ผบช.ก. ยัน ออกหมายจับ “สันติ” ฆ่าผัวเมีย2 ศพ ไต้หวัน เผยหากพบตัวสามารถดำเนินคดีในไทยได้ สั่งกองปราบจัดทัพล่า เฝ้าระวังชายแดน เชื่อยังอยู่ในพื้นที่
จากกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และตำรวจไต้หวัน ขอความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอให้ติดตามจับกุมนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยา ที่ฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด5เดือน ทิ้งท้ายรถBMW ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทย ตามที่มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 มิ.ย.65 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า
ขณะนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ขออำนาจศาลอาญารัชดา ออกหมายจับนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จนมีการอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
เบื้องต้นได้สั่งการให้ กก.1 บก.ป. และ กก.4 บก.ป. ร่วมกันนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส พร้อมประสานหน่วยงานต่างๆเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ริมขอบชายแดนรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเชื่อว่า นายสันติ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศ
ส่วนมูลเหตุปมสังหาร หรือ จะมีผู้ก่อเหตุคนอื่นร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไต้หวันตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับการประสานจากทางการไต้หวันขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังคงมีเพียงแค่ นายสันติ เพียงรายเดียว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้น จะเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร แต่เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นคนไทย และหลบหนีกลับมาเข้ามาอยู่ในประเทศ รวมถึงพ่อแม่หรือลูกของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรง ได้แจ้งความร้องทุกข์ กับตำรวจให้ดำเนินคดีแล้ว
ตำรวจสามารถดำเนินการตามกฎหมายไทยรวมทั้งรับโทษในประเทศไทยได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ไต้หวันใช้หลักข้อกฏหมายอาญา มาตรา 8 (ก)
“ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ ฯ พนักงานสอบสวน ได้ให้พ่อของผู้เสียชีวิตร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้น รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆที่ตำรวจไต้หวันได้นำมามอบให้ตำรวจกองปราบปรามนำมาประกอบคดี ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาออกหมายจับ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อย