วันที่ 6 มิ.ย.พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. ร.ต.อ.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก. ป.
นำกำลังจู่โจมจับกุมนายฤทธิรงค์ อายุ 40 ปี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นพร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก
จับได้ภายในสวนปาล์ม หมู่ที่ 4 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า เมื่อปี2547 นายฤทธิ์รงค์ เปิดอู่ซ่อมรถยนต์อยู่ที่อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เกิดไปมีเรื่องกับเจ้าของอู่เจ้าถิ่น เกิดการชกต่อยกันหลายครั้ง
วันเกิดเหตุ นายฤทธิ์รงค์กับน้องชายกำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ที่ร้านอาหารในจังหวัดสิงห์บุรี เกิดไปเจอกับคู่อริที่มานั่งดื่มเหล้าในร้านเดียวกันอีก จึงเกิดชกต่อยกันอีกครั้ง ก่อนจะมีคนมาห้ามและแยกย้ายกันไป
ขณะนายฤทธิ์รงค์กับน้องชายขับรถกลับบ้าน เจอคู่อริเดิรออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ผู้ต้องหาจึงให้หยุดรถชักปืนยิงคู่อริจนเสียชีวิต
แต่ขณะหลบหนีกลับไปอยู่บ้านที่จ.นครปฐม เกิดไปมีเรื่องใช้ปืนยิงใส่เพื่อนบ้านบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีออกจากพื้นที่ไป
กระทั่งเจ้าหน้าที่กก.5.บก.ป. สืบทราบว่า หลบหนีมารับจ้างตัดปาล์มอยู่ที่จ.กระบี่ จึงจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวนให้การรับสารภาพ นำตัวส่ง สภ.เมืองสิงห์บุรี ดำเนินคดีต่อไป
อีกคดี พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.สั่งการพ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป.
นำกำลังจับกุมนายนิคม อายุ 50 ปี ข้อหาร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ, บุกรุกเคหสถาน ซ่องโจร, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น กักขังหน่วงเหนี่ยวและแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน
จับได้ที่หน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ ม.3 ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2561 นายนิคม หนึ่งในแก๊งเจ็ดคนร้ายเแอบอ้างเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ใช้ปืนจึ้จับตัวนายมาโนช อายุ 52 ปี เจ้าของบ่อปลาอยู่ที่อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
ค้นตัวเอาเงินสด 38,000 บาท ปืน 2 กระบอก ทองรูปพรรณ จำนวนหนึ่งไป ก่อนให้เหยือโทรติดต่อญาติโอนเงินมาให้อีก 4 แสนบาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
หลังได้เงินคนร้ายได้ปล่อยตัวที่ห้างสรรพสินค้าในจ.กาญจนบุรี ก่อนญาติพาเข้าแจ้งความ
ตำรวจขอศาลออกหมายจับคนร้ายทั้ง 7 คน ตามจับได้แล้ว 5 คน เหลืออีก 2 คนที่ยังหลบหนี
ชุดจับกุมกก.5.บก.ป.ได้เบาะแสว่านายนิคม หนีมาอยู่ในอ.เมืองกาญฯ จึงจับกุมตัวได้ สอบสวนให้การรับสารภาพ นำตัวส่ง สภ.อู่ทองจ.นครปฐม หลังจากนี้จะติดตามหาตัวคนร้ายรายสุดท้ายมาดำเนินคดีต่อไป
