ผมรู้จักพี่อังกูร-พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท อดีตบิ๊กตำรวจผู้การ น.4 ผู้การทางหลวง อดีตตำรวจกองปราบ เป็น1ในตำนานสืบสวนใต้อันเลื่องชื่อ
รู้จักกันตอนนั้นสมัยเป็นรองผกก.2ป. ส่วนผมเป็นนักข่าวกองปราบฯใหม่ๆที่ตั้งอยู่สามยอด วรจักร (บัดนี้ไม่เหลือแต่ซาก)
จนถึงตอนนี้ 74 แล้วพี่อังกูรยังแข็งแรงปึ๋งปั๋ง ดูแลสุขภาพร่างกาย อย่างดี มีวิธีคิด วิธีใช้ชีวิต ซ้ำกิจกรรมมีมากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของคอลัมน์ ประสบการณ์คับด้ามปืน ในนิตยสาร Cop’s Magazine อ่านแล้วสนุกสนาน ได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่าง โดยเฉพาะการแนะนำการใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ
วันนี้ผมนำบทความที่เคยสัมภาษณ์พี่อังกูร เรื่องปืนผาหน้าไม้คู่ใจ เมื่อ2ปีที่แล้ว ตอนนั้นพี่อังกูร อายุ72ปีครับ
มีปืนอุ่นใจเหมือนมีเพื่อน
คงจำกันได้ ภาพนายตำรวจมาดเข้มถือปืนลูกโม่.357 ลำกล้อง 6 นิ้ว สีดำ กระบอกเบ้อเร่อ ยืนแอ๊กท่าประกาศสงครามกับยาเสพติดอยู่บนคัตเอาท์ขนาดใหญ่ตามถนนในจุดต่างๆทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท อดีตผู้การทางหลวง และอดีตผู้การ บก.น.4 คือนายแบบตำรวจหุ่นเท่ที่ว่า ถึงวันนี้เกษียณอายุราชการมา 12 ปี แต่ร่างกายยังดึ๋งดั๋งปึ๋งปั๋ง มีกิจกรรมในชีวิตหลายอย่าง เป็นนายตำรวจสูงวัยอารมณ์ดี รักการร้องเพลง โดยเฉพาะการแต่งกายร้องเพลงเลียนแบบ เอลวิส เพรสลี่ย์ และยังเป็นเจ้าของคอลัมน์ประสบการณ์คับด้ามปืน ในนิตยสาร Cop’s Magazine อีกด้วย
ย้อนอดีตก่อนเป็นนายพล อดีตนรต.19 คนนี้ อยู่มาทั้งกองสืบสวนใต้ สืบสวนธนฯ กองปราบฯ ชีวิตหนุ่มโชกโชนมาก มีทั้งโดนออกจากราชการไปอยู่ธนาคาร ไปเล่นหนังเล่นคู่ลิขิต เอกมงคล สรพงษ์ ชาตรี สุดยอดจริงๆ
เจ้าตัวเล่าให้ฟัง ช่วงอยู่สืบสวนใต้ ทำงานแข่งกับสืบสวนเหนือ วัดผลงานกัน ใครลงหน้า 1 ได้บ่อย นั่นเก่ง ส่วนผมบอกเลยไม่ได้เก่ง แต่มีสายเยอะ แล้วมีลูกน้องมือดี อย่างสมคิด บุญถนอม ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ สุเมธ เรืองสวัสดิ์ สุรศักดิ์ สุทธารมย์ ทรงพร สารพานิช แต่ละคนนี่ ไม่ธรรมดา
เมื่อถามถึงเขี้ยวเล็บคู่ใจ นายพลเอลวิสเล่าว่า
กระบอกแรกในชีวิต ใช้ Smith Chief .38 รุ่นบอดี้การ์ด นกใน ใส่กระเป๋าหลังทำหายที่โคราช สมัยไปฝึกต่อต้านก่อการร้าย ก็ซื้อ
Smith&Wesson.44 ลำกล้อง 4นิ้ว เอาไว้ยิงเครื่องยนต์รถ สมมติคนร้ายขับรถหนี จะใช้หัวแบบเจาะเกราะ ยิงมันที่ห้องเครื่องเลย ยิงแล้วมันอยู่ ลำกล้องยาว นิ่ม เวลาเล็งให้ศูนย์มันได้ที่แล้วเหนี่ยวปั๊บ ไม่มีพลาด
ต่อไปก็ใช้ Smith&Wesson .357 ลำกล้อง 6 นิ้ว ซื้อเพราะเห็น สุเมธ ยิงสู้คนร้ายคดีปล้นที่หน้าเสสะเวช ฝั่งธนฯ สุเมธใช้ .357 ยิงแล้วมันทะลุไปถึงร้านค้าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ห่างเป็น 100 เมตร ไปโดนโคมไฟที่มีสายเป็นเหล็กขาด เลยคิดว่า มันมหากาฬมาก เลยซื้อมา แต่ตอนหลังขายหมด ทั้ง .44 และ .357 มี Glock ก็ขายอีก
ตอนนี้ใช้อยู่ มียักษ์แคระ Colt. MK IV Serie 80 ขนาด11 มม.เบา ใส่กระเป๋าได้ ใช้เพราะเคยเห็นลูกน้องตอนอยู่นครปฐม ยิงโจรห้าร้อยระยะห่างวาเดียว ยิงกระเด็นเป็นวาเลย ตีนพ้นพื้น มันแรง เหมือนโดนถีบ ยิงใกล้ๆ หงายท้องเลยละกัน
สำหรับแมกกาซีน ต้องเยอะไว้ก่อน ไปไหนมี 3 แม็ก ถ้ายังสกัดกั้นไม่ได้ก็พร้อมที่จะตายแล้ว
ยังไม่พอ ต้องมีกระบอกเล็กนี่อีก เอาไว้คุ้มครองกระบอกใหญ่ กระบอกเล็กนี่ซื้อไว้ แต่อันตราย มันมีลูกล่ออยู่ นี่ บางคนไม่รู้ เอานี่ออกแล้ว มันยังมีอยู่อีกนัด
พูดจบนายพลอารมณ์ดีหยิบปืนจิ๋ว Beretta Mod.21A.22 กับปืนตราม้า 11 มม.ออกมาให้ชม โดยเฉพาะ Colt. เนื้อเป็นเงาล้อกับแสงเป็นวิบวับ ก่อนเล่าประสบการณ์ที่เพ่ิงเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน
เมื่อวันก่อน ไปร้าน MaxValu ใกล้ๆบ้าน ไปกับเมีย เสียดายไม่ได้เอาปืนไป เห็นผู้ชายคนหนึ่งไปส่องตามรถ แล้วมีผู้ชายวิ่งลงมา จังหวะเราลงจากรถพอดี มันบอกว่าพี่ๆ ไอ้นั่นมันแก๊งทุบกระจกรถ
เราก็ฉิบหาย ไม่ได้เอาปืนไปด้วย ก็เรียกคนขับรถมาด้วยกัน 3 คน คนที่มองเห็นก็เคืองอยู่แล้ว ไปส่องรถมัน ก็ถามว่า มึงทำอะไรวะ มันก็บอกว่าหาโทรศัพท์ ก็โต้เถียงกัน จนมันเห็นว่า เรามี 3 คน มันก็เลยวิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ หนีไปเลย เสียดาย ถ้ามีปืนเราจะคึกกว่านี่
เจ็บใจ ไม่ได้เอาไปด้วย ใส่กระเป๋าหลัง สบายเลย ขืนไปต่อยกับหนุ่มๆ โดนกระทืบตายห่า เอาไว้ทุ่นแรง มีปืนแล้วอุ่นใจเหมือนมีเพื่อน อย่างกระบอกใหญ่ เม็ดเดียวอยู่ ถ้าแค่นี้ยังสกัดกั้นไม่อยู่ ก็สมควรตาย
ไปไหนทีนี้คงต้องเอาปืนไปด้วย ถ้าตำรวจเจอก็ต้องบอกว่า เอาไว้ป้องกันตัว เหลืออยู่แค่นี้