Wednesday, December 3, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“อนุทิน”แถลงยึดทรัพย์หมื่นล้านเครือข่าย“ยิมเลียก-เบนสมิธ“ฟอกเงิน

    “อนุทิน”แถลงยึดทรัพย์หมื่นล้านเครือข่าย“ยิมเลียก-เบนสมิธ“ฟอกเงิน

    นายกอนุทิน นำแถลงบช.ก.ยึดทรัพย์ หมื่นกว่าล้าน เครือข่าย“ยิม เลียก”ลูกรองนายกฯ กัมพูชาและเบน สมิธ ฟอกเงินผ่านคริปโทฯ-อสังหาฯ ไทย

    เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.68ที่ ห้องแถลงข่าวชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการแถลงผลปฏิบัติการถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ  มีนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัยผบช.ก. และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง.

    ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จจากการปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 50 จุด ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดและยึดของกลางรายการสำคัญ ทั้งเรือยอชต์ รถหรู ที่ดิน และอายัดเงินในบัญชีรวมมูลค่ากว่า 10,165 ล้านบาท

    ”ยิมเลียก“ทุนเงินรายใหญ่เขมรต้องสงสัยฟอกเงิน

    การตรวจยึดทรัพย์คดีของนายยิม เลียก จุดเริ่มต้นมาจากการที่รัฐบาลเร่งจัดการปัญหาสแกมเมอร์และความมั่นคง มีการกล่าวถึงแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย เชื่อมโยงถึงบุคคลสำคัญในประเทศไทยที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว

    โดยเฉพาะกรณีนายยิม เลียก ลูกชาย รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประธานกลุ่มบริษัท BIC Group เครือข่ายทุนการเงินรายใหญ่ของกัมพูชา เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจของกัมพูชาซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีพฤติการณ์นำเงินจากการกระทำความผิดมาฟอกเงิน หรือใช้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย

    เส้นเงินเหยื่อกว่า700คนโอนต่อเป็นทอดๆไปบช.”ยิมเลียก“

    จากการสืบสวนเส้นทางการเงินผู้เสียหายเบื้องต้นกว่า 700 คน พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีกว่า 40 บัญชี  เจ้าของบัญชีดังกล่าว มีประวัติเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ และคดีร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยโอนเงินต่อกันเป็นทอดๆ ไปยังบัญชีของนาย ยิม เลียก ที่เป็นผู้ต้องหาในคดี มีการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทย 2 บัญชีธนาคาร

    พบความเชื่อมโยงถึง“เบนสมิธ”

    ขณะเดียวกันการสืบสวนยังพบความเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างยิม เลียก กับนายเบน สมิธ นักธุรกิจต่างชาติที่ถูกสหรัฐฯ จัดอันดับอยู่ในกลุ่มบุคคลเสี่ยงเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ระดับนานาชาติ

    ทั้งคู่มีบริษัทในไทยที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน มีการถือหุ้นไขว้ระหว่างภรรยาของทั้งสองฝ่าย เฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการบินส่วนตัว เป็นรูปแบบธุรกิจที่ถูกใช้ในการอำพรางเส้นทางเงินผิดกฎหมายบ่อยครั้ง

    ทั้งสองคนเป็นศูนย์กลางรับและกระจายเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์ รวมไปถึงทำหน้าที่สนับสนุนโครงสร้างธุรกิจเนื่องจากทั้งสองคนมีเส้นสาย ความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีอำนาจในประเทศกัมพูชาทำให้มีความสามารถในการหลีกเลี่ยงตรวจสอบ

    ตั้ง”รองธนา-ผู้ช่วยก้อง“คุมคดีขอหมายจับ42คน

    หลังสืบทราบแน่ชัด พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. มอบหมาย  พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.

    ตั้งทีมสืบสวนสอบสสวประกอบด้วย พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผบช.ก.พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จัดชุดสืบสวนสอบสวน จนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 42 คน

    ข้อหา “เป็นหัวหน้าอั้งยี่, ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

    เปิดฉากค้น50จุด22จว.ยึดทรัพย์1หมื่นล.

    ก่อนเปิดปฏิบัติการลุยตรวจค้น 50 จุดใน 22 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหาที่เป็นบัญชีม้าได้ 29 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว 13 คน ในจำนวนนี้มี 3 คนที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศประกอบไปด้วย นายยิม เลียก, ภรรยาชาวไทย และบัญชีม้าคนสำคัญของเครือข่าย จนนำมาสู่การอายัดทรัพย์สินขบวนการดังกล่าว กว่า 75 รายการ ทั้งรถยนต์หรู สมุด บัญชีธนาคาร ที่ดินหลายแปลง เงินสด รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท

    ต่อมานายอนุทิน เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามถึงประเด็นความเชื่อมโยงกับบุคคลระดับสูง โดยเฉพาะกรณีที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมว.คลัง และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ารู้จักกับ “นายเบน สมิธ” หนึ่งในตัวละครสำคัญของเครือข่ายนี้

    ”อนุทิน“แจง“ธรรมนัส”รู้จัก“เบนสมิธ”

    นายอนุทินชี้แจงว่า การรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ในทางปฏิบัติ  ได้มอบนโยบายชัดเจนว่าให้ดูที่การกระทำเป็นหลัก หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ต้องดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดโดยไม่มีการละเว้น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีชื่อเสียงเพียงใด

    ยึดหลักการทำงานที่ว่า “ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม” คือไม่ต้องสนใจว่าเป็นใคร แต่ให้ดูพฤติการณ์การกระทำความผิด หากตนไม่ดำเนินการเช่นนี้ ก็จะตกเป็นผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียเอง

    เพิกถอนสัญชาติไทย“ยิมเลียก“

    นอกจากนี้ นายอนุทินยังเปิดเผยถึงมาตรการเด็ดขาดต่อกลุ่มทุนสีเทาที่แฝงตัวเข้ามาได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ดำเนินการ เพิกถอนสัญชาติไทยของ นายยิม เลียก (Mr. Leak Yim) ประธานกรรมการ BIC Bank ธนาคารพาณิชย์กัมพูชา

    ตรวจสอบพบว่าได้สัญชาติไทยมาจากการสมรสกับหญิงไทย (หมวด 6) โดยให้ดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกับรายอื่นๆ ที่ถูกเพิกถอนไปก่อนหน้านี้

    ตอนท้ายของการแถลง นายอนุทิน ในฐานะผู้นำรัฐบาล ได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ปปง. ดีอี และกระทรวงยุติธรรม ที่ทุ่มเททำงานหนักท่ามกลางความเสี่ยง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้แม้เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 8 สัปดาห์ แต่ให้ความสำคัญสูงสุดกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

    ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย และจะเดินหน้ากวาดล้างขบวนการเหล่านี้ต่อไปอย่างไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นช่วงปีใหม่หรือเทศกาลใด

    ลั่น I can always catch you (ฉันจับแกได้เสมอ)

    “อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีการพัฒนาตลอดเวลา เหมือนกับวลี Catch me if you can (จับฉันให้ได้ถ้านายแน่จริง) แต่ในฐานะรัฐบาลและผู้รักษากฎหมาย เราต้องตอบกลับไปว่า I can always catch you (ฉันจับแกได้เสมอ) เราจะไม่หยุดปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments