Saturday, November 23, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันไม่มีที่อยู่สำหรับผู้อ่อนแอ

    ไม่มีที่อยู่สำหรับผู้อ่อนแอ

    “ไม่มีที่อยู่สำหรับผู้อ่อนแอ….”มอตโต คอมมานโด กองปราบฯ

     

    นอกจาก เดอะต่อ-พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. และเหล่ารองผกก.ปพ.ที่มีดีกรี จบหลักสูตรต่อต้านการก่อร้าย ทั้งในและต่างประเทศ มาเป็นครูฝึกผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งนอกและในหน่วยแล้ว 

    กากีกลาย จะพาไปชำแหละเขี้ยวเล็บกำลังพลส่วนหนึ่ง ของหน่วยงานปฏิบัติการพิเศษของตำรวจหน่วยนี้ แต่ละนายมีดีกรีอะไรบ้าง

     

    เริ่มจาก สารวัตรเจษ-พ.ต.ต.เจษฎา โสมนัส  สว.กก.ปพ.บก.ป. ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ร้อย1 

    จบเตรียมทหาร รุ่นที่ 43 ตำรวจ รุ่น 59  จบมาเป็นพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ได้ 2 ปี ผกก.ต่อศักดิ์  ดึงมาอยู่ที่คอมมานโด ตั้งแต่ยศ ร.ต.ท. แล้วอยู่ยาวมาเลย

     

    สำหรับหลักสูตรพิเศษ หลักสูตรแรก คือ โดดร่มแบบดิ่งพสุธา เป็นหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  

     

    ถามว่าทำไมอยากฝึก เพราะความประทับใจสมัยที่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ได้ไปฝึกร่ม แล้วเห็นครูเขาติดปีกอันนี้ ดูมีความเข้มขลัง ก็ใฝ่ฝันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีโอกาส เลยสมัครไปเรียนหลักสูตรนี้ โดดร่มดิ่งพสุธา แล้วปกติเป็นคนชอบกีฬาทางอากาศ นอกจากกระโดดร่มแล้ว  ยังเล่นร่มบินพารามอเตอร์ ก็เลยชอบ 

     

    สารวัตรเจษเล่าต่อว่า จากนั้น มีโอกาสฝึกการรบแบบจู่โจม ของกองทัพบก ที่โรงเรียนสงครามพิเศษลพบุรี

     

    ที่อยากฝึกเพราะอยากไปเรียนรู้วิชาทหาร เป็นอันดับแรก เพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง เอามาพัฒนาหน่วย แล้วอีกอย่างหนึ่งต้องยอมรับว่า การไปจบหลักสูตรต่างหน่วย เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเหล่า และหน่วยงาน

     

    ถามว่าหนักมั้ย ก็ไม่เกินความอดทนของคน เหนือสิ่งอื่นใดคือ ไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว ถ้าร่างกายแข็งแรง แต่จิตใจไม่แข็งแรง ก็มีลาออก เป็นรุ่นที่ 123 ของโรงเรียนสงครามพิเศษ จบตอนนั้นยศ พ.ต.ต.ไปเรียนตอนอายุเยอะแล้ว  

                     

    ที่มาอยู่กองปราบ อยู่หน่วยคอมมานโด ก็ได้ใช้สิ่งที่ฝึกมา คือมาอยู่ที่นี่ สิ่งหนึ่งที่จะต้องมีเลยอันดับแรก คือ ภาวะผู้นำ หลังจากนั้น ก็ต้องมีความเป็นครูในตัว 

     

    หลักสูตรที่เราเรียนมา ถ้าเราไม่ถ่ายทอด ก็ตายไปกับเรา ไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่ถ้าเราถ่ายทอดออกไปได้  ผมว่า ยิ่งกว่าที่เราไปจบมา แล้วเราอยู่เฉยๆ ฝึกให้รุ่นน้องต่อไป

     

    สารวัตรปริญ-พ.ต.ต.ปริญญา เอิบอาบ  สว.กก.ปพ.บก.ป. ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ร้อย 2 

    เด็กหนุ่มจ.นครสวรรค์ อ.บรรพตพิสัย เห็นรุ่นพี่ๆ มาแนะแนวการศึกษา ที่โรงเรียนลาซาล โชติรวี นครสวรรค์  ดูเท่ห์ บุคลิกดี หลังตรง ใส่เครื่องแบบเท่ด้วย ก็เลยปรึกษาพ่ออยากไปกวดวิชา ปีแรกก็สอบติด ได้เห็นแนวทางใหม่ๆ ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่โรงเรียนเตรียมทหาร  ทำให้มีความเป็นนักรบเกิดขึ้น

     

    เรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 45 แล้วไปเข้าโรงเรียนนายเรือ รุ่น 102  สอบติด 3 เหล่า ติดตำรวจด้วย แต่คนอยากเป็นตำรวจเยอะ เลยต้องติดทหารเรือ แต่ก็เลือกตำรวจน้ำไว้ ยังไงก็ตำรวจเหมือนกัน 

                    

    เรียนจบปี 2551 ฝึกมนุษย์กบเลยทันที ระยะเวลา 8 เดือน ตามมาตรฐานหน่วยซีลไทย ตอนนั้น เป็น รอง สว.ตำรวจน้ำ จ.สตูล

     

    จากนั้นไปฝึกหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายสากล นเรศวร 261 อีก 4เดือนครึ่ง ก่อนจะมาเป็นผู้ช่วยนายเวร  พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ตอนนั้นท่านเป็นรองผบ.ตร.  

                    

    ที่ไปฝึก อยากจะรู้ว่าเป็นยังไง ความรู้ความสามารถเราจะทำได้รึเปล่า  เหมือนเป็นแรงบันดาลใจในการทำอะไรที่ท้าทาย เพราะมันเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ยากมาก

     

    ต้องผ่านขีดความสามารถของร่างกายตัวเองที่คิดว่ามีอยู่ แต่ความจริงร่างกายตัวเองมันมีมากกว่านี้  อย่างรุ่นผมไปเทสต์ร่างกาย 102 คน เรียนจริง 73 จบออกมา 30 คน ที่ผ่านเลย  มาตรฐานเขามีอยู่  

     

    ตอนนี้สิ่งที่ต้องควบคู่กันไปด้วยคือการสร้างบุคลากร  กำลังพลของกองร้อย ได้รับการสนับสนุนจากท่าน ผกก.ต่อ ให้ไปฝึกอบรมทุกหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรคอมมานโดทหารอากาศ ไม่ว่าจะหลักสูตรเสือคาบดาบของกองทัพบก หลักสูตรส่งทางอากาศทุกเหล่าทัพ

     

    ล่าสุดก็หลักสูตรนเรศวร 261  กำลังพลส่วนใหญ่ไปฝึกหลักสูตรนี้กันหมด จบมาจะได้เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษเต็มตัว

                     

    สารวัตรก๊อต-พ.ต.ท.วรา พงษ์ศิริ สว.กก.ปพ.บก.ป. ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ร้อย 5 ควบคุม รถวิทยุสายตรวจ และ รถอารักขา(รถนำขบวนและอารักขาบุคคลสำคัญต่าง ๆ)

    จบม.4 จากสาธิตเกษตร วิทยาเขตกำแพงแสน ศึกษาต่อ โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 42 โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 58 จบหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย (นเรศวร 261 รุ่นที่ 11) 

     

    เจ้าตัวบอกเหตุที่ไปฝึกเพราะ ต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม นำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และ ฝึกสอนข้าราชการตำรวจในหน่วยเพิ่มเติมให้รู้จักใช้ยุทธวิธีตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่  ในปัจจุบันนี้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน  ได้รับความเมตตาจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา (ผบ.ตร.) ให้ไปฝึกที่ค่ายนเรศวร

     

    แรงบันดาลใจที่มาเป็นตำรวจ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือผู้การแก่-พล.ต.ต.อัครชัย  พงษ์ศิริ  ผู้เป็นบิดา ที่ปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการตำรวจอาชีพด้วยความเสียสละ

                     

    สารวัตรเกม พ.ต.ต.ศตวรรษ คนชุม ผบ.ร้อย 6

     

    ประวัติคร่าวๆ จบ ม.ปลายที่ราชสีมาวิทยาลัย สอบเตรียมทหาร ติดรุ่น 47 นรต.รุ่น 63 เลือกตำรวจเลย ตั้งใจอยู่แล้ว ชอบ เพราะวัยเด็กชอบตำรวจพลร่ม  เห็นญาติเคยอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ  เลยตั้งใจอยากจะเป็นตำรวจพลร่มตั้งแต่ตอนนั้น

     

    บรรจุครั้งแรกที่ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร  อยู่ตั้งแต่ปี 2553-2556 จากนั้นก็ผันตัวเอง มาอยู่ที่สืบจังหวัดอุดรธานี ต่อมาก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่ต่อ ให้มาทำงานที่นี่ ตอนนั้นยศ ร.ต.อ.ถึงตอนนี้ ตำแหน่ง สว.กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ  

                   

    หลักสูตรพิเศษที่ฝึก  มีหลักสูตรนเรศวร 261  รุ่น 11  หลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม รุ่น 39  ฝึกตอนอยู่ที่ค่ายนเรศวร ส่วนหลักสูตรนเรศวร 261 เป็นหลักสูตรในค่าย เพราะเราอยู่พลร่ม

     

    แล้วถูกส่งไปฝึกหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ก็สมัครใจ ค่ายอนุเคราะห์ให้ไปอบรม แล้วยังมีอบรมหลักสูตรพื้นฐานของโรงเรียนนายร้อย

     

    ความรู้จากหลักสูตรนเรศวร 261  ได้ใช้ในหน้างานของคอมมานโด ค่อนข้างพอสมควร ส่วนในเรื่องของหลักสูตรมนุษย์กบที่ไป ก็ได้ในเรื่องแนวคิดการฝึก เขาจะสอนให้เรารู้ว่า แต่ละช่วงคุณต้องฝึกเรื่องอะไร เขาจะแยกเลย

     

    แล้วก็แนวคิดอะไรต่างๆ ทำให้เราคิดเป็นระบบ  ยึดภารกิจเป็นสำคัญ แต่ละขั้นตอนก่อนที่จะไปถึงจุดมุ่งหมาย คุณต้องแก้ปัญหาของคุณไปเอง แล้วพัฒนาความสามารถในหลายๆด้าน ที่ตำรวจทั่วไปอาจจะไม่มี 

     

    สิ่งที่ได้จากการฝึกหลักสูตรนี้ เช่น การดำน้ำ การสำรวจหาด การปฏิบัติแบบหน่วยรบพิเศษ แนวคิดแบบทหาร เพราะบางทีมีโอกาสที่จะต้องทำงานร่วมกับทหาร

     

    เพราะฉะนั้น  ต้องรู้แนวคิดเขาเป็นยังไง  ทำงานกันยังไง  เผื่อไว้ ตอนนั้นที่ไปเพราะว่าใจชอบอยู่แล้ว ใจรักอยู่แล้ว พอไป ก็เลยได้รับความรู้ที่เขาถ่ายทอดให้มา ก็เอามาปรับใช้กับชีวิต ไม่ว่าจะในเรื่องการทำงาน เรื่องแนวคิดอะไรต่างๆ

     

    มันจะสอนให้เรามีความอดทนมากกว่าคนอื่นๆ แล้วมองเรื่องของงานเป็นหลัก คือจะต้องบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

     

    คนนี้ ไม่ธรรมดา ผู้กองจี รอง สว.กก.ปพ.บก.ป. รองผบ.ร้อย 1 สยบริปูสะท้าน 

     

    เจ้าตัวขอปิดชื่อนามสกุลจริงและรูปถ่ายเพื่อสะดวกในการปฎิบัติหน้าที่ เป็นคนลพบุรี  จบ ม.6 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย  เริ่มชีวิตราชการด้วยการสอบเข้าเรียนนักเรียนจ่าทหารเรือ หลังจากนั้น สอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 64   

    จบหลักสูตรมนุษย์กบ กองทัพเรือ ที่ตั้งใจจะจบหลักสูตรนี้ เพราะความตั้งใจครั้งแรก มาจากแบบอย่างของผู้ที่สำเร็จหลักสูตร คือคนที่จบมา การปฏิบัติงาน วินัยต่างๆ  ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บังคับบัญชา 

     

    อีกอย่าง หลักสูตรนี้ พูดง่ายๆ ตรงๆ ก็คือ เป็นการพิสูจน์ตัวเอง อยากชนะตัวเอง นอกเหนือจากปัจจัยต่างๆ ก่อนนี้จะไปฝึกสวาทแอดวานซ์ และรีคอน ฝึก 3 เดือน

     

    ที่เลือกหลักสูตรของทหารเรือ  1. เคยฝึกกับทหารเรือมาก่อน  อีกอย่างคือทหารเรือ ช่วงนั้นมีการเปิดหลักสูตรให้ตำรวจฝึก เราศึกษาแล้ว  ก็ไปแล้วก็เป็นความชอบส่วนตัวด้วย  

     

    สวาทแอดวานซ์อันนี้ ฝึกที่ค่ายนเรศวร เป็นหลักสูตรยุทธวิธีตำรวจ จะคล้ายกับหลักสูตรนเรศวร 261 แต่ระยะเวลาการฝึกสั้นกว่า  

     

    แล้วก็มีหลักสูตรที่ไปโดดร่มเทียบทหารเรือ ที่ไปเทียบทหารเรือ เพราะมีส่วนที่เพิ่มเติมคือโดดลงน้ำขั้นตอนการลงน้ำ ก็ไปศึกษาหาความรู้เพิ่ม ขั้นตอนเขาทำกันยังไง

     

    เมื่อวันหนึ่ง เราปฏิบัติภารกิจโดดร่ม ลงพื้นที่ ที่มันไม่ใช่พื้นดินอย่างเดียว บางแห่งเป็นน้ำ จะทำยังไง ก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติม  

    สำหรับตำรวจชั้นประทวนของคอมมานโด กองปราบฯที่ไปจบหลักสูตรหินๆของทหารก็มีเช่นกัน อย่าง  ส.ต.ท.สกล อินทร์ไกร  ผบ.หมู่กก.ปพ.บก.ป.

     

    จบหลักสูตรการรบแบบจู่โจม รุ่นที่ 49 (เสือคาบดาบ)ศูนย์การทหารม้า กองทัพบก  หลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิด รุ่นที่ 14 กองสรรพาวุธ ตร.  หลักสูตรอากาศโยธิน รุ่นที่ 65 กองทัพอากาศ

     

    หลักสูตรโดดร่มแบบกระตุกเอง รุ่นที่58 กองทัพอากาศ หลักสูตรส่งทางอากาศ นาวิกโยธิน เทีบรุ่น 62 กองทัพเรือ และหลักสูตร ช่างซ่อมอาวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุง รุ่นที่ 9 กรมสรรพวุธ ตร. 

     

    อีกคนคือ สต.ท.กฤษดา ทัพขวา ผบ.หมู่กก.ปพ.บก.ป. จบหลักสูตรการรบแบบจู่โจม รุ่นที่ 118 ศูนย์การทหารราบ หลักสูตรโดดร่มแบบกระตุกเอง รุ่นที่220 ค่ายนเรศวร

     

    หลักสูตร สยบริปูสะท้าน รุ่นที่ 29 กองปราบปราม  หลักสูตรพลซุ่มยิง รุ่นที่3 สตช. และหลักสูตรช่างซ่อมอาวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุงรุ่นที่ 9  

     

    ไม่ธรรมดานะครับ คอมมานโด ยุคนี้ สมกับมอตโตที่ว่า

     

    “ไม่มีที่อยู่สำหรับผู้อ่อนแอ….” 

     

    กากีกลาย15/2/61

    ปัจจุบันทั้งหมดย้ายไปอยู่ในสังกัดกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments