ทิวาสวัสดิ์ในวันเสาร์ กลับมาอีกครั้งกับการสัมภาษณ์ Police Cute Boy
รอบนี้มาพบกับ ร.ต.ท.ชาติชนก สุวรรณทรรภ รอง สว.(สอบสวน) กก. สส.บก.ตม.3 นักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 74 หรือ สมาร์ท หนุ่มเฮฮา มองโลกบวก แต่ไม่บวกกับใครมั่วซั่วนะจ๊ะ
สมาร์ท นรต.74 แต่กว่าจะมาสู่เส้นทางนี้ได้ก็ไม่ได้ง่ายและไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เพราะมีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง (พล.ต.ต.ทวีเกียรติ สุวรรณทรรภ อดีต ผู้ช่วย ผบช.ภ.5)
ก็เป็นความบังเอิญที่ในปีที่ “สมาร์ท” เกิดนั้น คุณพ่อได้รับยศเป็นนายพลพอดี เหมือนดั่งที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” สมาร์ทเลยมีปณิธานแรงกล้าที่อยากโตมาเป็นเหมือนคุณพ่อ ยิ่งเห็นการทำงานตลอดการรับราชการยิ่งทำให้ “เป้าหมายที่มีนั้นไม่เคยเปลี่ยน”
เริ่มฝึกฝนตัวเองเตรียมความพร้อมเพื่อให้สอบบรรจุเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ และสมาร์ทก็ทำสำเร็จในครั้งที่สอง ด้วยความใจสู้ทำให้สมาร์ทสอบได้ที่ 1 ในรุ่นเตรียมทหาร 58 (เหล่าตำรวจ)
นั่นก็นำความภาคภูมิใจในฐานะลูกชายตำรวจที่สามารถเดินตามรอยคุณพ่อได้ ด้วยความพยายามไม่ยอมแพ้ของตนเอง
สมาร์ท สมัยเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ได้เป็นหัวหน้าตอน 1-6 ด้วยคะแนนสอบเข้ามาเป็นอันดับที่ 1 ของเหล่าตำรวจ พอขึ้นเตรียมทหารปี 2 เพื่อนๆ เลยเลือกเป็นประธานเหล่าตำรวจ
ไม่เพียงแค่นั้น พอเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อนเลือกเป็นประธานรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 74 ผู้หมวดผู้กองเลือกเป็นผู้ช่วยผู้บังคับหมวด กองร้อยที่2ดูแลนักเรียนชั้นปีที่ 2
ในรั้วโรงเรียนทำให้สมาร์ทต้องพิสูจน์ตัวเอง เพิ่มความรับผิดชอบ ดูแลตัวเองทุกอย่าง
สมาร์ทสารภาพกับเราแบบติดตลกปนเขินว่า สมัยอยู่บ้านตัวเองไม่ค่อยได้มีระเบียบเรื่องพวกนี้มากนัก แต่พอเข้าในรั้วแล้วทุกอย่างต้องฝึกใหม่หมด อะไรที่ไม่เคยได้ทำก็ต้องทำ อะไรที่เคยเป็นความเคยชินก็ต้องฝืนเพื่อให้ปรับตัวได้ ข้อดีคือปรับตัวง่าย
เพื่อนเยอะ ส่วนวีรกรรม ด้วยดีเอ็นเอลูกตำรวจไฟแรงทำให้ไม่ค่อยมีนอกลู่นอกทางมากนัก
หลังจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สมาร์ท เลือกลงที่ “สน.ศาลาแดง” ในตำแหน่ง พนักงานสอบสวน เรียนรู้การทำงานจริงกับประชาชนที่ต้องรับอารมณ์ทุกวัน หลายรูปแบบ ด้วยนิสัยเป็นคนปรับตัวได้ หาทางออกได้ ทุกอย่างมีทางออก
สมาร์ทบอกกับเราว่า สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงการทำงานนั้น คือ การบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขประชาชนในเรื่องที่คนอื่นอาจจะมองว่าเล็กน้อยมากๆ
อย่าง โทรศัพท์หาย อยากได้คืน บางคนโทรศัพท์อาจจะใช้เวลาหาเงินไม่กี่บาทก็ซื้อมาได้ แต่สำหรับบางคนโทรศัพท์ คือ ความยากลำบากในการซื้อมา ยิ่งในยุคที่โทรศัพท์แทบจะเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย
พอเจอเคสลักษณะนี้เข้าไป แล้วตัวเองสามารถช่วยเหลือจนเขาได้รับโทรศัพท์คืน ทำให้ตัวเองนั้นมีความสุขที่เราได้ช่วยคน ยังเล่าติดตลกว่า จนถึงตอนนี้สมาร์ทยังเก็บรูปตอนคืนโทรศัพท์ให้คนนั้นได้
พอมองย้อนมาเราในฐานะพนักงานสอบสวน ยิ่งเราทำเรื่องไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่นั้นแก้ง่ายลงเท่าไหร่ ก็จะไม่ต้องไปตกเป็นภาระของพนักงานสืบสวนมากเท่านั้น ไม่เพียงแต่พิสูจน์ศักยภาพของเรา แต่ยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนในฐานะข้าราชการตำรวจอีกด้วย
แม้ปัจจุบันสมาร์ทจะเข้ามาเป็น “นายตำรวจติดตาม” พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ (พี่ตุ้ม) รอง ผบช.สอท. แล้ว แต่การมารับตำแหน่งนี้มาด้วยความสามารถล้วน ๆ ยิ่งใกล้นายยิ่งต้องพิสูจน์ความสามารถ รอบรู้ เป็นมือซ้ายมือขวาที่สำคัญ
ที่มาที่ไปของการก้าวขึ้นมาตรงนี้ได้ สมาร์ทย้อนไปช่วงเข้าเรียน “เตรียมทหาร” ได้เข้าหลักสูตรผู้หมวดปกครอง ต้องเล็งเห็นถึงความสามารถจากผู้ใหญ่ ประกอบกับจังหวะชีวิต ทำให้เข้ามาเป็น “นายเวร” เสมือนนักบริหารคนนึงต้องมีการวางแผน ภารกิจของผู้บังคับบัญชา ภายใต้การทำงานร่วมกับนายที่ลูกน้องในทีมอีกมาก หากทำพลาดก็คือพลาดทั้งทีม
ต้องช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของนาย ยิ่งเวลาบุกจับในงาน หรือลงทำงานพร้อมกับนาย การทำงานการวางแผน ถือเป็นช่วงที่ตื่นเต้นที่สุด เพราะเราต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม ให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ประสานงานต้องเป๊ะ
ระหว่างการสัมภาษณ์ สมาร์ทเป็นอีกคนที่ทำให้เราเห็นถึงการมองมุมบวกของการรับราชการตำรวจ มีความสุขในอาชีพ และมีแรงผลักดันอันแรงกล้า
อีกอย่างที่สำคัญ หนุ่มคนนี้เพื่อนเยอะมากกกกก แน่นอนว่ามาทางสายปาร์ตี้ เหนื่อยก็พัก ใจอยู่กับเพื่อน แต่ถือคติ ไม่เมาหัวราน้ำ “Work Hard Play Harder” หากมีเวลาว่างกิจกรรมกีฬาที่จะทำคือ เล่นตีแบด ตีกอล์ฟ ฟุตบอล
มาถึงพาร์ทที่เราลอยคอ เอ๊ย รอคอย คือ สเปคสาว ๆ ของหนุ่มสมาร์ท ซึ่งบอกกับเราตามตรงว่า ตอนนี้โฟกัสกับงานมาก คงดีถ้าได้คนสวยหน้ามนมาดูแลเทคแคร์ใจ ขอย้ำว่
“ถ้าได้ชอบใคร ผมจริงจังมากนะครับ”
“ศุพิต พ.” บันทึก10/2/65