Thursday, September 19, 2024
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.15

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.15

    รถเมล์สีครีมแดงเร่งตะบึงไปในเส้นทางที่โล่งในช่วงสายวันหนึ่ง

    โชเฟอร์สาววัยใกล้สี่สิบท่าทางอารมณ์ดีครึ้มอกครึ้มใจ พูดคุยกับกระเป๋ารถเมล์สาวรุ่นน้องอย่างสนุกสนาน ระหว่างทำหน้าที่สารถีรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางรถเมล์สายนั้น

    “โอ๊ย ถ้าพี่อารมณ์ดีล่ะก้อ ขับเร็วกว่านี้อีก เพียงแต่นี่ไม่อยากเหยียบคันเร่งมากนักหรอก เดี๋ยวรอบมันจะเร็วเกินไปน่ะสิ”  

    หล่อนคุยอย่างถูกคอกับลูกน้องคุู่ใจที่นั่งอยู่หลังเบาะคนขับ มือถือกระบอกตั๋วพาดกับราวจับเหนือเก้าอี้นั่งผู้โดยสารที่ได้แต่ยิ้มรับพยักหน้าหงึกหงึก ขณะที่รถแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลมพัดแรงอื้ออึงผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาจนแทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ยวดยานที่แล่นอยู่บนท้องถนน

    หลังจากถึงป้ายรถเมล์จุดหมายปลายทาง ข้าพเจ้าลงเดินข้ามถนนช่องทางคู่ขนานด้านซ้ายไปขึ้นสะพานลอยคนข้ามที่อยู่ด้านขวาของรถเมล์คันน้้น เดินขึ้นสะพานลอยไปยังป้ายรถข้างวัดเพื่อนั่งรถสองแถวเล็กสีแดงเลือดหมูต่ออีกทอดหนึ่งกลับเคหสถานพักพิงตามปกติ รถสองแถวจอดรอผู้โดยสารมาก่อนสักระยะหนึ่งไม่นาน

    พอก้าวขึ้นด้านท้ายรถได้ที่นั่งเรียบร้อย มองไปที่นั่งฝั่งตรงข้ามเยื้องไปทางด้านท้ายของห้องโดยสาร มีชายชราอายุคะเนคงไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบปีนั่งอยู่ สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนคล้ายเสื้อช็อปของคนทำงานแบบช่างหรือวิศวกรอะไรสักอย่าง

    กางเกงขายาวสีน้ำตาล มีรอยเย็บด้วยผ้าแถบสีเงินบริเวณช่วงเข่า รอบขากางเกงทั้งสองข้าง ฝีเย็บของด้ายไม่ประณีตเท่าที่ควร มือถือสมุดเล่มคล้ายสมุดบันทึกไดอารี่ และมีปากกาสองสามด้ามเหน็บที่กระเป๋าเสื้อบริเวณหน้าอกด้้านซ้ายและช่องเหน็บปากกาที่ต้นแขนซ้ายอีกสองด้าม

    สังเกตที่แววตาของชายชราที่ดูเหมือนซึมเซาไม่สดใส หนวดสีดอกเลาเหนือริมฝีปากรับกับเส้นผมสีเดียวกันที่ยังคงดกหนา ดูเหมือนชีวิตที่ไหลเลื่อนผ่านมาทุกเวลานาทีนานนับไม่ถ้วน ไม่มีอะไรหลงเหลือให้อยากรู้อยากเห็นจากท่าทีเนือยเนือยของเขา

    แต่นั่นเป็นบุคลิกลักษณะที่มองจากคนนอกไม่เคยรู้จักความเป็นไปของชายชราแม้แต่น้อย อาจตัดสินเอาอย่างง่ายง่ายว่าคงมีชีวิตที่หงอยเหงาประมาณหนึ่งหรือไร้สิ้นแรงบันดาลใจหรือไฟมอดหมดแล้ว

    หากแต่ในดวงความคิดของเขาอาจจะยังโลดแล่นตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในคลองสายตาของเขาก็เป็นไปได้ ไม่มีใครล่วงรู้ได้เท่ากับตัวของชายชราเอง เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกให้ใครรับรู้เท่านั้น

    เมื่อถึงจุดที่ต้องการลง ชายชรากดกริ่งบอกคนขับรถสองแถวรับรู้ แล้วลงจากรถสองแถวเมื่อจอดสนิท พร้อมกับเดินไปยื่นเงินค่าโดยสารให้กับโชเฟอร์สองแถว ก่อนไปยืนรอข้ามถนนตรงทางม้าลายที่มีสัญญาณไฟแดงเขียวให้คนข้ามอย่างปลอดภัยที่สุด

    ข้าพเจ้าได้แต่นั่งคิดต่อยอดไปอีก ชายชราที่ท่าทางร่างกายยังมีเรี่ยวแรง คงจะทำงานสักอย่างหนึ่ง ไม่ใช่แค่คนวัยเกษียณออกเดินทางท่องเที่ยวคลายความเหงาในชีวิตบั้นปลายเท่านั้น เขาคงยังคิดถึงแผนการทำงานในแต่ละวันก็เป็นไปได้เช่นเดียวกับคนหนุ่มคนสาววัยทำงานทั้งหลาย เพียงแต่ไม่ได้มีเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนเดินทางพูดคุยกันเท่านั้นเอง ชีวิตคือการเดินทาง เมื่อปากต้องกินกายต้องอบอุ่น หากหยุดนิ่งก็อาจสิ้นสุดการเดินทางเมื่อใดก็ได้

    ยิ่งเป็นคนชราที่โดดเดี่ยว หากมีญาติบุตรหลาน คงไม่ต้องดิ้นรนขึ้นรถลงเรือไปทำงานสักแห่งใดแห่งหนึ่ง เมื่อชีวิตต้องกินต้องใช้ จึงไม่ได้มีโอกาสที่หยุดพักอย่างคนที่มีสถานภาพทางทรัพย์สินหรือที่เก็บหอมรอมริบอย่างมีระเบียบแบบแผนและมีวินัยอย่า่งเข้มงวดจริงจังทั้งหลาย ดังนั้นชายชราคนนี้จึงต้องเดินหน้าจัดการกับชีวิตของตัวเองต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ข้าพเจ้ายิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าใช่ ทำไมน่ะหรือ อย่าคิดว่ามีแต่คนธรรมดาฐานะหาเช้ากินค่ำจะต้องดิ้นรนไปตลอดชีวิตจนกว่าจะสิ้นลมหายใจเท่านั้นลองตรองดูให้ดี ยิ่งคนมีสถานภาพสูงส่ง มีสถานะทางการเงินมั่งคั่งยั่งยืน มีกินมีใช้ชั่วลูกหลานหรือแม้กระทั่งชาติหน้าถ้าได้เกิดมาในตระกูลเดิมก็ยังคงเหลือกินเหลือใช้ พวกเขาเหล่านั้นยังไม่ยอมหยุดการทำมาหากิน มีแต่คิดจะกอบโกยสะสมทรัพย์ศฤงคารให้มากพูนเพิ่มมหาศาลเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่ทุกขณะจิต

    คิดกระหวัดถึงความเป็นจริงตรงหน้า แม้แต่ผู้ทรงอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ ยังแสวงหาโอกาสที่จะกอบโกยบนขุมมหาสมบัติที่อ้างอย่างสวยหรูว่าเป็นของประชาชน แต่หามีเจ้าของสมบัติรายใดคิดขวางสกัดขบวนการแทะทึ้งฉีกเนื้อเถือหนังเหยื่อที่ยอมศิโรราบแม้แต่ใครสักผู้เดียว

    พวกละโมบโลภโมโทสันยิ่งเหิมเกริมหนักข้ออย่างไร้สำนึกเหนียมอายผู้คน ขนครอบครัวญาติพี่น้องเข้ามารุมทึ้งผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่เอิกเกริกอย่างที่เห็นเห็นอยู่เวลานี้

    ข้าพเจ้าคิดไปเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกชินชากับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศนี้ไปเสียแล้ว ก่อนกดกริ่งให้รถสองแถวหยุดเพื่อลงจากวิถีสองแถวที่ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์บนถนนย่านนี้มาตลอดหลายทศวรรษ และคงจะต้องโลดแล่นบนเส้นทางนี้ต่อไปอีกหลายทศวรรษเช่นเดียวกัน

    8/9/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments