ผบช.ภ. 8 ร่วมกับโฆษกตร. และผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ประชุมติดตามมาตรการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ ปิดล้อมตรวจค้นบริษัทให้เช่ารถในอ.ถลาง โดยชาวต่างชาติ มีคนไทยเข้าร่วมถือหุ้นเป็นนอมินี ยึดจยย.100กว่าคัน
ด้วยปัจจุบันมีเหตุการณ์กระทำความผิดของชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ อีกทั้งการกระทำ ความผิดดังกล่าวยังมีลักษณะอุกอาจ ไม่เคารพกฎหมายไทยปรากฏตามข่าวและสื่อออนไลน์ต่างๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยเสียหาย เป็นที่กังวลใจของพี่น้องประชาชน รัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในกรณีดังกล่าวกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติลงไปดูแล และหามาตรการในการดำเนินการ
วันที่19มี.ค.67พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร./โฆษกตร. เดินทางมาประชุมติดตามสถานการณ์ กำกับดูแล และสั่งการถึงมาตรการในการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
มี พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด และหน่วยร่วมปฏิบัติในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมการประชุมเพื่อชี้แจงให้ข้อมูล และรอรับการสั่งการเพื่อนำไปปฏิบัติ
ในการประชุม พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รายงานว่า ในจังหวัดภูเก็ตมีชาวต่างชาติขออยู่ต่อในราชอาณาจักร 32,207 ราย เหตุผลการอยู่ต่อได้ 3 อันดับแรก ได้แก่ ประกอบธุรกิจ ร้อยละ 27.94, ศึกษาในสถานศึกษาเอกชน ร้อยละ 25.04 และใช้ชีวิตบั้นปลาย ร้อยละ 15.19
จากนั้นได้รายงานถึงผลการปฏิบัติในการจับกุมชาวต่างชาติที่ได้กระทำผิดกฎหมายในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66 ถึงปัจจุบัน (ปีงบประมาณ 2567 ) พบว่ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยร่วมปฏิบัติในสังกัดตร.ในจ.ภูเก็ต มีผลจับกุมชาวต่างชาติซึ่งได้กระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
มีผลการจับกุมทั้งสิ้น 614 ราย ประกอบด้วย ข้อหาการประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต, หลบหนีเข้าเมือง, อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด, เมาแล้วขับ, พ.ร.บ.ยาเสพติด, ปล้นทรัพย์, ค้าประเวณี, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์อื่นๆ และความผิดเกี่ยวกับเพศ
ทุกคดีที่ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจสอบ หากเข้าหลักเกณฑ์จะเพิกถอนวีซ่า ซึ่งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้เสนอเรื่องไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้วพบว่าเข้าหลักเกณฑ์ และได้เพิกถอนวีซ่าไปแล้ว98 ราย
ในการประชุมดังกล่าวได้มีการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อนำไปปฏิบัติ ในการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการในการปราบปรามกลุ่มชาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อจงใจกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้มีความรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น
โดยวันนี้ ได้มีปฏิบัติการของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริษัทให้เช่ารถในอ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยบริษัทดังกล่าวน่าเชื่อได้ว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการโดยชาวต่างชาติ มีคนไทยเข้าร่วมถือหุ้นเป็นนอมินีเพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ 2542 ได้ดำเนินการตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 100 คัน และเอกสารอีกหลายรายการ เพื่อนำไปตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม
ขอยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะได้เดินทางมาท่องเที่ยว และได้กำหนดมาตรการในการดูแลป้องกันการกระทำความผิดของชาวต่างชาติไว้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อจงใจกระทำผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อไป