สืบนครบาลรวบ“เต้ อะไหล่ซิ่ง”คาร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ย่านบางขุนเทียน พฤติกรรมซ้ำซาก หลอกขายอะไหล่มอเตอร์ไซด์แต่งซิ่ง พบข้อมูลการโกงใน blacklistseller เกือบ 20 ราย
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะ
อัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.
สั่งการ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1ฯ ,ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.สส.1ฯ พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 3
จับกุมนายไตรรัตน์ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 45/2567 ลง 11 มกราคม 2567 โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมได้ที่ หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
ตรวจสอบประวัติต้องโทษพบหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมาย คือหมายจับของศาลอาญาที่ 9/2567 ลง 3 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และหมายจับของศาลสมุทรสาครที่ 90/2566 ลง 21 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุ ผู้ถูกจับมีพฤติกรรมชอบแต่งรถจักรยานยนต์
สวยงามมาเป็นเวลากว่า 10 ปี จนพ.ศ.2565 เกิดความคิดจะจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนแต่งซิ่งรถจักรยานยนต์ประเภท ท่อไอเสีย โช๊ค และอุปกรณ์แต่งซิ่งอื่นๆอีกหลายรายการสมัครเป็นสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวและได้โพสต์ประกาศขายในช่องทางออนไลน์ (FACEBOOK) และในกลุ่มของผู้ชื่นชอบตกแต่งรถจักรยานยนต์ในกลุ่มยี่ห้อ ยามาฮ่า และ ฮอนด้า อีกหลายกลุ่ม ซึ่งมีผู้ติดตามในช่องทางดังกล่าวกว่าพันราย
หากมีลูกค้าคนใดสนใจจะติดต่อและทักมาพูดคุยและหลงเชื่อตกลงซื้อขายอะไหล่เป็นจำนวนมาก รายละประมาณ 2,000 บาท – 8,000 บาท บางรายก็ส่งสินค้าตามที่ตกลง เงินที่ได้จะเอาไปใช้จ่ายทั่วไปรวมถึงซื้อของแต่งรถจักรยานยนต์ของตนเอง จนมาภายหลังเห็นว่า บางรายที่ตนไม่ส่งสินค้า ก็ไม่ถูกผู้เสียหายรายใดติดตามทวงเงิน บางครั้งได้ใจจึงส่งบางเป็นบางราย จนมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี ถูกจับกุมตัวได้
ผู้ถูกจับได้กล่าวสำนึกในการกระทำผิดของตนในครั้งนี้และครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความคึกคะนองและการใช้จ่ายแบบฟุ่ยเฟือย ของตน ที่เกินตัวเกินไป จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลจับกุม จึงได้สำนึกปรับปรุงตัวและรับปากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลว่าจะล้างมือจากพฤติกรรมที่ไม่ดีดังกล่าว เพราะต้องใช้ชีวิตอย่างระหวาดระแวง กลัวลูกค้าจะมาทำร้ายร่างกายหรือทำอันตรายตนขณะออกไปข้างนอก และยังต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ให้พ้นจากการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ หลังจากนี้จะยินยอมชดใช้กรรมที่ตนเองก่อขึ้นให้หมด และใช้ชีวิตใหม่หลังจากที่พ้นโทษของตนที่ได้ก่อขึ้นต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือน “ประชาชนทั่วไป อย่าไป
หลงเชื่อกับสินค้าที่โฆษณา ที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด สินค้าที่อ้างสรรพคุณเกินความเป็นจริง ท่านอาจจะตกเป็นเหยื่อขอเหล่ามิจฉาชีพที่เข้ามาหาท่านในทุกรูปแบบ ทุกช่องทาง กับสินค้าและการบริการที่นับวันยิ่งมีความใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน ควรจะมีการพิจารณาเลือกซื้อสินค้าและบริการจากแหล่ง ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือและสามารถจับต้องสินค้าได้จริงเท่านั้น
ส่วนบุคคลใดที่คิดจะอาศัยช่องว่างและโอกาสในการหลอกลวงผู้อื่น ควรคิดให้ดีและถี่ถ้วนมิฉะนั้นท่านจะใช้ชีวิตในสังคมอย่างไม่เป็นสุข ต้องระแวงจากผู้เสียหายที่เคยด่าทอและหลบหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการตามมาตรการปราบปรามพฤติกรรมการฉ้อโกงประชาชนอย่างจริงจังและเด็ดขาดตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น
.
