กรณีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยวเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อาวุธปืนยิงตู้โชว์กวาดทองรูปพรรณหนัก 95 บาท มูลค่ากว่า 2.8 ล้านหลบหนี ก่อนวางระเบิดปลอมข่มขู่หวังถ่วงเวลาเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดวันที่ 4 พ.ย.65
ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. พบรถจยย.ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวดำ เบาะสีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ลักษณะคล้ายกับรถจยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้า ริมถนนวัดบางปลาหมอ-หัวเวียง ม.6 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า รถจักรยานยนต์ของคนร้าย ได้หลบหนีไปตามถนนสายวัดบางปลาหมอ-หัวเวียงแล้วหายไประหว่างทาง แต่ พบรถยนต์กระบะ สีขาว แบบ 4 ประตู ขับในเส้นทาง ได้สืบสวนทราบตัวผู้ต้องสงสัย เฝ้าติดตามพฤติกรรม
แนวทางการสืบสวนพบว่า นายหนึ่ง เป็นคนวางแผน นายบูม เป็นคนเข้าไปก่อเหตุชิงทอง และนายกอล์ฟ เป็นคนขับรถยนต์กระบะ ไปรับ นายบูม บริเวณจุดที่พบรถจยย.ถูกนำไปทิ้ง ห่างจากร้านทองประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไปซ่อนตัว
จนเมื่อช่วงเย็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้นำทองรูปพรรณจำนวนหนึ่งไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในย่านนวนคร จ.ปทุมธานี นำไปสู่การเข้าควบคุมตัวเมื่อค่ำวันที่ 11 พ.ย.
ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, ชุดสืบสวน สภ.เสนา จับกุมนาย ศักดา หรือหนึ่ง อายุ 47 ปี นาย นรากร หรือบูม อายุ 27 ปี เป็นชาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหา ที่ร่วมกันวางแผนก่อเหตุชิงทอง ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
จากนั้นเวลา23.30 น. ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน สภ.เสนา นำกำลังเข้าปิดล้อม ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ต.รางจรเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาจับกุม ตัวนาย กฤษรัชญ์ หรือ กอล์ฟ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ถูกออกหมายจับ
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 พ.ย.65 ที่สภ.เสนา พนักงานสอบสวนสภ.เสนา ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหาลงมาจากห้องสอบสวนนำขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปฝากขัง ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ปฏิเสธ ไม่สามารถนำตัวทั้ง 3 คนไปทำแผนประกอบคำรับสภาพได้ ส่วนทองที่ชิงทรัพย์นั้นเบื้องต้น ยืนยันทั้งสิ้น 86 บาท มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต