Tuesday, June 24, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันผบ.ตร.ประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ3นักบินช่างเครื่องฮ.ตำรวจ

    ผบ.ตร.ประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ3นักบินช่างเครื่องฮ.ตำรวจ

    ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพนักบิน-ช่างเครื่องตำรวจ ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกยันดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ลั่น28พ.ค.ไปกองบินเรียกขวัญกำลังใจกำลังพล

    วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 17.00 น. ณ วัดนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

    “ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย” นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ และ “ร.ต.ต.ทินกฤต สุวรรณน้อย” รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่น BELL 212 ตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

    มี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ , ข้าราชการตำรวจ และครอบครัว ร่วมพิธีฯ

    สำหรับ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ บำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัชโรทัย วัดทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

    ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้มอบเงินกองทุนสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมได้สั่งการกำชับให้ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์กับครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับมีดังนี้

    – พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ จำนวน 1,434,560 บาท ได้รับความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 4 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พล.ต.ต.

    – ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ จำนวน 1,424,870 บาท ได้รับความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 4 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พ.ต.อ.

    – ร.ต.ต.ทินกฤต สุวรรณน้อย รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ ได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ จำนวน 1,970,400 บาท ได้รับความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 4 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พ.ต.ต.

    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นพิธี โดย ระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ถือเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

    นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ท่านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์และพระราชทานพวงมาลาหลวงมาในวันนี้

    สำหรับเรื่องสวัสดิการการดูแลผู้เสียชีวิตและครอบครัว ประเด็นนี้ตนได้เน้นย้ำไปยัง พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ดูแลเรื่องดังกล่าว ให้กำชับเน้นย้ำดูแลเรื่องนี้ รวมทั้งการจัดพิธีศพให้สมเกียรติ

    ขณะเดียวกัน จะดำเนินการเรื่องของสิทธิประโยชน์แก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัวอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการพิจารณาปูนบำเหน็จชั้นยศ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการกองบินตำรวจเร่งรัดดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

    ส่วนประเด็นเรื่องของสาเหตุการเกิดเฮลิคอปเตอร์ตกนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า การสรุปสาเหตุในเวลานี้นั้นเป็นการตอบที่เร็วเกินไปได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบสาเหตุของเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้แล้ว  อาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ เพราะต้องตรวจสอบทุกมิติและรอบคอบ ทั้งเรื่องการบริหารงาน ข้อขัดข้องทางเทคนิคเครื่องยนต์ หรือเป็นเหตุสุดวิสัย

    ดังนั้น หากใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการตรวจสอบ ตนมองว่าเร็วเกินไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากเหตุสุดวิสัยและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

    เมื่อสอบถามประเด็นที่ว่า ทำไมถึงเกิดเหตุโศกนาฏกรรมซ้ำกับอากาศยานของตำรวจภายในห้วงระยะเวลา 1 เดือน หลังจากเพิ่งเกิดเหตุเครื่องบินของตำรวจตกทะเลที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อ 25 เมษายนที่ผ่านมา

    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า มีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้นได้ เพราะในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเกิดอุบัติเหตุกับอากาศยานถึง 2 ลำ ซึ่งตนก็ได้สั่งการเช่นเดียวกันว่า ต้องแยกตรวจสอบคนละกรณีกัน โดยเหตุการณ์เครื่องบินตกที่เกิดขึ้นครั้งแรกนั้น ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

    สำหรับเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวนั้น ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปทำภารกิจที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช  อยู่ในระหว่างการเสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับหน่วยกองบินที่ จ.กาญจนบุรี ก่อนมาเกิดเหตุสลดเสียก่อน

    เฮลิคอปเตอร์ลำเกิดเหตุนั้น ได้ตรวจสอบซ่อมบำรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นการตรวจสอบตามวงรอบมาตรฐานอากาศยานปกติ ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด รวมทั้งที่ผ่านมาเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ไม่เคยซ่อมบำรุงในกรณีพิเศษนอกจากซ่อมตามวงรอบ

    ส่วนกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอายุการใช้งานอากาศยานที่ค่อนข้างนาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้ามองเพียงแค่เรื่องปี พ.ศ. นั้น ก็ยอมรับว่านาน โดยเฉพาะรุ่นเบลล์ 212 ที่ใช้ในราชการกองบินตำรวจมานานมากกว่า 40 ปี กว่า 10 ลำ ซึ่งบางลำก็เข้าเกณฑ์ที่เตรียมจะจำหน่ายแล้ว บางลำยังอยู่ในวงรอบการซ่อมบำรุงตามปกติ

    ดังนั้น เฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 ในราชการกองบินตำรวจ จากเดิมใช้งานได้ 3 ลำ แต่ประสบอุบัติเหตุตกไปเมื่อวานนี้ จึงเหลือใช้งานได้เพียงแค่ 2 ลำ

    ยืนยันว่า ในต่างประเทศเฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวก็ยังคงใช้งานตามปกติในอายุการใช้งานเดียวกันและเราก็ตรวจสอบซ่อมบำรุงซ่อมแซมอย่างสม่ำเสมอ นั่นจึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุของเฮลิคอปเตอร์ตกเกิดจากอะไรกันแน่

    อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  ได้มีคำสั่งให้อากาศยานกองบินตำรวจทุกลำยุติภารกิจการใช้งานชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอากาศยานทุกลำ รวมทั้งสั่งการให้กองบินตำรวจทบทวนและตรวจสอบอากาศยานทุกลำ ทั้งประสิทธิภาพเครื่องยนต์และอายุการใช้งาน ซึ่งมีทั้งอายุการใช้งานยาวนานและไม่นานมาก

    ในวันพุธที่ 28 พ.ค. จะไปยังกองบินตำรวจท่าแร้ง เพื่อรับฟังรายงานดังกล่าวและมอบนโยบายกำชับเรื่องงานอากาศยานตำรวจใหม่  เน้นย้ำว่า อากาศยานลำใดที่มีอายุการใช้งานยาวนานและไม่จำเป็นต้องซ่อมบำรุงแล้ว ให้เตรียมจำหน่ายได้เลย

    นอกจากนี้  จะเดินทางไปสร้างขวัญกำลังใจ และความเชื่อมั่นให้กับนักบินว่า อากาศยานตำรวจที่ผ่านการตรวจสอบและตนรับทราบข้อมูลความปลอดภัยแล้ว จะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจ  ตนยังเชื่อมั่นในฝีมือของนักบินที่มีชั่วโมงบินสูงและในวันเสาร์ที่จะถึงนี้  ก็มีภารกิจที่จะต้องบินกับอากาศยานตำรวจด้วย

    ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ และ ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย 2 นักบินผู้เสียชีวิตนั้น ถือว่าเป็นระดับหัวกะทิของกองบินตำรวจ มีชั่วโมงบินที่สูงและเคยปฏิบัติภารกิจในหลายโอกาส ทั้งภารกิจถวายความปลอดภัย ภารกิจกู้ภัย ภารกิจช่วยเหลืองานตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งภารกิจทั้งด้านการแพทย์

    หลังเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรมศพ กลุ่มนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 52 และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 68  รุ่นเดียวนักบินผู้เสียชีวิตทั้งสอง ก็ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของนักบินผู้เสียชีวิต เป็นเงิน  200,000 บาท

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments