“เยาวชนยอดกตัญญู หวังกู้เงินออนไลน์มาช่วยครอบครัว สุดท้ายถูกหลอกเอาเงินเก็บหมดตัว”“สืบภาค 2 บุกจับถึง อ.แม่สาย จว.เชียงราย”
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้มีความพร้อมรับมืออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายใต้ยุค 5G
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของ บก.สส.ภ.2 พบกลุ่มมิจฉาชีพในรูปแบบการปล่อยเงินกู้ทางออนไลน์ แพร่ระบาดจำนวนมาก ได้สืบสวนเพื่อทลายเครือข่ายให้สิ้นซาก โดยสืบสวนจากคดีมีผู้เสียหายจากการโดนฉ้อโกงทางออนไลน์ ในรูปแบบเงินกู้ แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา คือ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี
ผู้เสียหายต้องการกู้เงินเพื่อมาลงทุนขายของออนไลน์ แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ครอบครัวก็มีความขัดสนทางด้านการเงินอยู่แล้ว ยังถูกหลอกให้โอนเงินในรูปแบบการดำเนินการก่อนกู้เงิน 5 ครั้ง รวมค่าเสียหายเป็นเงิน 5,700 บาท
ทำทีให้คุยกับเจ้าหน้าที่ ประธานบริษัท นายทุน เลขา ลูกจ้าง ทำเสมือนเป็นระบบบริษัท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินกู้ใดๆตามที่ตกลงกันไว้ กลุ่มคนร้ายตั้งใจหลอกลวงทั้งที่รู้ว่าผู้เสียหายมีอายุเพียง 15 ปี
บก.สส.บช.ภ.2 โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 ได้ไปซักถามข้อมูลผู้เสียหายเพิ่มเติมด้วยตนเอง เล็งเห็นถึงความยากลำบากของครอบครัวผู้เสียหายหลังถูกหลอก พร้อมให้กำลังใจและให้สัญญากับครอบครัวผู้เสียหายว่า “จะตามจับให้ครบทุกคน แล้วเอาเงินทุกบาททุกสตางค์มาคืนให้”
ได้เร่งสืบสวนขยายผลจนทราบว่า กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้มีการร่วมกันทำเป็นขบวนการ มีผู้ร่วมขบวนการ 5 คน มีการเปิดธุรกิจในรูปแบบบริษัท บังหน้าเพื่อใช้ในการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
รวบรวมพยานหลักฐานและได้ขออนุมัติศาลจังหวัดฉะเชิงเทราออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งสิ้น 5 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”
ภายใต้การควบคุมของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการคดีนี้
ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 64 เวลา 07.00 น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี บก.กค.ภ.1 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. , พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว , พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกสินอภิวัฒน์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครนายก , พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่ ,
ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ เสวกวัง รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาสำราญ , ร.ต.อ.วรุตม์ คำหล้า รอง สว.กก.1 บก.ปส.1 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น , ร.ต.ท.ธนวัฒน์ ทองเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา , ส.ต.อ.สรศักดิ์ ด้วงชู ผบ.หมู่.บก.สส.บก.น. 4 , ส.ต.ต.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ผบ.หมู่.กก.3 บก.ปส.3 บูรณาการร่วมกับ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดปฏิบัติการที่ 5 , สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงรายเข้าค้นสถานที่ 2 แห่ง ดังนี้
บ้าน หมู่ 5 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.โป่งผา อ.แม่สาย จว.เชียงราย เป็นที่ตั้งตามข้อมูลนิติบุคคล ของ ห.จ.ก.กิ่งทองแม่สาย และบ้านใน หมู่ 5 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.โป่งผา อ.แม่สาย จว.เชียงราย
ผลการตรวจค้นพบหลักฐานสำคัญดังนี้
1. เงินสด 278,000 บาท
2. เครื่องประดับ มูลค่า 100,000 บาท
3. สมุดบัญชีเงินฝาก รวม 7 เล่ม
4. บัตรกดเงินสด รวม11 ใบ
5. โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
รวมทั้งสิ้น ประมาณ 400,000 บาท
จับกุมตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายดังนี้
1. นายอานนท์ อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 397/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย. 64
2. นายแปง อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 398/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย. 64
3. น.ส.กิ่งกาญจน์ 40 ปี ไทย-ไทย ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 399/2564 ลงวันที่ 24 พ.ย. 64
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การ “ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา” โดยยอมรับว่าเปิดธุรกิจ ห.จ.ก.กิ่งทองแม่สาย เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งข้ามชายแดนไทย-พม่า เท่านั้นไม่ได้มีการหลอกลวงปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 หรือฉลามจ๋อ กล่าวว่า “แม้มูลค่าความเสียหายเพียง 5,700 บาท อาจมองดูไม่มาก แต่สำหรับครอบครัวที่ต้องหาเช้ากินค่ำ จะได้รับผลกระทบอย่างสาหัส ส่งผลเสียหายต่อการดำรงชีวิตและจิตใจอย่างมาก และหากไม่เร่งดำเนินการจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพก็จะก่อเหตุสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก”
ฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนท่านใดเคยติดต่อ หรือถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อกู้เงินทางออนไลน์ โดยการสนทนากับไลน์ดังนี้และเคยถูกหลอกโอนเงินไปที่บัญชีธนาคารดังนี้สามารถติดต่อแจ้งเบาะแสได้ที่ QR CODE ด้านล่างนี้ เพื่อดำเนินการให้คำแนะนำในการรวบรวมพยานเอกสารเพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับคนร้ายกลุ่มนี้ต่อไป