เที่ยงวันที่ 7 ธ.ค.65 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.
พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ธนพล มโนสร รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น .และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมนางสาวมณีรัตน์ หรือ ” นุ่นศรี ” หรือ ปุย นุ่น (อาฟิวส์) ” หรือ “ สุมินตรา สุนาชัย ” หรือ “ นุ่น นนนนนน ” หรือ “ มณีรัตน์ ทองคำ ” หรือ “ ศิรินันท์ ภูมิใจ ” อายุ 19 ปี ชาว อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ”
พบหมายจับ 2 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ 486/2565 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง และมาตรา 14 วรรคสอง (1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ” ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่
2. หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (สาขามีนบุรี) ในความผิดฐาน “ ไม่มาศาลตามกำหนดนัด ” ในคดีที่ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ตามหมายจับระหว่างพิจารณา ที่ 21/2565
จับกุมได้ที่หน้าที่พักคนงานริมถนนเทศบาล 7 หมู่ 4 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
พฤติกรรมก่อนจับกุมชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนจับกุม นางสาวปุยนุ่น เปิดบัญชีเฟซบุ๊คหลอกขายอาหารเสริมประเภทคอลลาเจนเม็ดยี่ห้อ JOJU , โลชั่นทาผิวยี่ห้อออร่าไวท์ , เซรั่มสตอเบอรี่ลดริ้วรอยยี่ห้อ Yerpall , สบู่ใบบัวบกยี่ห้อ Chariya , เซรั่มทาบำรุงผิดยี่ห้อโดสแดง นาโนไวท์โดส
ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ ปุย นุ่น (อาฟิวส์) ” , ชื่อบัญชี “ สุมินตรา สุนาชัย ” , ชื่อบัญชี “ นุ่น นนนนนน ” , ชื่อบัญชี “ มณีรัตน์ ทองคำ ” , ชื่อบัญชี “ ศิรินันท์ ภูมิใจ ”โพสต์หลอกขาย จนมีชื่อติดในติดแบล็กลิสต์ บัญชีคนโกง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
ชั้นจับกุมรับสารภาพว่า เคยขายครีมบำรุงผิวผ่านทางออนไลน์ แต่ประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน จึงรับออเดอร์ลูกค้ามาแล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายอย่างอื่นแทนก่อน เมื่อถึงกำหนดส่งสินค้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งก็ไม่สามารถหาสินค้ามาส่งให้ลูกค้าได้ ไปซื้อสินค้าชนิดอื่น เช่น แชมพูราคาถูก , น้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อ หรืออื่นๆ ที่สามารถหาได้ส่งให้ลูกค้าแทนสินค้าที่ต้องการ เมื่อเห็นว่าได้กำไรดี หลงผิดทำต่อเนื่องเรื่อยมา
ที่ผ่านมา ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2563 มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 10 – 15 รายต่อเดือน ความเสียหายแต่ละรายประมาณ 10,000 – 12,000 บาท มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนกว่าเดือนละ 200,000 บาท มูลค่าความเสียหายตั้งแต่ปี 2563 ที่เริ่มก่อเหตุถึงปลายปี 2564 กว่า 5 ล้านบาท นำส่ง สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบว่า มิจฉาชีพมีการแอบแฝงตัวเข้าไปตามช่องทางการสื่อสารออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือบนแพลตฟอร์มอื่นๆ จึงต้องระมัดระวังอย่าด่วนสรุปตัดสินใจโอนเงิน โดยควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอมเสียก่อน
หากมีเบาะแสการกระทำความผิดใดสามารถแจ้งเข้ามายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มากแต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.