ดึกวันที่ 21 เมษายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. , พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รองผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.สั่งการให้พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ , พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก .สส.2 บก.สส.บช.น . พร้อมกำลัง
จับกุม นายปิยะศักดิ์ อายุ 45 ปีได้ที่บริเวณ ห้องพักเลขที่ 317 โรงแรม 39 อินน์ 26/5 ม.4 ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
กล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1400/2563 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563
พฤติการณ์ในคดีที่ สน.พหลโยธิน กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้ รู้ว่าผู้เสียหายกำลังจะแต่งงาน ได้เตรียมทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ จึงได้เข้ามาตีสนิทกับพี่สาวผู้เสียหาย หลอกลวงให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และ หวังอยู่กินแบบสามี-ภรรยา กับพี่สาวผู้เสียหาย
ก่อนวันก่อเหตุ 1 วัน ได้ขอเข้ามาดูห้องผู้เสียหาย อ้างว่าจะย้ายมาอยู่กินกับพี่สาวผู้เสียหายที่อพาร์ตเมนต์เดียวกัน ในวันเกิดเหตุได้เข้ามาขอยืมจยย.ผู้เสียหาย ที่มีกุญแจคีย์การ์ดเข้าห้องผู้เสียหาย จากนั้นเข้าไปลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้อง เป็นทองคำหนัก 14 บาท พระเลี่ยมทอง 2 องค์ และเงินสดจำนวนหนึ่ง ก่อนหลบหนีไป
ผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกประกาศแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์จากหลายช่องทางให้ระมัดระวัง เนื่องจากได้ก่อเหตุในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง โดยเมื่อปี2563 ผู้ต้องหาได้ไปตีสนิทหลอกผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงให้ลงทุนซื้อขายทอง มีการโอนเงิน ไปยังบัญชีผู้ก่อเหตุ รวมเป็นเงินเกือบ 8ล้านบาท จากนั้นหลบหนี ผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
จากการตรวจสอบในระบบ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับอีก2 หมาย คือ หมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และ หมายจับของศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอกได้ประสานงาน และ แจ้งให้อายัดตัวผู้ต้องหารายนี้
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนจับกุมขณะกำลังหลอกหญิงสาวอีกราย ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าลักทรัพย์สินสอดคู้บ่าวสาวผู้เสียหายมาจริง แต่ได้คืนเป็นบางส่วนแล้ว นำตัวผู้ต้องหานำส่ง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “อยากขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ที่ก่อเหตุโดยการใช้อุบายหลอกลวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ หลอกเป็นคนมีฐานะดี ชอบโชว์รูป สร้างโปร์ไฟล์เศรษฐีในโลกโซเชี่ยล แล้วก่อเหตุลักทรัพย์ หรือ ชักชวนให้ลงทุนเอาเงินทองไป ซึ่งครอบครัวหรือญาติพี่น้องอาจมีโอกาสตกเป็นเหยื่อได้
หากประชาชนท่านใด ได้รับความเดือดร้อนจากมิจฉาชีพในลักษณะเดียวกัน สามารถขอความช่วยเหลือมายัง สืบนครบาล เพื่อที่จะดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ให้ได้โดยเร็วต่อไป เราจะไม่ปล่อยภัยร้ายสังคมไว้ ”
