ผบช.ทท.ขานรับนโยบาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา“ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุก Season”
วันที่ 14 มิ.ย.67 ณ โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวฯ เป็นประธานการประชุมพร้อมมอบนโยบาย“ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุก Season”
พร้อมด้วย นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นำเสนอแนวทางขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตามนโยบาย Ignite Thailand’s Tourism เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tourism Hub และดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการเพิ่มศักยภาพจังหวัดท่องเที่ยว 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว ให้ประเทศไทย “เที่ยวได้ทั้งปี เที่ยวได้ทุก Season”จุดพลังการท่องเที่ยวไทย เตรียมกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวช่วงครึ่งหลังปี 2567 พร้อมเสริมการดูแลรักษาความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางของนักท่องเที่ยว
ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวที่เข้าร่วม พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง ,พล.ต.ต. กฤษณ์ วาฤทธิ์ รอง ผบช.ทท.,พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผบก.ทท.2 ,พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.ทท.3 พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.อก.บช.ทท.และ ผกก.ในสังกัด บช.ทท.
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ท่องเที่ยว กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขานรับนโยบายของรัฐบาล เร่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกมิติ โดยประสานความร่วมมือจากทุกภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
มีสาระสำคัญคือ การอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวผ่านการเพิ่มมาตรการเชิงรุกในการตรวจตราป้องกันการหลอกหลวงในแหล่งท่องเที่ยว ผ่านศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว (Command and Control Operation Center : CCOC) และศูนย์ Call Center บริการสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155
ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อเร่งปราบปรามการเอารัดเอาเปรียบและฝ่าฝืน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว และเพิ่มการตรวจสอบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทั้งทางบกและทางน้ำ และมีการจัดทำโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง (S.T.C) ในแหล่งท่องเที่ยว 33 แห่ง
รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ทั้งการพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับศูนย์รับแจ้งเหตุอื่นๆ อย่างครบวงจร และใช้เทคโนโลยี AI Face Recognition ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเริ่มนำร่องไปแล้วใน 6 พื้นที่ S.T.C
ได้แก่ ถนนข้าวสาร กทม. ถนนคนเดินพัทยา จ.ชลบุรี ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ย่านประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ถนนคนเดินบางลา จ.ภูเก็ต และตลาดโต้รุ่งหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
อีกทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ/สถานทูต และ ททท. หารือแลกเปลี่ยนยกระดับความปลอดภัยนักท่องเที่ยววางแนวทางการแก้ปัญหาการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อรับมือFake New ส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
