จู้กหู้กกู้กราบสวัสดีรอบวงกลม
ชัยชนะต่อโคเปนเฮเก้น ช่วยต่อลมหายใจบนถ้วยยุโรปให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากลูกโหม่งของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
หลังจบเกมแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ให้สัมภาษณ์ ต้องบอกว่าผมรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ
“การลงเล่นให้กับสโมสรใหญ่แห่งนี้ แน่นอนมันมีทั้งช่วงดีและไม่ดีเกิดขึ้นสลับไปมาอยู่เสมอ เมื่อชนะ มันเหมือนกับเราอยู่บนสุดของโลก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผลงานไม่เป็นใจ มันกลายเป็นวิกฤติเสมอ และจะต้องมีการหาคนผิดตลอด
การเล่นให้สโมสรใหญ่ หมายถึงคุณต้องเจอการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ในตำแหน่งเซนเตอร์ของทีมเรามีการแข่งขันมากมายจากผู้เล่นชั้นยอด”
มันสะท้อนเลยว่าแม้จะโดนริบปลอกแขนกัปตันทีม แม้จะโดนลดขั้นไปเป็นเซนเตอร์ทางเลือกสุดท้ายของทีม
แต่สิ่งที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มีติดตัวมาตลอดจนสร้างให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาว่ามันเป็นเรื่องของวิถีมืออาชีพ ก็คือชุดความคิดแบบมืออาชีพจริงๆของตัวเขาเอง
เมื่อตัวเขาเองมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในระยะหลัง คือเหตุผลที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานเรื่องของฟุตบอลล้วนๆ เขาก็ตั้งต้นตัวเองด้วยแนวคิดว่าถ้าจะกลับมาก็ต้องใช้ ‘วิถีมืออาชีพ’ เท่านั้นถึงจะเหมาะสมที่สุด
เราจึงเห็นว่าแม้จะโดนลดสถานะไปแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ไม่เคยทำเลยก็คือการ ‘ปล่อยจอย’ จากหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง นั่นก็คือการฝึกซ้อมและรอคอยโอกาส
ยิ่งคำว่า ‘รอคอยโอกาส’ นี่ยิ่งสำคัญ เพราะถ้าเป็นนักฟุตบอลนิสัยเสียบางคน คง ‘อยู่ไม่เป็น เย็นไม่พอ รอไม่ได้’ และคิดจะสร้างประเด็นนอกเหนือ ‘วิถีมืออาชีพ’ เพื่อแสดงตัวตน(แบบผิดๆ)ออกมาเป็นการตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาไปแล้ว !!!
การปฎิบัติตัวแบบมืออาชีพนี่แหละ ที่เป็นจุดสำคัญมากที่สุดที่เขาสมควรได้รับการยกย่องเชิดชู แถมสามารถเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นๆได้ด้วย
เป็นตัวอย่างในแง่ว่านี่คือการทำงานของมืออาชีพที่อยู่ภายใต้บริบทแวดล้อมของสโมสรใหญ่ที่มีการแข่งขันภายในสูง เพราะแบบนั้นการจะพิสูจน์ตัวเองกับปัจจัยแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ก็เรียกร้องความเป็นมืออาชีพในการทำงานที่สูงตามไปด้วย อย่างน้อยๆมันทำให้เห็นครับว่า …
ถ้าแค่ไม่ว่าชีวิตเจอวิกฤติอะไรถาโถมเข้าใส่ ขอเพียงมีชุดความคิดตั้งต้นที่ถูกต้องไว้ก่อน ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงให้อะไรๆมันดีขึ้น
กราบหัวใจ แฮร์รี่ แม็คไกวร์