Wednesday, December 4, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน"รองนพศิลป์"แถลงจับ"หมอบุญ" เจ้าของ รพ.ดังชวนลงทุนธุรกิจการแพทย์เหยื่ออื้อสูญว่า 7.5 พันล.บาท

    “รองนพศิลป์”แถลงจับ”หมอบุญ” เจ้าของ รพ.ดังชวนลงทุนธุรกิจการแพทย์เหยื่ออื้อสูญว่า 7.5 พันล.บาท

     

    “รองนพศิลป์” แถลงจับเครือข่าย “หมอบุญ” เจ้าของ รพ.ดัง พร้อมพวกรวม 9 ราย พบใช้โบกเกอร์ชักชวนลงทุนธุรกิจการแพทย์ 5 โครง การ อ้างผลตอบแทนสูงลิ่ว เหยื่อ 247 รายสูญเงินกว่า 7.5 พันล้านบาท

    เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 พ.ย.67 ที่ห้องประชุม บก.น.1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.   พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงผลจับกุม เครือข่ายนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี  

    ร่วมกับพวกเมีย-ลูกสาว-ลูกน้องรวม9ราย

    ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น

    และพวก รวม 9 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภาฯ 3.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยานายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ 4.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวนายแพทย์บุญ และนางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ

    5.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน 6.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน

    7.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน และ 8.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน

    ทั้ง 8 รายข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

    เหยื่อทยอยแจ้งความปลายปี66

    พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เริ่มจากห้วงเดือน ธ.ค.2566 1 คดี ถัดมาในปี 2567 ห้วงเดือน พ.ค. อีก 6 คดี, เดือนมิ.ย. 8 คดี และ ก.ค. 49 คดี และคดีเริ่มซับซ้อนยากมากขึ้นเนื่องจากผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้น ในช่วงเดือน ส.ค.75 คดี, ก.ย.84 คดี, ต.ค.60 คดี และ พ.ย.อีก 60 คดี รวม 520 คดี รวมผู้เสียหาย 247 ราย เบื้องต้นเป็นคดี พรบ.เช็ก

    พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวางคำร้องทุกข์ไว้ จึงได้เเต่งตั้ง คณะ บก.น.1 เป็นพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน

    ใช้โบรกเกอร์เป็นตัวแทนระดมทุน

    พบพฤติกรรมนายเเพทย์บุญ และพวกระดมทุนชักชวนจากตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าตนเป็นตัวแทนระดมเงินลงทุนให้นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ และ ครอบครัว

    ลวงด้วย5อภิโปรเจคการแพทย์

    ผู้เสียหายถูกโบรกเกอร์ติดต่อชักชวนลงทุน ร่วมกับนายแพทย์บุญฯ กับพวก โดยอ้างว่าลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ มี 5 โครงการ

    1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ ใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท

    2.โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างที่พักอาคารสูง 52 ชั้นรองรับผู้สูงอายุ 400 ห้อง มูลค่า 4-5 พันล้านบาท

    3. สร้างโรงพยาบาลในสปป.ลาว รวม 3 แห่งเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง 4. เข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนามใช้งบลงทุน 4-5 พันล้านบาท

    และ 5.การสร้างเมดิคอลอินเทลลิเจนท์ บางละมุง ชลบุรี ทำหน้าที่ด้านไอที มูลค่า 100 ล้านบาท

    วาดฝันกำไร700ล.-1,000ล.

    หากผู้เสียหายร่วมลงทุนแล้ว ผู้ร่วมลงทุนในปี 2566 จะได้กำไร 700 ล้านบาท ปี 2567 อาจเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท

    วางแผนนำเข้าตลาดหลักทรัพย์

    ในช่วงดังกล่าววันที่ 2-4 ก.พ. 2566นายแพทย์บุญฯ ได้สร้างโปรไฟล์น่าเชื่อถือ โดย 5 โครงการดังกล่าว หลังระดมทุนเรียบร้อยเเล้วจะให้ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทไทยเมดิคอลกรุ๊ป จำกัด หรือ TMG ดูเเลโครงการทั้งหมดเนื่องจากเชี่ยวชาญด้านการเเพทย์ เข้ามาบริหารต่อ ยังมีเเผนนำเข้าบริษัทตลาดหลักทรัพย์ในปี 2567

    ระดมทุนกู้เงินเหยื่อ-ใช้เช็คค้ำ

    เเต่พฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนของหมอบุญเเละพวก มีลักษณะการไปกู้ยืมเงินกับเเหล่งเงินกู้ มีภรรยาเเละลูกสาว เป็นผู้ค้ำประกัน เซ็นสลักหลังในเช็คทุกฉบับมอบให้ผู้เสียหาย

    ในช่วงเเรกจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง ให้กับบางส่วนบางคน ต่อมาไม่มีการจ่ายเลย

    พบทยอยถอนครั้งละ100ล.

    อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังพบว่า หลังได้เงินทุน 7,500 ล้าน พบว่าให้โบรกเกอร์ทยอยไปถอนเงินครั้งละเป็นร้อยล้าน โบรกเกอร์จะได้ดอกเบี้ย เเละ เปอร์เซนต์เป็นค่าตอบเเทน   1 แสนบาท ต่อ 10 ล้านบาท  การกระทำทั้งหมอบุญเเเละโบรกเกอร์ จะไปชักชวนผู้ร่วมลงทุน ที่เป็นนักเล่นหุ้น กระเป๋าหนัก

    “บิ๊กเจ้า”ตั้งคณะพงส.สางคดี

    ต่อมามากองบังคับการตำรวจนครบาล 1 แต่งตั้ง คณะพนัก งานสืบสวนสอบสวนโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น.เร่งดำเนินการโดยด่วน

    เหยื่ออื้อ247คนเสียหาย 7,564 ล้าน

    เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง ผู้ที่เสียหายมากที่สุดที่ร่วมลงทุนมากที่สุดมากถึง 600-700 ล้าน เป็นนักธุรกิจที่หลงเชื่อว่าจะมีการลงทุนจริง รวมถึงบุคคากรทางการเเพทย์ รวมทั้งหมด 247 คน ความเสียหาย 7,564 ล้านบาท ตั้งเเต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนตุลาคม 2567

    เร่งตรวจสอบเงินไปไหน

    ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบว่านำไปใช้จ่ายในธุรกิจเครือข่ายโรงพยาบาลที่มีอยู่จริง 4-5 โรงพยาบาล จะต้องไปตรวจสอบ รวมถึงต้องไปตรวจสอบในช่วงที่นำเข้าวัคซีนโควิด-19 ว่าเงินดังกล่าวไปอยู่ที่ไหน

    รถยนต์19คันของ”หมอบุญ“ล่องหน

    นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า นายเเพทย์บุญ มีรถยนต์ 19 คัน พบว่าหายไป ส่วนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโฉนดที่ดิน พบมี 21 เเปลง พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปยังคนในครอบครัว จะต้องตรวจสอบว่า ทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงปี 2567 หรือไม่ สำหรับผู้ร่วมขบวนการ

    ศาลอาญาได้ออกหมายจับมี 9 ราย ประกอบด้วยกลุ่มที่ 1 คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี ภรรยานายแพทย์บุญ , นางสาวนลิน อายุ 51 ปี บุตรสาวนายแพทย์บุญ

    กลุ่มสอง คือ นางสาวศิวิมล อายุ 38 ปี ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน

    และ กลุ่มที่ 3 โบรกเกอร์ คือ นางอัจจิมา อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน, นายภาคย์ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน, นางภัทรานิษฐ์ อายุ 55 ปี เป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน ผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน และนายธนภูมิ อายุ 36 ปีตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา

    ขณะนี้ตำรวจจับได้เเล้ว 6 ราย และได้นำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเรียบร้อยเเล้ว

    เจ้าตัวเผ่นนอกคาดกบดานจีน

    ส่วนหมอบุญได้ประสาน ตม.ตรวจสอบ พบว่าเดินทางออกจากไทยตั้งเเต่ 29 กันยายน เวลา 14.25 น. เส้นทางกรุงเทพ-ฮ่องกง ล่าสุดทราบว่านายเเพทย์บุญ เดินทางต่อจากฮ่องกงไปจีนเเล้ว อยู่ระหว่างประสานตำรวจสากล ส่วนลูกเมียอยู่ระหว่างติดตามตัวคาดว่าอยู่ในประเทศไทย

    เชื่อใช้เช็คค้ำเลี่ยงผิดฟอกเงิน

    สำหรับพฤติการณ์ หมอบุญชุดสืบสวนพบว่า พยายามจ่ายเช็คให้กับเจ้าหนี้ โดยใช้เช็คที่ผู้เสียหายไม่สามารถนำไปใช้ขึ้นเงินได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดการฟอกเงิน ที่มีอัตราโทษสูง เเละจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์

    อีกทั้งพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหายังทำการตลาด ซื้อโฆษณา สื่อออนไลน์ สำนักพิมพ์หลายเเห่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือโดยการออกสื่อทั้งลงเว็บไซต์และให้สัมภาษณ์ และบอกกล่าวครอบครัว คนใกล้ชิด และโบรกเกอร์ตัวแทนระดมทุน อ้างว่ามีบริษัทหลักทรัพย์ จดทะเบียนถูกต้องใตลาดหลักทรัพย์ สร้างความน่าเชื่อถือ และการระดมทุนได้ค่าตอบแทนสูงมากกว่าสถาบันการเงิน

    อย่างไรก็ตามจะพยายามถึงที่สุดในการตามล่าตัว ตามหาทรัพย์สินกัลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้ ฝากถึงผู้ที่จะลงทุน ก่อนร่วมลงทุน ให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าโครงการต่างจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments