นอกจากวีรกรรมของนายทหารหนุ่ม ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร หรือ หมวดบุ๊ค นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 60 และ นักเรียนนายร้อย จปร.รุ่นที่ 71
นำชุดปฏิบัติการรบพิเศษเข้าเคลียร์พื้นที่ปราสาทตาควาย และกรุยทางให้ ร.31 รอ.บุกเข้ายึดพื้นที่ได้สำเร็จอย่างกล้าหาญ แม้ต้องสูญเสียขาขวา ที่พลาดเหยียบกับระเบิดของทหารกัมพูชา แต่เจ้าตัวยังยิ้มได้พร้อมกำลังใจเต็มเปี่ยม
ยังมีวีรกรรมของนายทหารหนุ่มที่เพิ่งจบจากเขาชะโงกเข้าร่วมศึกเขมร พร้อมพลีชีพพิทักษ์และรักษาอธิปไตยของชาติอีกหลายนายเหมือนหมวดบุ๊ก
อย่างเช่นวีรกรรมและน้ำใจของ “หมวดป้อ- ร.ต.ธนาวุธ เวชสงเคราะห์” ผบ.มว.ปล.ร้อย.อวบ.ที่ 2 สังกัด ร.16 พัน.3 ที่เขียนถึงกลุ่มพ่อแม่ จปร.72 ที่รวบรวมเงินมาช่วยเหลือเป็นขวัญกำลัหลังเจ้าตัวบาดเจ็บจากสมรภูมิรบครั้งนี้
ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อคุณแม่ สมาคมผู้ปกครอง ตท.61 จปร.72 ทุกท่านครับ ที่มีความรักความเมตตาและความห่วงใยให้กับผม มอบเงินช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผม จากเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างทหารไทยและกัมพูชา
ผมขอมอบเงินทั้งหมดที่คุณพ่อคุณแม่อนุเคราะห์ให้ผม ส่งต่อแก่ครอบครัวของลูกน้องผมที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส.ท.ต่อพงศ์ พันดวง และอาการสาหัส ส.อ.อำพล นนทะพา
ผมได้มีโอกาสเก็บตัวแข่งขัน หน่วยทหารขนาดเล็ก(นทล.}กับน้องทั้ง2 คน น้องทั้ง2 คนเป็นคนนิสัยดีมากๆ มีความเสียสละและมีความรักต่อประเทศชาติ มีอุดมการณ์ที่รักต่ออาชีพทหาร
ตลอดเวลาที่ผมได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข
ผมได้รับรู้ว่า น้องต่อมีลูกที่เพิ่งคลอดวัย 8 เดือนกำลังน่ารัก และหมู่พลมีลูกวัย 5 ขวบ ทุกๆวันน้องต่อและหมู่พลจะโทรหาครอบครัวในทุกๆเย็นเนื่องจากไม่มีเวลาได้กลับบ้าน
หลังแข่งขัน นทล.เสร็จ ผมกับน้องทั้ง 2 คนได้มาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีความยากลำบากและอันตรายมาก ทั้งจากทุ่นระเบิดในพื้นที่ ฐานปฏิบัติการทหารกัมพูชา และสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารก มีความสูงชันและยังไม่มีเส้นทาง
ภูมิอากาศฝนตกตลอดทั้งวันและหนาวเย็นในเวลากลางคืน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยการเดินเท้าในการปฏิบัติภารกิจ
ผมมาปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองทหารช่างในการเจาะเส้นทางและสร้างถนนในพื้นที่ชายแดน เป็นบริเวณสมรภูมิรบเก่าช่องบก
ภารกิจนี้มีความอันตรายมากเนื่องจากต้องนอนในป่าที่ล้อมด้วยฐานทหารกัมพูชาและเส้นทางที่มีจำกัดยังไม่มีลวดหนามแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน มีความเสี่ยงที่จะถูกลอบวางกับระเบิดหรือเกิดการปะทะได้ทุกเมื่อ
เมื่อรถทหารช่างจอดเส้นทางจะไกลขึ้นทุกๆคืน ผมจะผูกเปลนอนเฝ้าบริเวณนั้นเพื่อรักษาความปลอดภัย ลูกน้องทั้ง 2คนมักพูดถึงลูกและงานในหน้าที่ที่ต้องเสียสละให้ผมฟังอยู่เสมอ
จริงๆน้องต่อเป็นพลอาสาได้รับเงินเดือน 9,000 และยังไม่ได้รับราชการแต่น้องมีความรักและเสียสละต่ออาชีพทหาร
หลังจากผมปฏิบัติหน้าที่ที่ช่องบก ระหว่างนั้นมีเหตุการณ์ทหารไทยถูกลอบวางทุ่นระเบิดทำให้สูญเสียขา 2 นายและเกิดการปะทะกันในวันที่ 24 ก.ค.68 ผมจึงถอนตัวจากช่องบกเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ที่ช่องอานม้า
ระหว่างนั้นมีการปะทะกันตลอดแนวชายแดนอย่างหนักตลอดทุกวัน น้องต่อเคยพูดกับผมว่าผู้หมวดอย่าทิ้งลูกกับเมียของผมนะ
ทุกครั้งที่ผมพาลูกน้องปฏิบัติหน้าที่ผมจะบอกเสมอว่าทุกคนจะปลอดภัย
ทุกครั้งที่ผมต้องตัดสินใจ ทุกคนก็พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ตามผมด้วยความเชื่อมั่นที่มีต่อผมไม่ว่าจะปฏิบัติภารกิจอะไรน้องต่อและหมู่พลจะมากับผมเสมอ ตลอดเวลาผมอยู่ในพื้นที่สู้รบตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
จนกระทั่งคืนวันที่ 28 มิ.ย.68 ผมได้รับภารกิจสำคัญที่จำเป็นต้องพาลูกน้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน ฝนตก และต้องแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ของฝ่ายตรงข้ามเพื่อเตรียมยึดพื้นที่คืนและปักธงชาติในคืนที่มีคำสั่งที่จะยุติการยิงของทั้ง 2 ฝ่าย
ผมเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการในครั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เราถูกยิงจากฝ่ายตรงข้ามจนน้องต่อได้เสียชีวิตลง หมู่พลมีอาการสาหัสในระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะมีคำสั่งหยุดยิงในเวลาต่อมา
น้องต่อไม่มีแม้โอกาสที่จะได้บอกลาครอบครัว
กระผมขอนำเงินที่คุณพ่อและคุณแม่มอบให้แก่ส่งต่อมอบให้แก่ครอบครัวน้องต่อส่วนหนึ่ง และครอบครัวหมู่พลส่วนหนึ่ง
เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารไทยทุกคนซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรีเพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติที่จะไม่ยอมให้ใครมารังแก
ขอให้คุณงามความดีส่งเสริมให้คุณพ่อคุณแม่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมีความสุขความเจริญ มีความรักความสามัคคีในความเป็นคนไทย
เงินทุกบาทมีคุณค่าและมีความหมายแม้อาจจะไม่ทำให้คนที่จากไปกลับคืนมาก็สามารถช่วยให้คนที่ยังอยู่ทุเลาความทุกข์ลงได้ ทุกคนล้วนเป็นครอบครัวของทหาร มีคุณค่าของชีวิตมีคนรักและครอบครัวรออยู่ไม่ต่างกัน
ผมขอเป็นตัวแทน ตท.รุ่นที่ 61 มอบเงินนี้ให้ครอบครัวของน้องทั้ง 2 คนครับ
จริงๆความตั้งใจนี้ป้อไม่ได้บอกใครยกเว้นคุณพ่อ ผมภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเพื่อนๆ จปร.72 ทุกคนครับ ขอบพระคุณครับที่ดูแลผมมาตลอดเวลาหลายปีจนกระทั่งจบ รร.นายร้อย
ส่วนตัวป้อถูกแรงอัดของระเบิด ทำให้อาเจียนเป็นระยะๆ หูข้างขวาดับ สะเก็ดฝังที่แขนขวา ปัจจุบันผ่าตัดออกแล้วอาการดีขึ้นมากครับเหลือแค่รักษาแผลผ่าตัดบริเวณต้นแขนและใต้ท้องแขนให้หายดี
เมื่อหายดีแล้วผมจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไปครับ…
“หมวดป้อ- ร.ต.ธนาวุธ เวชสงเคราะห์”