สืบภาค 2 ขยายผลจับเพิ่ม4 ผู้ต้องหาคอกม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฉสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียดและมาตรการซีลชายแดน ทำแก๊งคอลทำงานยาก ต้องเปลี่ยนแผนเอาเงินออกจากบัญชีโดยกดเอทีเอ็มหรือถอนหน้าเคาน์เตอร์ หรือใช้บัญชีม้าจีนถอนเงินออกแล้วบินออกไป
สืบเนื่องจากเมื่อ 30 เม.ย. 2568 สืบสวนภาค 2 นำโดย พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบไปด้วย
1. นายชอบฯ ชาวจังหวัดศรีสะเกษ (ขับแท็กซี่หรือรถยนต์รับจ้างป้ายดำ รับส่งบัญชีม้า และได้รับผลประโยชน์)
2. นายปราชญ์ปรัศว์หรือเต้ฯ ชาวจังหวัดปราจีนบุรี (ทำหน้าที่สั่งการ, ประสานงานการรับ-ส่งต่อไปยังจุดข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ (ช่องเจ๊หมู) สนับสนุนยานพาหนะ และได้รับผลประโยชน์จากการนำพาบุคคลข้ามแดนไปทำงานที่ออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศกัมพูชา)
3. นางแจ่มใสฯ ชาวจังหวัดสระแก้ว (สั่งการ, ประสานงานการรับ-ส่งต่อไปยังจุดข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ (ช่องเจ๊หมู) สนับสนุนยานพาหนะ และได้รับผลประโยชน์จากการนำพาบุคคลข้ามแดนไปทำงานที่ออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศกัมพูชา) พร้อมของกลางสมุดบัญชีม้าจำนวนหนึ่ง โดยกล่าวหาว่า: ร่วมกันเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า
การจับกุมดังกล่าวพบผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนในการจัดหาและนำพาบัญชีม้าเพื่อข้ามแดนไปทำงานสแกนหน้า สืบสวนภาค 2 จึงรวบรวมพยานหลักฐานและประสานงานกับ สภ.คลองลึก ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน ในข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 68 ได้จับกุม 1. น.ส.ทิพย์ดารา (เจ๊ปู) ชาว ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ 2. นายไกรเดช (เดช) ชาว ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สองสามีภรรยาให้มารับคนที่หน้าด่านคลองลึก เพื่อพาไปส่งที่จุดลักลอบข้ามแดนบ้านยายหมู ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา อยู่ที่บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อนำพาลักลอบข้ามแดนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้แล้วยังพบผู้ร่วมกระบวนการเป็นธุระจัดหาฯ เพิ่มเติม ได้แก่ 3. นายพีระพัฒน์ ชาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา และ 4. นางสุรัตน์ ชาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา สองแม่ลูกทำหน้าที่ติดต่อหาบุคคลไปทำงาน พร้อมนำพาไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อนำไปใช้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้จากการตรวจสอบจุดลักลอบข้ามแดนบ้านเจ๊หมู (คนกัมพูชา) พบว่าเป็นช่องทางธรรมชาติ อยู่ที่บ้านวังวน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
สำหรับแผนประทุษกรรมเดิม บัญชีม้าจะถูกนำพาข้ามไปทำงานที่ออฟฟิศสแกนใบหน้า ฝั่งเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ขบวนการจัดหาบัญชีม้ามีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งการจัดหาบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคาร, แท็กซี่หรือรถยนต์รับจ้างป้ายดำ รับ-ส่ง บัญชีม้าจากต้นทางไปถึงปลายทาง และจะมีคนท้องถิ่นมารับต่ออีกทอดหนึ่ง ลักลอบนำพาข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา
ปัจจุบันด้วยภาวะความตรึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการซีลชายแดน ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานได้ยากขึ้น ต้องเปลี่ยนแผนการเอาเงินออกจากบัญชีโดยกดเอทีเอ็มหรือถอนหน้าเคาน์เตอร์ หรือใช้บัญชีม้าจีนถอนเงินออกแล้วบินออกไป
ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนทุกคนว่า บัญชีม้าถือเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการจัดหาบัญชีม้ามีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า มีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี ปรับ 500,000 บาท ผู้เปิดบัญชีม้า มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาศาลลงโทษจำคุกเกือบทุกราย
ขอให้ประชาชนอย่าเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งการจัดหาบัญชีม้า และเป็นผู้เปิดบัญชีม้า หรือนำพาบัญชีม้าข้ามแดน
นอกจากนี้แล้ว หากบัญชีม้ามีเงินจากการฉ้อโกง หลอกลวงโอนเข้าบัญชีจะมีความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งข้อหาฟอกเงิน และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอีกส่วนหนึ่งด้วย
