จำเริญ วรทอง ฉลามดำฝ่าคลื่นการเมือง

หากพูดถึง ฉลามดำ ปากน้ำโพ ชุดสืบสวนในตำนานของ จ.นครสวรรค์ ต้องย้อนไปก่อนหน้าเมื่อประมาณปี 2524  เมื่อพล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ อดีต ผบช.ภ.4 สร้างทีมสืบนี้ไว้ เมื่อครั้งเป็นผู้กองเมืองปากน้ำโพ ครั้งแรก

สมาชิกฉลามดำที่ขึ้นชื่อคุ้นหูติดปากมาถึงบัดนี้ นอกจาก บิ๊กน้อย-สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ นรต.29 ที่เกษียณอายุไปแล้ว ยังมี พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ จ.ตร.กองตรวจราชการ 6  พล.ต.ต.เฉลิม สุวรรณรัตนโอสถ รองจ.ตร  พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์  ส่วนฉลามดำชั้นประทวน อาทิ ร.ต.ต.จำเริญ วรทอง  ด.ต.ศุภชัย เอมพรหม ด.ต.สายัณห์ เจริญขำ  ด.ต.ประโยชน์ น้อยระแหง ด.ต.ชะลอ ทิมรอด  

 วันนี้ กากีกลาย จะพาไปรู้จัก1 ใน มดงาน ฉลามดำ ดาบเริญ-หรือร.ต.ต.จำเริญ วรทอง  อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน-อุไรวรรณ เทียนทอง ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาจังหวัดนครสวรรค์ 

 เส้นทางสีกากีไปสู่ถนนการเมืองของเด็กหนุ่มชุมแสง จ.นครสวรรค์ ลูกชายคนที่4 คนสุดท้อง จากครอบครัวที่พ่อเป็นกำนัน มีแม่เป็นค้าอยู่บ้านนอก  ก้าวตามรอยพี่ชายที่เป็นตำรวจ เข้าโรงเรียนพลตำรวจภูธรภาค6 ปี 2518 ก่อนบรรจุที่กองเมืองเชียงใหม่ และ ที่น่าน 6 ปี ก่อนกลับมาอยู่โรงพักปากน้ำโพ ในปี 2524 และได้พบกับฉลามดำตัวพ่อ สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ เป็นครั้งแรก

 ฉลามดำจับทุกอย่างที่ขวางหน้า

 “ตอนนั้นฉลามดำ ทำงานกันอย่างเดียว คือทำงานกับท่านสมพงษ์  เน้นทั้งบู๊ ทั้งบุ๋น แต่ผมจะหนักไปทางงานสืบสวนซะมาก  เรื่องของฉลามดำ เป็นเรื่องของสืบจังหวัดนครสวรรค์ จริงๆมีกันแค่หลักๆ  อยู่ที่ตัวทำงาน 4-6 คนเท่านั้น มีสมศักดิ์ จันทะพิงค์  ตอนยังเป็นร.ต.ท. ดำรงค์ เพชรพงศ์  เป็น ร.ต.ต. ตอนนั้นฉลามดำ กำลังฮอต จับทุกอย่างที่ขวางหน้า ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ยาเสพติด แล้วใช้ระบบแรงๆ แต่ไม่ใช่ไปฆ่าไปแกงนะ”สจ.นครสวรรค์ในวัย 63 ปีเริ่ม

สร้างชื่อกระฉ่อนเมืองเชียงใหม่

จบตำรวจใหม่ๆไปอยู่กองเมืองเชียงใหม่ มี พ.ต.ท.ชาญ นุตกำแหง เป็นสารวัตรใหญ่ ความที่เป็นตำรวจใหม่ ใจรักงานสืบสวน ใช้วิธีตัดหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวคดีอะไรต่างๆ ผมไปซื้อสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่ๆ  เอากาวทาข่าวแปะไว้ว่างอ่าน ทีนี้มีคดียิงนายอินถา ศรีบุญเรือง เกี่ยวกับพวกนักศึกษาชาวไร่ชาวนาสมัยนั้น ก็จับมือปืนได้ ชื่อนายวิสูตร ธรรมชัย

พอมันออกจากคุก  ไปจี้จยย.เขากลับไปหาลูกพี่เก่า เจ้าของซ่องต้นโพธิ์ แถวซายูริ เจอตำรวจสกัดจับ มันยิงเข้าหัวตาย 2 ศพ ตอนนั้นผมเป็นสายตรวจหน่วยสายฟ้า รหัสสายฟ้า 02  มี ร.ต.ท.ไกรสีห์ ศรีธวัช เป็นหัวหน้า พอมีข่าวมันหนีไปตรงนั้น ผมรู้เลยว่าต้องเป็นมันแน่ เลยพาพวกไปดักจับตอนเย็น เพราะเชื่อว่ามันจะมาหาแฟนมันที่ขายตัวอยู่   แต่มันโผล่เข้ามาตอนตี 4   

ตัวต่อตัว ปืนดวลระเบิด 

ไอ้วิสูตร ขามันเป๋ แต่ใจเกินร้อย   แต่มาเจอคนอย่างเราเข้า มึง 100 กู 120 ก็อัดกัน  คือผมเป็นคนนิสัยลูกทุ่ง ไม่กลัวอยู่แล้ว เรื่องต่อยตี พอมันจวนตัว มันใช้ลูกระเบิดเอ็ม 26 ขว้างใส่ ตกที่หัวผมบวมปูดเป็นลูกมะนาว  เชื่อมั้ย  กระเดื่องระเบิดทำงานแต่ไม่ระเบิด นี่เรื่องจริง ไปถามพวกที่เชียงใหม่ ได้เลย ทีนี้พอลูกระเบิดโดนหัว ผมก็ล้มตัวบอกเพื่อน ระเบิดๆ ส่วนผมนอนลงไปพร้อมกับใช้ปืน. 357 เหนี่ยวไป  3 นัด  หวังผลเลย หัว หน้าอก ประมาณนี้

สุดท้ายโดนวิสามัญฯหลังสวนดอก

กระสุนไปเข้าหัวไหล่หมด  แต่มันยังหนีได้ หนีเข้าไปในวัดชมพู   มันโยนระเบิดใส่มาอีก คราวนี้ระเบิดแต่ผมไม่เป็นไร  มันคงคิดว่าเราโดน  หนีต่อไปเจอตำรวจตั้งด่านตรงแม่น้ำปิง จับมันได้พร้อมปืน 11 มม.ที่ยิงตำรวจตาย แต่กว่าจะจับได้ ตำรวจในด่านต้องปล้ำจับออกแรง แล้วเอาตัวไปส่งที่โรงพยาบาลสวนดอก เพราะบาดแผลที่ถูกผมยิง แต่มันไม่ยอมง่ายๆแย่งปืนตำรวจที่ไปส่งเลยถูกวิสามัญฯตรงนั้น

นายพงษ์สอน ไม่ใช่หมอ ไม่ต้องไปดูศพ

 เวลาเกิดเหตุอะไร ผมไม่เข้าที่เกิดเหตุเลยนะ  สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ เป็นคนสอนเลย  สไตล์ของแก มีเหตุเกิดขึ้นมา แกจะบอก พวกมึงไม่ใช่หมอ ไม่ต้องไปดูหรอกศพ ไม่ต้องไปดูคนเจ็บ  มึงมีหน้าที่เข้าไปที่เกิดเหตุให้ไวที่สุด หาพยานหลักฐานให้ไวที่สุด  ไปดูศพได้อะไรขึ้นมา อย่างดีก็ได้แค่ รูปร่าง หน้าตา เป็นยังไง คนตาย ไม่ใช่หน้าที่เรา เป็นหน้าที่หน่วยอื่น และผู้สื่อข่าว

ชัวร์ ชัด ใช่ ต้องให้ได้3อย่าง

 การทำงานของผม ทุกอย่างอยู่ที่เซนส์  ต้องให้ได้ทั้ง 3 อย่าง ชัวร์ ชัด ใช่ จบเลยตรงนี้ ผมถึงมาสอนน้องๆ แล้วเวลาผมจับ จะไม่ซ้อม ไม่ทำอะไร ผมใช้นั่งคุย เอากุญแจมือใส่ไพล่หลังก่อน เปิดตาคุยกัน ผมสอนพวกสืบจังหวัด นักสืบทั้งหลายแหล่ บอกมึงเลิกซ้อมเถอะ ซ้อมก็ซ้อมเป็นพิธี ตบได้ ไฟช็อต เล็กๆ น้อยๆ คงทำได้ แต่นี่เตะด้วยรองเท้าคอมแบท  ผมรับไม่ได้ คนมันเอามือไพล่หลัง มึงเตะตรงไหนก็โดนตรงนั้นแหละ  เสยคางก็โดนคาง เตะท้องก็โดน ก็คนมันมือไพล่หลัง แต่ถามว่าเอามันมานั่งกับเราไม่ดีกว่า เหรอ พูดคุยกับเรา

ไอดอลนักสืบ คือ ชลอ เกิดเทศ

ไอดอลของผมก็คือป๋าลอ –ชลอ เกิดเทศ  เพราะมีผลงานเยอะแยะให้เราเรียนรู้ แล้วมีความรู้สึกว่า เป็นคนมีบารมีนะ แค่เรียกมาถาม ใครๆ ทำ ทุกคนก็ตอบหมดเลย นี่เรื่องจริงนะ เรียกแล้วต้องมาเลย  ถามรู้จักกูมั้ย กูเป็นใคร พอรู้เข่าทรุด ต่อหน้าเลย   ป๋าลอ นี่สุดยอดมนุษย์แล้ว  

 งง…มนุษย์ประหลาดนอนชั่วโมงเดียว

ได้ไปทำงานด้วยกัน ตอนแกเป็น ฉก.กรมตำรวจ แกบอก ไอ้เริญ กูเกลียดฉิบหายเลย นักเลงกวนตีน ทำผู้หญิง เอาตัวมาให้กูหน่อย เอาให้ได้ แล้วเวลาป๋าผ่านมานครสวรรค์  จะมาพักที่บ้านผม บอกไอ้เริญ เปิดแอร์ไว้ เดี๋ยวกูมานอนชั่วโมงนึง แค่ได้นอนครอกๆ แป็ปเดียวไปได้ต่อแล้ว เป็นมนุษย์ประหลาด นอนชั่วโมงเดียว แกจะบอกว่า เกินชั่วโมงเรียกกูด้วย แต่ไม่เกินไม่ต้องเรียก

โจรปล้นเพชรซาอุ-เกรียงไกรติดสินบน

 คดีเพชรซาอุฯ ผมก็อยู่กับแก เป็นชุด ฉก.สมัยนั้น ผมนี่เป็นคนเจอเพชร ถุงเบ้อเร่อ นี่เรื่องจริง ไอ้เกรียงไกร วันที่จับได้วันแรก ที่แม่สอด  ตอนแรก ป๋าลอ กับลูกน้องใครต่อใคร นั่งกันเต็มไปหมด  กินเหล้ากัน ส่วนผมตามสไตล์ คนอื่นพูดก่อน พี่มาพูดทีหลัง ป๋าให้พี่เฝ้า ล่ามโซ่มันไว้  ตอนนั้นก็ได้เพชรหลายรายการแล้ว นั่งคุยกับผมที่แพ กินเหล้ากับมัน ก็รินให้มันหนักๆ รินของเราเบาๆ  สักตี 2 ตี 3 มันบอกพี่ ผมยังเหลืออีก 2 ถุง พี่เอาไปถุงหนึ่ง แต่พี่ต้องปล่อยผมนะ

ให้เพชร1 ถุงแลกกับการปล่อยตัว

แต่ไม่ได้ไว้ที่บ้านนะ ไว้หลังบ้าน หลังห้องน้ำ มีต้นมะกรูดอยู่ 2 ต้น ผมขุดหลุมฝังไว้ ต้นแรก พี่เอาไป ต้นที่ 2 พี่อย่าเอานะ อย่ามายุ่งกับผม แล้วพี่ปล่อยผม ใส่กุญแจมือผมไป แต่พี่ปล่อยผมที่บ้าน พี่เอาเพชรไปถุงหนึ่ง เอาไปคนละถุง ผมฟัง เออ จบ เดี๋ยวกูไปเยี่ยวก่อน แล้วก็ไปบอก นายๆ มันรับว่ามีอีก 2 ถุง นายก็เมาด้วย พี่ใหญ่  ก็อยู่ด้วย ตี 2 กว่าๆ แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไปตามที่มันบอกพร้อม ป๋า ก็เจอของกลางอย่างที่มันว่า ดูมันจะติดสินบนผม (หัวเราะ)

ชะตาชีวิตลิขิตเข้าวงการเมือง

 พอปี   2548 ยังเป็นนายดาบ อายุยังอยู่ที่ 50-52 ประมาณนี้ ที่ออกมาเพราะการเมืองนี่แหละ    ถ้าไม่ออก ป่านนี้คงเป็นระดับ รอง ผกก.แล้ว คือตอนนั้น ป๋าเหนาะ เทียนทอง แกพูดกับ เกษม เทียนทอง น้องชายที่เคยมีเรื่องรู้จักกันแล้วเขาประทับใจผม บอกว่า อยากได้คนที่นครสวรรค์มาสมัครเป็น ส.ส.สักคน  พี่เษมเลยบอกป๋า มีอยู่คนนะ เป็นตำรวจ เป็นนายดาบ ชื่อเจริญ มันดีนะ ทีนี้พี่เษม ก็เล่าเรื่องผมที่ประทับใจกันให้ป๋าเหนาะฟัง ป๋าเหนาะบอกชอบคนอย่างนี้ บอกว่า เดี๋ยวจะเอาดาบเป็น ส.ส.ให้ได้คนหนึ่ง   

ได้นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับบิ๊กจิ๋ว

จนกระทั่งพี่เกษม มาบอก ป๋าเขาถูกใจ ให้มาหาป๋าหน่อยนะ อย่าให้เกิน 4 ทุ่มนะ ผมก็ไปถึงเมืองทองธานี ทั้งๆ ที่ไม่รู้ทาง  อาศัยลูกน้องตำรวจ ไปก็ไปกัน ก็เอาวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท ไปด้วย รูปถ่าย อะไรต่ออะไร ตอนนั้นผมก็ไปบอกป๋า บอกว่า ผมกำลังเตรียมจะไปสอบนายร้อยอยู่ เวลานั้นนะ

แกก็พูด ในที่ประชุม บอกว่า เมื่อกี้ ท่านชวลิต ยงใจยุทธ เพิ่งลุกจากโต๊ะ  ป๋าเรียกเริญ มานี่ๆ มาหาป๋า ผมก็คุกเข่า แกบอกไม่ต้องคุกเข่า นั่งที่โต๊ะนี่แหละ รู้มั้ย บิ๊กจิ๋ว นั่งตรงนี้มา ผมก็ตูดร้อนเลย ได้นั่งโต๊ะบิ๊กจิ๋ว แล้วคิดดู คนมานั่งเต็มบ้านไปหมดเลย บ้านป๋า ห้องประชุม คนเป็นร้อย เขาก็มองมาที่ผม ไอ้นี่มันใครวะ

แข่ง ส.ส.ครั้งแรกแพ้แค่ 4,000 คะแนน

ป๋าใส่มาให้ 2 แสน ค่าน้ำมัน  ทำนามบัตร ทำคัตเอาท์ขึ้นเลยนะ ฟังแล้วตลก ไม่อยากจะเชื่อ แล้วสไตล์พี่แบบว่า เขามีความตั้งใจกับเราสูง เราก็ต้องทำให้เขาสมหวังให้ได้ ก็ทำคัตเอาท์รูปยกมือไหว้ ภาพเบอร์ 2 นี่เป็นภาพที่ลงนายก อบจ.เป็นลูกชาวนา จบปริญญาโท

ตอนนั้นผมจบปริญญาโท มาใหม่ๆ เลย ก็โม้เลย ลูกชาวนาปริญญาโท ใส่เสื้อม่อฮ่อม หาเสียง คนเขาก็ชอบ ภาพผมคัทเอ้าท์ ไม่มีเหลือเลยนะ ชาวบ้านเก็บเอาไปหมดเลย เขาบอกว่าชอบ เป็นคนนอบน้อม น่ารักดี แล้วสุดท้ายผมก็มาแพ้พลังประชาชนเวลานั้น แต่คะแนนมาดี แพ้เขาไปแค่ 4,000 กว่าคะแนน เขาก็ว่าเริญ ทำได้ไงวะ ก็บอกว่ามีแค่ว่า “เราไม่ลืมกัน” มีอะไรรับใช้หมด 

งงตัวเอง ด.ต.ได้เป็นที่ปรึกษารมว.  

ตอนนั้นป๋า แกตั้งพรรค ผมเป็นที่ปรึกษาสมัยท่านอุไรวรรณ เมียแก เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ปี 2551 ที่ปรึกษา มี 6 คน ทั้งประเทศ คิดดู ผมเป็น 1 ใน 6 ได้ไปเป็นที่ปรึกษา รมว.แรงงาน สูทก็ใส่ไม่เป็น เน็คไทก็ผูกไม่ได้ ต้องไปซื้อเน็คไท แบบรูดซิป มาล็อกคอ ซื้อสูทใส่ ไปรายงานตัววันแรก ที่มีประชุมคณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่กระทรวง มีอธิบดี ปลัดกระทรวง รองอธิบดี เต็มไปหมด ผมนายดาบคนเดียว ต้องไปนั่งกับเขา ไปรายงานตัว ผมเอารถไปจอดข้างล่าง คนที่มาบอกผม เป็นรองปลัดแรงงาน บอกว่าท่านเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ก็บอกว่าครับ ใช่ๆ ท่านก็พาขึ้นลิฟต์ ไปที่ห้องประชุมชั้น6  

ออกจากลิฟต์ไป เจออธิบดี ปลัด ยืนโค้งผมเป็นแถวเลย เรื่องจริง แล้วเราบ้านนอก   ก็ครับๆ สวัสดี พอนั่งเสร็จปุ๊บ คนนั้นคนนี้ ก็มารายงานตัว สุดท้าย ผมก็บอกว่าผมดาบตำรวจเจริญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาราษฎร์ จ.นครสวรรค์ ทุกคนปรบมือกันลั่นห้องเลย

ชีวิตนี้โตจากสมพงษ์ คงเพชรศักดิ์               

กับพี่พงษ์ ก็เหมือนเดิม ผมมีนายอยู่คนเดียว ถือเป็นนายเหนือหัวสร้างผมมา เป็นคนจุดประกายให้ผมทุกอย่าง แม้กระทั่ง ผมทำบริษัท รปภ. ตอนนั้นแกเป็นผู้การเชียงใหม่ กลับมาบ้าน ก็มานั่งกินข้าวกับแก ก็ยังบอกว่า ไอ้เริญ มึงน่าจะทำ รปภ.ว่ะ พวกมึงเยอะ กูเชื่อมึงทำได้ ก็บอกนาย ผมไม่มีทุน แกก็บอกมาว่า เอาเท่าไหร่ว่ะ เป็นอย่างนี้จริงๆ นะ นายพงษ์ น่ะ ผมก็โตมาจากเขาทั้งนั้น

โกหกคนทั้งปท.ได้ ยกเว้นนายพงษ์

ตั้งแต่ตั้งฉลามดำ ขึ้นมา ชีวิตผมก็อยู่กับเขา ผมขึ้นเวทีงานของแกแต่ละครั้ง ผมจะพูดอยู่คำเดียวว่า ผมเป็นตำรวจ ทั้งประเทศ ผมโกหกได้หมด แต่ไม่โกหกอยู่คนเดียว สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ คนปรบมือเกรียวเลย เรื่องจริง ชีวิตมันอยู่กันมานาน ผมเนี่ยได้เป็นนักสืบที่เก่งได้เพราะนายพงษ์ โดยเฉพาะตัวผม มีปัญหาอะไร แต่ผมเป็นคนอีกอย่าง ถ้ามีปัญหาอะไร ผมไม่อยากจะพึ่งเขา ผมก็โดนเขาด่าทุกครั้ง คือในภาวะที่ไม่อยากจะเอาภาระของตัวเองไปให้เขาลำบากใจ  ผมก็แก้ปัญหาได้ทุกเปลาะๆ

นายบางคน จริงใจ บางคน หลอกใช้