Sunday, October 6, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลรวบ “เสือแอร์ ประเวศ”จากโจรลักทรัพย์ยกระดับเป็นหัวจ่ายค้ายา

    สืบนครบาลรวบ “เสือแอร์ ประเวศ”จากโจรลักทรัพย์ยกระดับเป็นหัวจ่ายค้ายา

    สืบนครบาลรวบ “เสือแอร์ ประเวศ” โจรลักสายไฟบ้านจัดสรรจำนวนมาก และหนีหมายจับครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย

    สืบนครบาล รวบ เสือแอร์ประเวศ จากเคยเป็นโจรตัดสายไฟขายเพื่อเอาเงินไปเสพยา กลายเป็นขาใหญ่หัวจ่ายปล่อยยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในชุมชนย่านประเวศ กระโดดห้องพักชั้น 2หนีการจับกุม ยึดยาบ้ารวม 812 เม็ด ยาไอซ์ 6.18 กรัม ถูกออกหมายจับ สุดท้ายไม่รอด ถูกสืบนครบาลตามรวบถึงห้องพักย่านซอยเฉลิมพระเกียรติ 65 ผู้ต้องหากล่าวกับสืบนครบาลว่า “ขอบคุณเด้อครับที่บ่ซ้อมกัน”

    วันที่ 17 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ กก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น.

    ร่วมกันจับกุมตัวนายทองใบ หรือแอร์   อายุ 41 ชาวพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ดตามหมายจับ 3 หมายจับ ดังนี้1.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1339/2565 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2565
    ข้อหา “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร ”

    2.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.478/2567 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้าฯ” 3.หมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.493/2567 ลงวีนที่ 25 ก.ค. 2567 ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้าฯ”

    จับกุมได้ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ กลางซอยเฉลิมพระเกียรติ 65 แยก 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.

    พฤติการณ์กล่าวคือ (หมายจับลักทรัพย์สายไฟ) ย้อนกลับไป วันที่ 26 พ.ย. 2565 เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรชื่อดังย่านลำผักชีเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลำผักชีเพราะบ้านจัดสรร ที่กำลังจะเสร็จพร้อมขายให้กับลูกค้า ถูกคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดสายไฟนับ 10 หลัง ความเสียหายหลายแสนบาท ทำให้ไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ทันกำหนด

    พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายทองใบเป็นขี้ยาตระเวนลักเล็กขโมยน้อยละแวกดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อขอศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายจับแล้ว นายทองใบฯ กลับหายไปในกลีบเมฆ

    (หมายจับยาเสพติด)ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสพลเมืองดีว่า นายทองใบ (ทราบชื่อภายหลัง) หรือเสือแอร์ เป็นขาใหญ่ปล่อยยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในชุมชนย่านประเวศ จึงลงพื้นที่เข้าจับกุมขณะอยู่ในห้องเลขที่ 204 ซอยอ่อนนุช 65 แยก 4 ถนน ถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77) แขวง ประเวศ เขต ประเวศ กทม.

    แต่นายทองใบฯ ไหวตัวทัน กระโดดหลังห้องพักชั้น 2 หลบหนี ทิ้งให้ น.ส.มณทิราฯ แฟนสาว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมยาบ้า 812 เม็ดและยาไอซ์รวมกว่า 6.18 กรัม น.ส.มณทิราฯ แฟนสาว ให้การว่าของกลางทั้งหมดเป็นของ นายทองใบ พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นขอหมายจับต่อศาลอาญาพระโขนง

    อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามตัวนายทองใบฯ จนได้เบาะแสว่า จากการกระโดดห้องพักชั้น 2 กระแทกกับพื้นเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้นายทองใบฯบาดเจ็บตรงอวัยวะเพศชายไม่สามารถปัสสาวะได้  ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ. สอดท่อเข้าท้องเพื่อระบายปัสสาวะออกจากร่างกาย และหนีไปกบดานกับแฟนใหม่อยู่ที่ซอยเฉลิมพระเกียรติ 65

    เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ติดตามจับกุม เมื่อไปถึงห้องเช่าของนายทองใบฯ อยู่บริเวณชั้น 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดล้อมและเรียกให้นายทองใบฯ เปิดประตู แต่นายทองใบฯไม่ยอมเปิด ผ่านไปครู่หนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะพังประตูเพื่อเข้าจับกุม แต่แฟนใหม่ของนายทองใบฯเกิดความกลัว จึงยอมเปิดประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายทองใบฯ ไว้ได้ 

    ในชั้นจับกุม นายทองใบ หรือ “แอร์ ประเวศ”รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า คดีลักทรัพย์ของตนของปี 65 ตนก็รับสารภาพว่าตอนนั้นตนติดยาเสพติดอย่างหนัก ไม่มีเงินซื้อ เมื่อผ่านบ้านจัดสรร โครงการใหม่ ย่านลำผักชี ดูแล้วไม่มีใครเฝ้า จึงไปลักตัดสายไฟมาขาย โดยตัดไปหลายสิบเส้น ได้มา 10 กว่ากิโลกรัม ขายได้เงิน 4,000 กว่าบาท นำเงินมาซื้อยาเสพติดเพื่อเสพ จากนั้นก็หนีมาตลอด

    จนปัจจุบันเป็นขาใหญ่ของย่านประเวศ เมื่อใช้ชีวิตประจำวันก็จะมีคนรู้จักมาขอซื้อยาเสพติดจากตน แรกๆตนก็ไม่มีขาย แต่เห็นช่องทางหาเงินจึงไปรับซื้อยาเสพติดจาก ชายที่อยู่ในชุมชนแถวกองขยะ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ใน ราคาเม็ดละ 30 บาท จากนั้นนำมาแบ่งขายให้วัยรุ่นย่านประเวศในราคา เม็ดละ 50 บาท

    จนเมื่อเดือน มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา จนเคยถูกตำรวจไล่จับแล้วครั้งนึง แต่กระโดดห้องพักชั้น 2 หลบหนีมาได้ ทำให้ป่วยปัสสาวะไม่ออก ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษา โดยหมอผ่าตัดเจาะท้องเพื่อระบายปัสสาวะ ทำให้ตนต้องหิ้วถุงทิ้งปัสสาวะไปด้วยทุกที่ หลังจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำผักชี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    นอกจากนี้ ยังพบประวัติคดีอาญายาวเป็นหางว่าว 8 คดี ดังนี้
    1.วันที่ 4 พ.ย. 50 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.อุดมสุข
    2.วันที่ 29 มิ.ย. 51 ถูกจับกุมข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.อุดมสุข
    3.วันที่ 2 ก.พ. 55 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ” พื้นที่ สน.อุดมสุข
    4.วันที่ 11 ก.พ. 55 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พื้นที่ สน.อุดมสุข
    5.วันที่ 1 ก.ย. 60 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้น” พื้นที่ สน.พลับพลาไชย2
    6.วันที่ 3 ต.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5” พื้นที่ สภ.บางพลี ภ.จว.สมุทรปราการ
    7.วันที่ 1 ธ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ” พื้นที่ สน.ลำผักชี
    8.วันที่ 12 มิ.ย. 67 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) (ยาบ้ารวม 812 เม็ด ยาไอซ์ 6.18 กรัม)” พื้นที่ สน.ประเวศ

    พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “การเสพและจำหน่ายยาเสพติดมีอัตราโทษที่สูง ถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ยาเสพติดเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน ภัยร้ายของยาเสพติดนั้น มิได้เกิดขึ้นและส่งผลกระทบเฉพาะตัวของผู้เสพเท่านั้น แต่ส่งกระทบต่อบุคคลในครอบครัว คนใกล้ชิด รวมถึงคนที่เรารัก ยังสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ของประชาชนผู้บริสุทธิ์

    ดังเช่นกรณีในครั้งนี้ผู้ต้องหาเริ่มจากเป็นผู้เสพยาเสพติด ตะเวนลักทรัพย์จนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข จากนั้นผู้ต้องหาหันมาจำหน่ายยาเสพติดในชุมชน จำหน่ายไปนับหมื่นเม็ด ทำลายอนาคตของวัยรุ่นในชุมชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และยังเป็นจุดเริ่มต้นอาชญากรรมในชุมชนนั้นๆ

    ขอให้ประชาชนทุกๆคนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่ ดังนั้นหากใครพบเบาะแสของยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล”

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments