2 คดี ประกอบด้วย 1.ผลปฏิบัติการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดรายสำคัญตามประกาศสืบจับ ยึดทรัพย์ 20 ล้านบาท เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด เป็นนักค้ายาเสพติดระดับผู้สั่งการ มีบทบาทเป็นผู้ประสานงาน ควบคุมการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
2.ปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นประเทศทางผ่านเพื่อเตรียมลำเลียงต่อไปยังปลายทางประเทศ เป็นการอำพรางยาเสพติดในม้วนใยฝ้าย มีไอซ์ลักษณะเป็นเกร็ดปะปนอยู่ในเนื้อฝ้าย
นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เปิดเผยว่า คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ได้มีการเปิดปฏิบัติการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตามประกาศสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ 20 ล้านบาทจับกุมนายพงศ์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดียาเสพติดตามหมายจับศาลอาญา มีบทบาทเป็นระดับผู้สั่งการ ประสานงาน ควบคุมการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
จับกุมตัวได้ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ใกล้สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4 ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักอาศัย กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร รวม 4 จุดในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี อ่างทอง ตาก ตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร รถยนต์ ทองรูปพรรณ บัญชีธนาคาร เป็นต้น รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ การจับกุมนายพงษ์ศักดิ์ เนื่องมาจากสำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนข้อมูลทางการข่าวพบว่านายพงษ์ศักดิ์ มีพฤติกรรมเป็นผู้สั่งการดังกล่าวในหลายพื้นที่
ตรวจสอบข้อมูลกระทั่งพบว่านายพงษ์ศักดิ์เป็นผู้สั่งการและควบคุมการลำเลียงยาเสพติดเกี่ยวข้องในเคสคดีเมื่อวันที่ 30 ต.ค.64 พื้นที่ สภ.เวียงหมอก โดยมีการจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 600,000 เม็ด ไอซ์ 41 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ลำปาง
ยาเสพติดดังกล่าวถูกลำเลียงจากพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อเตรียมนำส่งปลายทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้สืบสวนติดตามจับกุมนายพงษ์ศักดิ์ได้ในวันที่ 13 ม.ค.68 ระหว่างที่นายพงษ์ศักดิ์ เตรียมเดินทางที่จะหลบหนีออกจากไทยเพื่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านพรมแดนในพื้นที่ภาคเหนือนั้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกำลังไปสกัดจับกุมจากนี้จะได้ขยายผลต่อไป
ด้าน พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ เปิดเผยถึงคดีที่ 2 ว่า คดีนี้ ได้เปิดปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ โดยเป็นความร่วมมือหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย เป็นหญิงชาวไทย 1 ราย และชายชาวไทยซึ่งเป็นวัยรุ่น 4 ราย พร้อมไอซ์ของกลาง น้ำหนักรวมสิ่งของหุ้มประมาณ 1.65 ตัน หรือ 1,650 กิโลกรัม ซุกซ่อนอำพรางอยู่ในม้วนฝ้าย จำนวน 33 ม้วน เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
การจับไอซ์ล็อตนี้ได้นั้น หากทะลักเข้ามาได้แล้วมีการใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศปลายทางจะมีผลต่อความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้มาจากการสืบสวนทางการข่าวเมื่อเดือน ธ.ค.67 ได้สืบสวนจนแน่ใจ ทางกองทัพเรือจึงประสานมายัง ป.ป.ส และได้เข้าร่วมดำเนินการกันหลายหน่วยงาน
เนื่องจากเป็นเคสที่ซับซ้อน ผู้ค้ามีการคิดหนทางใหม่ มีการแฝงไอซ์ในการขนฝ้าย เราตรวจจับได้ว่าในร้อยกว่าม้วน มี 33 ม้วนซ่อนไอซ์เข้ามา ถ้าหากไม่มีการข่าวจะตรวจจับได้ยาก
ทั้งนี้ แหล่งตั้งต้นอยู่ในทวีปแอฟริกา มีหญิงชาวไทยและพวกประสานนำเข้าโดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน ก่อนจำหน่ายไปยังประเทศปลายทางผ่านทางเรือ แต่สกัดจับกุมได้ก่อน
นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด กล่าวต่อว่า เคสไอข้ามชาติจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย หญิงชาวไทยคือผู้ต้องหารายสำคัญ มีบทบาทเป็นผู้เช่าโกดังและประสานงานเครือข่ายในต่างประเทศ ส่วนชายอีก 4 รายที่เป็นวัยรุ่น มีบทบาทเป็นคนดูแลโกดังและเป็นนอมินีเปิดบริษัท
พฤติการณ์ทางคดีได้มีเครือข่ายที่อยู่ในต่างชาติจัดเตรียมไอซ์ปะปนในใยฝ้ายส่งให้หญิงชาวไทยทางเรือ จากทวีปแอฟริกา เข้ามาทางอินเดียก่อนเข้ามาถึงไทย โดยในตอนที่เข้าตรวจค้นโทรศัพท์มือถือของหญิงชาวไทย พบว่ามีแชตข้อความชัดเจนที่ระบุว่ามีฝ้ายจำนวน 33 ชิ้น ที่มียาเสพติดผสมอยู่ จากฝ้ายทั้งหมด 140 ชิ้น
จากนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องระวังและจับตาดูในส่วนของการอำพรางยาเสพติดในวัสดุลักษณะนี้ เบื้องต้นได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับสาวชาวไทยรายดังกล่าวได้ประมาณ 2-3 ล้าน
ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ไอซ์ไม่ใช่ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในไทย แต่ก็ถือว่าไทยเป็นทางผ่านเพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือฮ่องกง แต่ประเทศไทยจะเป็นการแพร่ระบาดส่วนใหญ่ในเรื่องของยาบ้า
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้นำเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ ทดสอบสารจากตัวอย่างของกลาง คือใยฝ้าย พบว่าเมื่อทดสอบแล้วมีสารเสพติดเป็นไอซ์ เพราะทำปฏิกิริยาเป็นสีส้ม
